ทำไมถึงควรซื้อ 2012 Honda Jazz นำเข้าญี่ปุ่น ทั้งที่หน้าตาก็คล้าย ๆ กัน ในราคา 300,000 กว่าบาทเท่านั้น


หากนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 โรงงาน Honda (ฮอนด้า) ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้รับผลกระทบอุทกภัยอย่างหนักจนต้องหยุดสายการผลิต แถมยังต้องทำลายรถเนื่องจากถูกน้ำท่วมหมด ไม่สามารถใช้การได้
ความบอบช้ำนี้ทำให้ Honda สาหัส แต่ก็ได้รับการยกเว้นภาษีจากรัฐบาลในการนำเข้ารถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมาขาย เพื่อส่งรถให้ทันกับความต้องการของลูกค้า
และรถที่ได้มาแตะพื้นเมืองไทยก็คือ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ็ส) ในปี 2012 ที่นำเข้ามาขาย โดยมีรายละเอียดต่างจากรุ่นที่ขายไทยเล็กน้อย และถือว่าคุ้มค่ามากหากจะซื้อเก็บไว้ ถ้าคุณไม่อยากขับเหมือนใคร
ภายนอกแทบไม่ต่างจากเดิม
2012 Honda Jazz Japan ส่งตรงมาจากแดนปลาดิบเป็นแบบนำเข้าทั้งคันโดย Honda นำเข้ามาแค่รุ่นเดียวเท่านั้นในราคา 747,000 บาทพร้อมส่งมอบลูกค้าทันที
ตัวรถนั้นภายนอกแทบไม่แตกต่างกับตัวที่ขายไทย แต่ก็มีออพชั่นหลาย ๆ อย่างเพิ่มมาคือ โคมไฟหน้าไฟ HID สามารถปรับสูงต่ำได้
กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว, ไฟตัดหมอกและกันชนสีเดียวกับตัวรถ แถมด้วยไฟท้าย LED ที่เมืองไทยไม่มีให้ ใส่สเกิร์ตข้างและปลายท่อไอเสียโครเมี่ยม


ภายในสะดวกสบายขึ้น
ในห้องโดยสาร Honda Jazz ญี่ปุ่นให้ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มาพร้อมการตกแต่งให้ความหรูหราเล็ก ๆ ด้วยพวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง
หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล และ สีส้มเข้ม Orange Sunset ที่ต่างจากส้มของไทย


เครื่องยังเหมือนเดิม
ใต้ฝากระโปรงยังเหมือนเดิมด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลัง 120 แรงม้า แรงบิด 148 นิวตันเมตรที่ จับคู่ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แต่ไม่สามารถเติมน้ำมัน E20 ได้ สูงสุดแค่ E10 หรือแก็สโซฮอลล์ 91
ที่สำคัญคือพกระบบถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย) ซึ่งช่วงนั้นจะพบเห็นได้แค่เพียงในรุ่น SV+ หรือ RS+ เท่านั้น
ราคาในปัจจุบัน
ปัจจุบันรถรุ่นนี้อาจจะตามหาได้ยากเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการนำมาขายในช่วงสั้น ๆ สามารถหาได้ในราคา 350,000 บาทบวกลบเล็กน้อย บางคันเฉียด 400,000 ก็ยังมี
ซิ้อไว้ใช้คุ้มแน่นอน
อย่างไรก็ตามตัวรถก็ยังถือว่าน่าใช้ อะไหล่หาได้ง่ายเพราะใช้ร่วมกับฮอนด้า แจ็สทั่วไปในประเทศไทย ว่ากันว่ารุ่นญี่ปุ่นที่นำเข้ามานี้ จะได้รถที่เก็บเสียงด่อนข้างดีกว่า
และยังได้เกียร์ 5 สปีดไม่ใช่ CVT จึงค่อนข้างทนทานและขับสนุกกว่า พร้อมอัตราประหยัดน้ำมัน 11-12 กม./ลิตร ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้สำหรับรถที่มีอายุ 9 ปีแล้ว
แต่ก็ต้องมีการสังเกตุดูว่ามีการเฉี่ยว-ชนหรือซ่อมตัวถังมาหรือไม่ แต่ถ้าเจอรถสภาพดี ๆ ซื้อไว้ใช้แตกต่างจากคนอื่นแน่นอน


Patiphanw นักเขียน
นักเขียนมือใหม่ ที่พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปทุกวัน เริ่มชอบรถตั้งแต่เด็กเพราะบ้านเปิดอู่ จึงมีเวลาอยู่กับรถมาก ชอบไปขับรถเล่นตอนกลางคืน เพราะเป็นเวลาที่จะได้อยู่กับตัวเองมากที่สุด
แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมในไทย
ข่าวล่าสุด
เผยสถิติคนไทยส่วนใหญ่ใช้รถนาน 15 ปี คนซื้อรถใหม่น้อยสุด ซ่อมรถเก่าใช้มากกว่า 10 ปีขึ้นไป - Copy
ปั๊มน้ำมันใกล้ฉัน หาเจอง่าย แค่ไม่กี่วิ เพียงทำตามวิธีนี้
เคล็ดลับหาร้านล้างรถใกล้ฉัน เลือกอย่างไรให้คุ้มค่าและได้คุณภาพ
วิธีค้นหาร้านขายอะไหล่รถยนต์ใกล้ฉันง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน!
ค่าต่อภาษีรถยนต์ 2568 รถแต่ละประเภทต้องจ่ายเท่าไหร่
รถยอดนิยม
- เป็นที่นิยม
- ล่าสุด
-
DEEPAL S07
ยังไม่คอนเฟิร์ม
-
Deepal L07
THB 1,329,000
-
Hyundai IONIQ...
THB 1,699,000 - THB 2,399,000
-
Volvo EX30
THB 1,590,000 - THB 1,890,000
-
Honda City
THB 579,500 - THB 839,000
-
Land Rover...
THB 3,000,000 - THB 8,599,000
-
MG Maxus...
THB 2,499,000 - THB 2,699,000
-
Ford Ranger
THB 528,000 - THB 1,519,000
-
MG ES
THB 959,000
-
Honda CR-V
THB 1,369,000 - THB 1,759,000