เผยข้อได้เปรียบ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่จากจีน ทำไมจะครองเจ้าตลาดรถยนต์

ตลาดรถยนต์ในจีนกำลังจะกลายเป็นสมรภูมิยานยนต์ของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ ตั้งแต่ Huawei, Baidu และ Xiaomi ที่กำลังจะทุ่มเงินลงทุนมหาศาลระดับหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทไอทีจากจีนไม่เพียงต้องแข่งขันกันเอง แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติอย่าง Volkswagen AG และ General Motors มิพักต้องพูดถึงค่ายรถและบรรดาสตาร์ทอัพร่วมชาติอีกมากมายที่ปักหลักเสริมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจมานานหลายปีแล้ว

งาน 2021 เซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่ได้เป็นแค่เวทีการปล่อยของของบริษัทรถยนต์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่บริษัทไอทีจากจีนก็ประกาศเจตนารมย์ชัดแจ้งว่าพวกเขาต้องการแบ่งเค๊กก้อนใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน และดูเหมือนพวกเขาจะเดินมาถูกทาง

ภายในบูธของ Huawei สามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่ากลุ่มทุนยานยนต์อย่าง China Evergrande New Energy Vehicle Group Ltd. ที่อยู่ข้างกัน เพราะมีการเผยโฉมรถต้นแบบอย่าง Huawei Seres SF5 ที่อัดแน่นเทคโนโลยีภายในรถอย่างครบครันและกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

ถึงแม้ Huawei จะประกาศยืนยันหลายครั้งว่าพวกเขาจะไม่ผลิตรถยนต์ขึ้นมาเอง แต่จะจับมือกับบริษัทรถยนต์พันธมิตรอย่าง BAIC Motor Corp., Chongqing Changan Automobile Co., และ Guangzhou Automobile Group Co. เพื่อร่วมกันผลิตแทน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังจับตามองบริษัทไอทีจากจีนที่เริ่มคืบคลานเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

อีริค ซู รองประธานใหญ่ของ Huawei กล่าวว่าตลาดรถยนต์ในจีนนั้นมีขนาดใหญ่มหึมาเกินกว่าที่จะเพิกเฉยไปได้

“ตลาดจีนมียอดขายรถยนต์ 30 ล้านคันต่อปี และตัวเลขดังกล่าวเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเราสามารถทำรายได้ 10,000 หยวนต่อการขายรถ 1 คันในจีน นั่นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากทีเดียว” ซู กล่าวเพิ่มเติม

เผยบริษัทไอทีใช้ความเชี่ยวชาญให้เป็นประโยชน์

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทไอทีหรือบริษัทเทคโนโลยีกระโดดเข้ามาร่วมวงการพัฒนาธุรกิจในตลาดรถยนต์ก็เพราะการขยายตัวของรถยนต์อัจฉริยะและเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติที่จำเป็นต้องใช้นวัตกรรมขั้นสูง

“พวกเขา (บริษัทไอทีจากจีน) จะมุ่งเน้นที่เทคโนโลยีอัจฉริยะเป็นหลัก” เยล จาง กรรมการผู้จัดการบริษัทวิจัยตลาด Autoforesight Co. ให้ความเห็น “การสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่การสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความอัจฉริยะนั้นคือเรื่องยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่บริษัทไอทีต่าง ๆ มีความเชี่ยวชาญ รายได้หลักของพวกเขาจะไม่ได้มาจากการจำหน่ายรถยนต์ แต่จะมาจากบริการหลังการขาย อย่างการอัพเดทไร้สายหรือ OTA หรือการขายซอฟต์แวร์ เป็นต้น”

Baidu คือหนึ่งในบริษัทไอทีที่ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทคาร์ โดยวางแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกภายในอีก 3 ปีข้างหน้า และเปิดตัวรถใหม่ในทุก 12 – 18 เดือนหลังจากนั้น

“มูลค่าของรถยนต์ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับว่ามีความอัจฉริยะมากน้อยเพียงใด ยิ่งบริษัทวางแผนได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น และยิ่งมีเทคโนโลยีขั้นสูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งควบคุมตลาดได้มากเท่านั้น” เจีย หยีปิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Baidu กล่าว

ด้าน Xiaomi ก็เพิ่งประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายใน 1 ทศวรรษข้างหน้าเพื่อสร้างรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมหรือกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่ก็มีรายงานว่าพวกเขาจะจับมือกับ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์)

เล่ย จุน ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Xiaomi เปิดเผยว่าเขาจะเป็นผู้นำโครงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าด้วยตนเอง และยืนยันว่าการลงทุนครั้งนี้คือ “การเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและจะเป็นครั้งสุดท้าย” ของเขา

“เรามีเงินทุนมหาศาลสำหรับโครงการนี้ ผมตระหนักดีว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีความเสี่ยงสูงมาก และผมทราบดีว่าการลงทุนครั้งนี้จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 – 5 ปีพร้อมเงินลงทุนมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ” เล่ย กล่าว

ถึงแม้บางคนอาจมองว่าบริษัทไอทีจากจีนเข้ามาในอุตสาหกรรมยานยนต์ช้าเกินไปเพราะต้องเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่มากมาย แต่จริง ๆ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการ "มาทีหลัง" ทำให้พวกเขามีข้อได้เปรียบ

“อุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ใช่อุตสาหกรรมสำหรับผู้บุกเบิก ในทางกลับกัน ผู้บุกเบิกมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่เป็นผู้ตามต่างหากที่ประสบความสำเร็จ เพราะผู้บุกเบิกต้องลองผิดลองถูกและต้องรับบทเรียนทั้งหมด ส่วนผู้ตามก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว” สตีเฟน ไดเออร์ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยตลาด AlixPartners กล่าว

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
May

นักเขียนอาวุโส

อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเ...

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Mitsubishi Xpander

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ