Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เจนเนอเรชั่นที่ 3 เป็น Eco Car คันเล็กที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 และสร้างยอดขายแบบถล่มทลายให้กับ Suzuki (ซูซูกิ) ด้วยความประหยัด ราคาไม่แพง รวมถึงมีตัวถังที่เล็กกระทัดรัด

จึงทำให้ในรูปแบบมือสองก็ยังได้รับความนิยมอยู่ แม้จะหลายปีแล้ว แต่ก็เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเงินเพื่่อซื้อรถคันแรก

รุ่นนี้มีอะไรดี ทำไมถึงน่าสนใจขนาดนี้ มาดูเหตุผลกัน

อะไหล่หาง่าย ไม่ต้องซ่อมบ่อย

เนื่องจาก Suzuki เข้ามาตั้งโรงงานในไทยตั้งแต่ปี 2008 จึงทำให้อะไหล่, เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ยังหาซื้อได้ง่ายทั้งแบบใหม่แกะกล่อง และเซียงกง หรือตามกลุ่มในเฟสบุ้คด้วยราคาที่ไม่แพง 

ออกแบบรูปทรงแนวกล่อง Cubical Design ที่แปลกแตกต่างจากรถซัพคอมแพ็คค่ายอื่นในขณะนั้น มาแบบเรียบตรง ไม่ซับซ้อน สบายตา ทำให้ดูได้นาน ไม่ตกยุคง่าย

อีกทั้งยังมีลูกเล่นการซ่อนเสาหลังคาหน้าสีดำ ให้กลมกลืนกับกระจกหน้า หลอกตาให้ดูกว้างและยาวขึ้น อันเป็นเทรนด์ที่ยังมีใช้จนถึงรุ่นปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม 2023 Suzuki Swift ถอดสปายช็อตสู่ภาพเรนเดอร์ 

ภายในไม่แคบอย่างที่คิด

แม้ว่าจะเป็นรถที่ออกมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่มีความสูงตัวถังถึง 1,510 มม. กับหลังคาแนวตรงเรียบ ไม่โค้งหรือปาดลง ทำให้พื้นที่ศีรษะมีมาก รองรับคนตัวสูงได้ ส่วนเบาะที่สั้นนั้นช่วยเพิ่มพื้นทีวางขา

แม้ว่าจะมีข้อเสียตรงที่เบาะหลังมีความชัน นั่งนาน ๆ แล้วเมื่อยอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นรถที่ไม่ได้มีข้อเสียเรื่องความอึดอัดจนเกินไป

เครื่องยนต์พอดีตัว

Suzuki Swift ใช้เครื่อง M15A แบบเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร กำลัง 100 แรงม้า แรงบิด 132 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์ออโต้ 4 สปีดรางเลื่อนแบบ Gate type ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 14 วินาที

ประกอบกับน้ำหนักรถที่เบาเพียง 1 ตันเท่านั้น ทำให้กำลังแรงม้านี้เพียงพอต่อการฉุดลากสบาย ๆ เพราะเซ็ตอัตราทดจัดจ้านดี

แม้จะเป็นอีโคคาร์ ถือว่ามีช่วงล่างที่แน่นหนึบพอสมควร หากเทียบกับระดับเดียวกัน แต่ถ้าวิ่งบนทางขรุขระ คอสะพาน หรือช่วงความเร็วต่ำ จะรู้สึกได้ถึงความแข็ง สะเทือนของช่วงล่างได้บ้าง

ยิ่งรุ่นปัจจุบันปี 2018 ที่ปรับปรุงเพิ่มช่วงล้อและความยาวฐานล้อ รวมถึงจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง จะช่วยให้เพิ่มการยึดเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

มีความประหยัดน้ำมันพอสมควร แม้อาจไม่เท่ากับที่โฆษณาว่าทำได้ 20 กิโลเมตร/ลิตร แต่จะอยู่ในช่วง 13-16 กิโลเมตร/ลิตร แน่นอน ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่และการใช้งานของแต่ละคนเป็นหลัก

ปัญหากวนใจผู้ใช้

ซูซูกิ สวิฟท์แม้จะมีระบบกระจกข้างปรับลงอัตโนมัติ แต่ต้องกดขึ้นเอง ซึ่งในรุ่นปัจจุบันก็ยังไม่มีให้ แถมที่ปุ่มปลดล็อคที่แผงประตูคนขับไม่มีไฟ หากเป็นตอนกลางคืนต้องเอามือคลำ งมหากันไป หรือไม่ก็เปิดไฟห้องโดยสาร

ส่วนเรื่องความอืดของรถนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำใจ เนื่องจากรถออกแบบมาให้เป็น Eco car บวกกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ทำให้เวลาเร่งต้องรอรอบ จึงดูเหมือนอืด แต่ถ้าได้รอบแล้วจะวิ่งฉิว ขับสนุกพอสมควร 

อ่านเพิ่มเติม Suzuki Swift วาง 4G63T แรงกว่า GT-R หลายม้า

ควรซื้อหลังปี 2012

ในส่วนของรุ่นที่แนะนำ จะเป็นรุ่นท็อป GLX เนื่องจากออพชั่นจำพวก หน้าจอสัมผัส, ปุ่ม Push Start, และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นจะมีมาให้แล้ว

ส่วนปีที่ควรซื้อ คือหลังจากปี 2012 ไปแล้ว เนื่องจากปัญหาของรุ่นที่ผลิตเป็นล็อตแรก ๆ ของซูซูกิ สวิฟท์ มีกระแสลูกค้าคอมเพลนมาให้เห็นเป็นระยะ ทั้งเรื่องแร็คพวงมาลัย, คาลิเปอร์เบรก และเกียร์ CVT

ซึ่งรุ่นหลังจากช่วงปี 2012 ทางซูซูกิได้ทำการแก้ไขแล้ว

ส่วนราคาของ Suzuki Swift เจนแรกมือสองจะเริ่มต้นตั้งแต่ 250,000-400,000 ขึ้นอยู่กับสภาพของรถยนต์และรุ่น แต่ราคานี้ก็จะเป็นปีตั้งแต่ 2012-2017 หากเป็นรุ่นหรือปีที่ใหม่มากราคาก็จะเข้าใกล้มือหนึ่งเล็กน้อย