Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทพ์ อาร์) สร้างชื่อในการเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่เร็วที่สุดรุ่นหนึ่งในโลกยานยนต์มาเนิ่นนาน แต่ชื่อเสียงระดับตำนานดังกล่าวอาจสิ้นสุดลงเมื่อถึงเวลาเปิดตัวรุ่นต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า 2022 Honda Civic Type R เจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีกำหนดการเปิดตัวในอีก 2-3 ปีข้างหน้านั้นจะใช้ระบบไฮบริด เครื่องยนต์พ่วงเทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้า ไฮไลท์อยู่ที่การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่จะช่วยยกระดับสมรรถนะให้สูงขึ้นอีกขั้น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
คำถามคือทำไม Civic Type R รุ่นต่อไปต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คำตอบอยู่ที่การแข่งขันในเซกเมนท์รถคอมแพ็กต์สมรรถนะสูงในปัจจุบันมีความดุเดือดมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงมี Honda Civic Type R และ Renault Magane RS Trophy-R ที่ขับเคี่ยวกันอยู่เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงคู่แข่งระดับพรีเมียมจากเยอรมนีอย่าง Mercedes-Benz AMG A45 และ BMW M135i x xDrive อีกด้วย
เทียบพละกำลังรถสมรรถนะสูงขนาดคอมแพ็กต์
|
รุ่นรถ |
แรงม้า |
แรงบิด |
Honda Civic Type R |
306 |
400 |
Renault Magane RS Trophy-R |
296 |
399 |
Mercedes-Benz AMG A45 |
421 |
500 |
BMW M135i x xDrive |
306 |
450 |
เห็นได้ว่าแรงบิดของ Civic Type R เป็นรองคู่แข่งจากเยอรมนีทั้งสองโมเดล หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือข้อจำกัดของระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีศักยภาพการถ่ายทอดพละกำลังเป็นรองระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออยู่พอสมควร
Honda เคยประกาศไว้ว่าจะติดตั้งพลังงานไฟฟ้าไว้ในระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ทุกโมเดลที่จำหน่ายในยุโรปภายในปี 2025 และปฏิเสธไม่ได้ว่า Civic Type R เจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีกำหนดการเปิดตัวในปี 2022 หรือ 2023 นั้นจะต้องใช้ระบบไฮบริดอย่างแน่นอน
เว็บไซต์ Bestcarweb.jp ของประเทศญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างข้อมูลวงในว่า All-New Civic Type R จะใช้เครื่องยนต์บล็อก 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมแต่การติตตั้งมอเตอร์อีก 2 ตัวเพื่อทำหน้าที่ขับเลื่อนล้อหลัง ทำให้พละกำลังสูงสุดจะขยับขึ้นไปถึงระดับ 400 แรงม้า
ระบบไฮบริดจะขัดใจสาวก Type R หรือไม่
แน่นอนว่าแฟนพันธุ์แท้ Civic Type R ย่อมชื่นชอบเครื่องยนต์สันดาปแบบเพียว ๆ คำรามเสียงขุมพลัง V-TEC Turbo ตามสไตล์ Honda แต่ในทางกลับกัน ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าก็เป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงในอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ มอเตอร์ไฟฟ้าไม่เพียงช่วยเพิ่มสมรรถนะแต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดมลพิษได้อีกด้วย
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องจับตามองคือการแปลงร่างจากรถ FWD หรือขับเคลื่อนล้อหน้ากลายเป็น 4WD หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ
บางคนอาจมองว่าเสน่ห์ของ Civic Type R คือการเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในโลก แต่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งถ้า Honda ต้องการรีดเค้นสมรรถนะให้สูงขึ้นจนสามารถเบียดกับ AMG A45 ได้สูสีกว่าเดิม
เมื่อถึงเวลาเปิดตัว All-New Honda Civic Type R อย่างเป็นทางการ ระบบไฮบริดและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD คงจะเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันในวงกว้างเหมือนกับที่ Civic Type R เจนเนอเรชั่นที่ 4 เคยเรียกเสียงฮือฮาด้วยการมาพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จเป็นครั้งแรก และสุดท้ายแฟน ๆ ส่วนใหญ่ก็เปิดใจยอมรับแต่โดยดี
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });