คนที่ท่องโลกโซเชียลมีเดียเป็นประจำอาจได้เห็นคลิปอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถกระบะบ่อยครั้งกว่ารถประเภทอื่น ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
รถกระบะบางส่วนที่จำหน่ายในท้องตลาดมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ฟังแค่นี้ หลายคนอาจอุ่นใจเพราะน่าจะมีการยึดเกาะถนนได้ดีกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้วในการขับขี่เส้นทางปกติอย่างถนนลาดยางทั่วไป ผู้ใช้รถปิกอัพจะขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเป็นหลัก จนกว่าจะออกนอกเส้นทางหรือต้องการลุยดินออฟโรด ถึงจะปรับเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีทั้งโหมด 4H และ 4L ให้เลือกใช้
ระบบขับเคลื่อนเช่นนี้เองที่ทำให้รถกระบะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น เพราะเมื่อบวกกับการใช้เครื่องยนต์ดีเซล (พ่วงเทอร์โบ) ที่มีแรงบิดสูงมาก มักทำให้ตัวรถเกิดอาการโอเวอร์สเตียร์หรือล้อหลังเสียการควบคุม สิ่งที่ตามมาคืออาการหมุนคว้างที่นำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
อาการดังกล่าวแตกต่างจากรถขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเมื่อเสียการควบคุมจะเป็นแบบ “เลี้ยวไม่เข้า” หรืออันเดอร์สเตียร์มากกว่า
รถกระบะยังมีโอกาสที่จะเสียการควบคุมมากกว่ารถยนต์นั่งที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เพราะพื้นที่กระบะท้ายถูกออกแบบมาเพื่อการบรรทุกหนัก เมื่อปราศจากน้ำหนักกดลงบนเพลาหลัง อาการ “ท้ายออก” ก็จะยิ่งเกิดง่ายมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ความสูงจากพื้นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน รวมถึงน้ำหนักตัวรถที่มากกว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กเกือบเท่าตัวก็จะทำให้อุบัติเหตุที่เกิดกับรถกระบะมักมีอันตรายถึงแก่ชีวิตเลยทีเดียว
แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลหรือพลิกคว่ำก็ลดลงหากขับขี่ด้วยความเร็วปกติ และถ้ามีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวติดตั้งมาให้ครบครัน
ช่วงล่างและยางคือหัวใจสำคัญ
รถกระบะยุคปัจจุบัน มีพละกำลังระดับ 200 แรงม้า แรงบิดแตะหลัก 500 นิวตันเมตร ตัวเลขดังกล่าวถือว่าน่าตื่นเต้นในแง่การตลาด แต่จะกลับกลายเป็นความน่าหวาดหวั่นหากยางที่ใช้นั้นอยู่ในสภาพเก่าแก่หรือชำรุด แม้แต่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ล้ำสมัยแค่ไหน หรือระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีเพียงใดก็ไม่สามารถ “เอาอยู่” อย่างแน่นอน
หากคุณต้องใช้งานรถกระบะเป็นประจำ เดินทางระยะไกลอยู่บ่อยครั้ง การตรวจสอบยางอย่างถี่ถ้วนและเป็นประจำมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน ช่วงล่างด้านหลังของรถกระบะประกอบด้วยโช๊คอัพและแหนบแผ่นซ้อนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการรองรับน้ำหนัก จึงมิควรอย่างยิ่งที่จะถูกนำไปตกแต่งโหลดเตี้ย กระบวนการต่าง ๆ ที่ทำให้ชุดแหนบถูกปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเชิงวิศวกรรมจะทำให้สมรรถนะการขับขี่ไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม
อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเทศในรูปแบบที่สดใหม่และแตกต่าง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });