เพิ่มแรงม้าด้วยกล่องบาลานซ์ไฟได้ไหม ? ถ้ามันดีจริง ทำไมบริษัทรถไม่ใส่มาให้เลย มีคำตอบที่นี่

กล่องคุมแรงดันไฟฟ้าในรถยนต์ (Voltage stabilizer) หรือบางคนเรียกว่ากล่องบาลานซ์ไฟ ที่นิยมใส่ในรถบางคันใส่แล้วความแรงชัดเจนดี ส่วนบางคันติดแล้วเฉย ๆ และบางคันใส่แล้วไฟไหม้ จนเกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในวงการรถยนต์ ว่าดีจริงหรือ ? บทความนี้จะไขข้อสงสัย ด้วยหลักวิทยาศาสตร์เบื้องต้น ไม่มีศัพท์ยาก พร้อมเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย สุดท้ายจะมีคำตอบว่า ถ้ามันดีจริง ทำไมผู้ผลิตรถยนต์ถึงไม่ใส่ในรถตั้งแต่แรก ?

ปัญหาไฟตกในรถยนต์

รถยนต์สมัยใหม่มีส่วนประกอบไฟฟ้ามากมาย ดึงไฟจากไดชาร์จและแบตเตอรี่ เช่น ไฟหน้า จอ LCD เครื่องเสียง และ ECU หากมีโหลดน้อย (ปิดเครื่องเสียง ปิดแอร์ ปิดไฟหน้า ฯลฯ) ไฟฟ้าที่ผลิตจากไดชาร์จ จะไหลเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ปัญหาจะเริ่มมีเมื่อโหลดไฟฟ้าเพิ่มสูง (เปิดเครื่องเสียง แอร์ ไฟหน้า ระบบอำนวยความสะดวกสารพัด) ทำให้แบตเตอร์รี่จ่ายไฟได้ไม่เร็วพอ (โดยเฉพาะแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดรุ่นถูก ๆ) ส่งผลให้เกิดความผันผวนของแรงดันไฟฟ้าเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ไฟหน้ารถหรี่ลง เมื่อแอร์เริ่มทำงาน ยิ่งรถรุ่นเก่าจะยิ่งเห็นชัดเจน

เปรียบเทียบง่าย ๆ ไฟฟ้าก็เหมือนน้ำ ส่วนแบตเตอร์รี่ก็เหมือนเขื่อนเก็บน้ำ รถยนต์ก็คือเมืองที่ต้องการน้ำ เมื่อเปิดใช้น้ำประปาพร้อมกันทั้งเมือง ระดับน้ำแห้งขอดลง เพราะเขื่อนจ่ายน้ำไหลลงมาไม่เร็วทันใจ จึงเกิดภาวะแล้งน้ำชั่วขณะนั่นเอง

ความผันผวนของแรงดันไฟฟ้าเล็กน้อยนี้ จะไม่ทำให้รถของคุณระเบิดโดยทันที แต่สะสมความสึกหรอไปเรื่อย ๆ จนอาจทำให้อายุการใช้งานของส่วนประกอบไฟฟ้าในรถสั้นลง 

อ่านเพิ่มเติม : จริงหรือไม่? ใช้น้ำสะอาดเติมแบตเตอรี่แทนน้ำกลั่นก็ได้ แบตไม่พัง

กล่องคุมแรงดันไฟฟ้าทำงานอย่างไร?

ปัญหาดังกล่าวนี้ คือสิ่งที่กล่องคุมแรงดันไฟฟ้าในรถยนต์เข้ามาช่วย หลักการทำงานก็สมชื่อ มันจะลดความผันผวนทางไฟฟ้า และช่วยให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่มีประจุและกระแสไฟที่สม่ำเสมอ

เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่ากล่องคุมแรงดันไฟฟ้าเป็น บ่อน้ำบาดาล ที่ช่วยจ่ายน้ำให้เมือง ลดความแล้งได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างที่รอน้ำมวลใหญ่จากเขื่อนลงมานั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : จะวางเครื่องใหม่ หรือจะโอเวอร์ฮอล 2 ทางเลือกความแรงเหมือนใหม่ แต่มีดีตางกัน

ประโยชน์ของกล่องคุมแรงดันไฟฟ้า

กล่องคุมแรงดันไฟฟ้าที่ทำงานเพื่อขจัด “ความผันผวนทางไฟฟ้าขนาดย่อม” ส่งผลต่ออุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าดังนี้

• ความคมชัดของเสียงลำโพงดีขึ้น

• ความสว่างของไฟหน้าคงที่ขึ้น

• หน้าจอเครื่องเสียงมีอายุการใช้งานนานขึ้น

• แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

เพิ่มแรงม้าได้จริงไหม ?

คำตอบคือ ไม่ได้เพิ่มแรงม้า แต่ลดการสูญเสียแรงม้าจากเดิม นั่นหมายความว่า เมื่อรถคุณออกมาใหม่จากโรงงาน สมมุติว่ามี 100 แรงม้า เมื่อใช้ไปแล้วเกิดความสึกหรอจนไฟตกวูบ คันเร่งไฟฟ้าทำงานไม่ดี กล่องอีซียูไฟฟ้าประมวลผลไม่เร็ว หัวเทียนได้รับไฟไม่เต็มกำลัง ก็ทำให้แรงตกจาก 100 เหลือ 98 เป็นต้น

กล่องคุมแรงดันไฟฟ้าเพื่อขจัด “ความผันผวนทางไฟฟ้าขนาดย่อม” ชิ้นนี้ จะช่วยเติมเต็มไฟฟ้าที่ขาดหายไป ให้แต่ละส่วนประกอบมีไฟในการทำงานได้อย่างเต็ม 100 แรงม้าอีกครั้ง

เปรียบเทียบง่าย ๆ คือเหมือนกับ บ่อน้ำที่จ่ายน้ำให้คนเมือง ลดภาวะแล้ง ทำให้คนไม่หิวน้ำ คนจึงมีแรงไปทำงานเป็นปกติอีกครั้ง นับว่าบ่อน้ำมีส่วนช่วยเพิ่มแรงในทางอ้อมก็ย่อมได้

อ่านเพิ่มเติม : เอา Isuzu D-Max ไป 'จูนกล่อง' เพิ่ม 50 ม้า อะไรคือจูนกล่อง และคุ้มหรือไม่กับราคาเป็นหมื่น

ทำไมบางคันติดแล้วไม่ได้ผล ?

รถบางคันมีความเก่ามาก อุปกรณ์หลายอย่างก็เสื่อมสภาพมากเกินเยียวยา เช่น ไม่ต่อสายดิน (กราวนด์) หรือขั้วไฟฟ้าสกปรก มีสนิม ขึ้นขี้เกลือ มีอุปกรณ์ดัดแปลงมาเกินความจุแบตเตอร์รี่เดิมจะรับได้

เปรียบเหมือนคนที่อ่อนแออยู่แล้ว ต่อให้ได้รับน้ำจนเต็มที่ ก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มกำลัง ดังนั้นรถที่อายุเกิน 10 ปีขึ้นไป ควรหมั่นเช็คกราวนด์ เช็คคอยล์จุดระเบิด หากมีการดัดแปลงอุปกรณ์เพิ่มเติม ต้องดูความจุแบตด้วย(แอมป์) ว่ารองรับพอหรือไม่

ทำไมรถยนต์รุ่นใหม่ ไม่ติดตั้งมาจากโรงงาน

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งมีอายุ 10 ปีหรือต่ำกว่านั้น ที่ไม่ได้ดัดแปลงของแต่งเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวปรับแรงดันไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่มีแบตเตอรี่แบบทันสมัย (แบตกึ่งแห้ง, แบตแห้ง, แบต AGM) และระบบไฟฟ้าที่ล้ำหน้ากว่า ซึ่งทำหน้าที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ จนแทบไม่มีไฟฟ้าผันผวนตกวูบอีก เว้นแต่ว่า คุณถอยรถใหม่มา แล้วติดเครื่องเสียงดอกใหญ่ ติดจอทีวีทุกที่นั่ง ติดระบบแสงสีรอบคัน แบบนั้นก็สมควรซื้อกล่องคุมแรงดันไฟฟ้า มาเสริมด้วย

แม้ไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ถ้าใครจะซื้อติดรถไว้เพื่อความอุ่นใจ ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อรถแต่อย่างใด เว้นแต่ว่าไปซื้อของปลอม เกรดต่ำ ซึ่งนอกจากไม่ช่วยจ่ายไฟเลี้ยงแล้ว ยังอาจจะเป็นภาระเพิ่มความต้านทานไฟฟ้าไปอีก และอาจจบที่การเกิดอุณหภูมิสูง จนไฟไหม้รถได้

อ่านเพิ่มเติม : ไม่อยากให้รถไฟไหม้ อย่าเอา 7 สิ่งนี้ไว้ในรถเมื่อจอดตากแดดนาน

สรุปแล้วรถเก่าทุกคัน ไม่จำเป็นต้องใส่กล่องคุมแรงดันไฟฟ้า เพียงแค่ดูแลซ่อมแซมชิ้นส่วนไฟฟ้าให้สมบูรณ์ เช่น เปลี่ยนกราวนด์ เปลี่ยนคอยล์ เช็คโปรแกรมอีซียู ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพใหม่พร้อมใช้เสมอ เท่านี้ก็ใช้งานได้ราบรื่นแล้ว เปรียบเหมือนเมืองที่แม่น้ำให้ไหลสะดวก ไม่ติดขัด ก็ไม่เกิดภาวะแล้ง จึงไม่จำเป็นต้องมีบ่อน้ำบาดาลก็ได้ แต่ถ้าใครจะมีบ่อน้ำสำรองไว้ใช้ ก็ไม่ผิดอะไรนะครับ

อ่านเพิ่มเติม : Flush Style ล้อแบะโหลดเตี้ย เกาะถนนจริงไหม เขาวิ่งกันได้ยังไง