2023 Mitsubishi Xpander Cross (2023 มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ได้มาโชว์ตัวจริงก่อนในงาน GIIAS 2022 ซึ่งเป็นงานมอเตอร์โชว์ของอินโดนีเซีย พวกเรา AutoFun Thailand จึงนำภาพมาให้ได้รับชมกันก่อนจะเจอคันจริงในบ้านเรา
2023 Xpander Cross รุ่นไมเนอร์เชนจ์ได้รับการปรับปรุงในหลายส่วน โดยเป็นการปรับปรุงภายนอกและภายในให้ทันสมัย และยังปรับปรุงด้านการขับขี่ให้สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยราคาในบ้านเราได้เคาะไปแล้วที่ 939,000 บาท
- ภายนอกดุดันยิ่งขึ้น ภายในที่หรูหราและทันสมัยกว่าเดิม
- ขุมพลังเดิม
- ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
- ราคาแพงสุดในคลาส
ภายนอกดุดันยิ่งขึ้น
สำหรับภายนอกของ Xpander Cross รุ่นไมเนอร์เชนจ์ยังคงใช้การออกแบบสไตล์ Dynamic Shield อันเป็นเอกลักษณ์ แต่ได้เพิ่มเติมให้ดูดุดัน ทันสมัย และหรูหรายิ่งขึ้น
สิ่งที่เพิ่มเติมมาจากรุ่นก่อน ได้แก่ ไฟเดย์ไลท์อยู่ด้านบนสุดมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์เล็กน้อย, ตรงกลางมีไฟหน้า LED แบบ T-Shape, ไฟตัดหมอกแบบ LED ที่เปลี่ยนจากทรงกลมเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เส้นสายโดยรวมมีความเหลี่ยมสันมากขึ้น ตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว รวมถึงซุ้มล้อที่ดูเข้ากันเป็นอย่างดี
ภายในที่หรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารจะเน้นในด้านของความหรูหราที่เพิ่มมากขึ้น เริ่มที่การบุนุ่มบนแผงคอนโซลด้านหน้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการตกแต่งด้วยสีดำเงา
ภายในยังมีจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว ระบบปรับอากาศดิจิทัล และระบบเบรกมือไฟฟ้ามาให้ และยังมีชุดมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้วและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่ได้รับมาจากรุ่นพี่อย่าง Mitsubishi Pajero Sport ซึ่งเพิ่มความพรีเมียมให้แก่ครอสโอเวอร์รุ่นนี้
รถคันนี้ยังมีออพชั่นด้านความสะดวกสบาย ได้แก่ ช่อง USB ทั้ง type A และ C แท่นชาร์จไร้สาย กล้องรอบคัน และกรองอากาศเพื่อให้ได้รับอากาศที่ดีเมื่ออยู่ในห้องโดยสาร
นอกจากนี้ รถคันนี้ยังมีความเอนกประสงค์ เช่น จุดใส่ทิชชู่บริเวณคอนโซลกลาง การพับเบาะหลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
การขับขี่ที่ดีขึ้น
มิติตัวถังของ Xpander Cross ไมเนอร์เชนจ์ มีความยาว 4,595 มม. ความกว้าง 1,790 มม. และความสูง 1,750 มม. โดยมีระยะความสูงจากพื้นอยู่ที่ 220 มม.
สำหรับช่วงล่างด้านหลัง มีการใช้โช้คอัพจาก Pajero Sport เข้ามา ซึ่งจะเพิ่มสมรรถนะทางลุยและให้ความสบายในการขับขี่ที่ดีขึ้น แม้ตัวรถจะดูสูงขึ้นก็ตาม
ขุมพลังเดิม
รถคันนี้ยังใช้ขุมพลังเดิมซึ่งก็คือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรเช่นเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้เกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ Eco-Dynamic CVT ที่ตอบสนองด้วยอัตราเร่งที่ดีมากขึ้น และจะช่วยเรื่องการประหยัดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มอุปกรณ์ซับเสียงให้เงียบขึ้น
ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
ระบบความปลอดภัยของ Xpander Cross รุ่นไมเนอร์เชนจ์ นั้นได้รับการอัพเกรดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ได้แก่ เบรคมือไฟฟ้าพร้อม Brake Auto Hold (BAH) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในสถานการณ์รถติด และมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมี ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งระบบควบคุมการส่ายหรือ Active Yaw Control (AYC) เพิ่มเติมเข้ามา ช่วยควบคุมแรงเบรกของล้อด้านนอกและด้านในโค้ง ทำให้ตัวรถมีเสถียรภาพและสมดุลมากขึ้น
ขณะที่ระบบอื่น ๆ ยังให้อย่างครบครัน ได้แก่ ระบบเบรก ABS, EBD, BA รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบป้องกันการลื่นไถล กุญแจรถแบบคีย์เลส รวมถึงถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
คู่แข่งจะแซงไหมนะ
การกลับมาทำตลาดอย่างจริงจังของเข้าตลาดทั้งสองอย่าง Toyota Veloz ในช่วงที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยด้านความสดใหม่ ออพชั่นที่ล้นคัน และราคาที่น่าคบหา และ Honda BR-V ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ด้วยความสดใหม่และสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือคู่แข่ง
Mitsubishi Xpander Cross รุ่นไมเนอร์เชนจ์ของปี 2023 นี้มีราคาเปิดตัวในอินโดนีเซียเริ่มต้นที่ 309.95 - 335.75 ล้านรูเปียห์ เท่ากับประมาณ 746,000 - 808,000 บาท ขณะที่ราคาในบ้านเราเคาะเริ่มต้น 939,000 บาท ซึ่งแพงสุดในคลาส
การปรับโฉมครั้งนี้ของ Mitsubishi Xpander Cross จะยังคงรักษายอดขายไม่ให้ห่างเจ้าตลาดต่อไปได้หรือไม่ ต้องคอยดูกันต่อไป
ก่อนที่เราจะเจอตัวจริงของ 2023 Mitsubishi Xpander Cross อย่างเป็นทางการ เราสามารถอ่านการทดลองขับ 2022 Mitsubishi Xpander รอก่อนได้ที่นี่