รถยนต์ Tesla Model X เกิดอุบัติเหตุไถลตกลงไปในน้ำทะเล ความเค็มของน้ำทำให้แบตเตอรี่เกิดปฏิกริยาลัดวงจร เกิดไฟไหม้ใต้น้ำอย่างที่รถสันดาปยังทำไม่ได้ นักดับเพลิงก็ต้องปล่อยให้ไฟสงบเอง
รถยนต์ Tesla Model X เกิดอุบัติเหตุไถลตกลงไปในน้ำทะเล ความเค็มของน้ำทำให้แบตเตอรี่เกิดปฏิกริยาลัดวงจร เกิดไฟไหม้ใต้น้ำอย่างที่รถสันดาปยังทำไม่ได้ นักดับเพลิงก็ต้องปล่อยให้ไฟสงบเอง
เรื่องเกิดจากความผิดพลาดของคนขับ กลับกลายเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนสำคัญของ EV ที่หลายคนคิดไม่ถึงมาก่อน ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีสามีและภรรยาคู่หนึ่ง ใช้รถ Tesla Model X ลากจูงเจ็ทสกีไปยังทะเลแห่งนึง แล้วต้องการจะปล่อยเจ็ทสกีจากหางพ่วงลงสู่ทะเล การกระทำนี้จะต้องถอยรถตรงไปยังพื้นน้ำ เพื่อให้เจ็ทสกีลอยน้ำและแล่นออกไป
อุบัติเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ปล่อยเจ็ทสกีลงน้ำออกไปแล้ว แต่รถ Tesla Model X กลับไหลลงไปในน้ำทะเลด้วย รถค่อยๆจมลงจนมิดถึงหลังคา ด้วยความที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน หลายคนคิดว่าจะเกิดไฟฟ้ารั่วลงน้ำ แต่ผลลัพธ์เกิดเพลิงไฟม้ลุกขึนมา ทั้งที่รถยังอยู่ใต้น้ำทั้งคัน โดยไฟแทรกขึ้นมาเป็นเปลวสีแดงเหนือผิวน้ำ ตามที่ถูกบันทึกได้ในคลิป
สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ มาจากน้ำเค็มจากทะเล รั่วเข้ามาในวงจรไฟฟ้าแรงดันสูง และอาจจะเข้าไปถึงขั้วแบตหรือไม่ ก็ไม่ทราบได้ แต่ที่รู้แน่นอนคือ แร่เกลือในน้ำทะเลเป็นสะพานไฟฟ้าให้เกิดการลัดวงจร ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทำไมรถ Tesla Model X ถึงไม่มีการตัดกระแสไฟเมื่อเกิดการลัดวงจร ทำให้แบตเตอรี่ lithium-ion จ่ายไฟให้วงจรนี้เรื่อย ๆ จนกระทั่งเกิดความร้อนสูง และกลายเป็นเปลวไฟในที่สุด
นักดับเพลิงถูกเรียกเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยให้ไฟไหม้ใต้น้ำต่อไป โดยใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมอดดับไปเอง และมันถูกยกขึ้นจากน้ำด้วยความหวาดระแวงว่ามันจะติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง จึงถูกย้ายไปอยู่ในพื้นที่โล่งอีก 2-3 วันจนแน่ใจ
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะมีรถ Tesla ที่พลัดตกลงในน้ำทะเลมาแล้ว ผลทำให้น้ำทะเลเดือดจากความร้อนสูง โดยทั้ง 2 เหตุการณ์นี้มีแค่ทรัพย์สินเสียหาย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เป็นบทเรียนที่สำคัญว่า รถยนต์ไฟฟ้าจมน้ำทะเล จะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างจากรถยนต์สันดาปทั่วไป ดังนั้นจึงต้องเพิ่มข้อแนะนำให้ EV ทุกคันระมัดระวังการลุยน้ำทะเลมากกว่าเดิม
อ่านเพิ่มเติม : “เราดับมันไม่ได้หรอก” เปิดปากคำนักดับเพลิงต้องควบคุมไฟไหม้รถอีวี ณ ที่เกิดเหตุ