ชื่อ BYD (บีวายดี) อาจไม่เป็นที่รู้จักในไทยมากนัก รวมถึงในตลาดโลก และเมื่อเทียบกับแบรนด์เจ้าตลาดของโลกอย่าง Tesla (เทสล่า), Toyota (โตโยต้า) หรือ Volkswagen (โฟล์คสวาเกน)
ค่ายรถยนต์ที่มาแรงในตอนนี้คงหนีไม่พ้น Lucid (ลูซิด) ที่ตอนนี้มูลค่าในตลาดมากกว่า Ford ไปแล้ว ซึ่งในตอนนี้คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ค่ายใหม่มาแรงเหล่านี้ยังแพ้ BYD ที่มีมูลค่าในตลาดเป็นอันดับที่ 3 เป็นรองเพียง Tesla และ Toyota เท่านั้น
จากการรายงานของ Yicai Global ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่โฟล์คสวาเกนถอนหุ้นจาก Rivian ขณะเดียวกกันกับที่หุ้นของทาง Rivian ตกลงเนื่องจากข่าวยุติความร่วมมือกับฟอร์ด
ทำให้มูลค่าของโฟล์คสวาเกนขึ้นมาเป็นอันดับ 3 หลังจากนั้นไม่นาน Tesla ก็ก้าวขึ้นเป็นผู้นำของตลาด โฟล์คสวาเกนมีแผนที่จะก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ในสักวัน แต่ BYD ค่ายรถจากจีน คงทำให้แผนการนั้นยากขึ้นสักหน่อย
การที่ BYD เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ แบตเตอรี่ ไปจนถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์ สิ่งนี้น่าจะเป้นประโยชน์ในสถานการณ์ที่ขาดแคลนชิปทั่วโลกและเพิ่มยอดขายมากพอจนปรากฎในมูลค่าของตลาด
ผลิตภัณฑ์ของ BYD ส่วนใหญ่จะทำตลาดในประเทศจีน และประเทศอื่นเล็กน้อย เช่น นอร์เวย์ และบางประเทศแถบลาตินอเมริกา ซึ่งเหมือนกับว่าการทำตลาดเช่นนี้ก็เพียงพอกับการเพิ่มมูลค่าในตลาดแล้ว
เนื่องจากประเทศจีนคือตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทางค่ายรถก็ได้ตั้งเป้าให้แพลทฟอร์มรถอีวี e-platform 3.0 ทำให้การเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นอีกด้วย
BYD ต้องการเปิดตลาดเพิ่มไปยังประเทศอื่นอีกด้วย จึงได้ประกาศว่าจะเริ่มจำหน่าย BYD Han และ Tang ในบราซิล และจะขาย BYD Dolphin ในยุโรปและประเทศอื่น ๆ ในทันทีที่การผลิตเอื้อให้แผนการขยายตัวเป็นไปได้ด้วยดี
ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น Toyota จะกลายเป็นที่ 3 และ BYD จะเข้าที่ 2 ในทันที และนั้่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
การที่มูลค่าในตลาดของ BYD เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยังมีอีกปัจจัยหนึ่ง คือการทำรถอีวีในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ และมีเทคโนโลยีที่ดี ได้แก่ การใช้แบตเตอรี่ LFP ซึ่งรองรับการขับขี่ได้ถึง 1.2 ล้านกิโลเมตร และสามารถชาร์จเร็วได้สุงสุดถึง 800V (เท่ากับ Porsche Taycan)
สิ่งเหล่านี้ทำให้รถอีวีเป็นที่นิยมในตลาดมากขึ้น มียอดขายมากขึ้น ส่งผลให้มูลต่าในตลาดเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และด้วยความที่ผู้ผลิตรถอีวีรายอื่น ๆ มักมีแผนการในอนาคตที่ล้ำสมัยเกินไป แม้ BYD อาจไม่มีแผนการที่ล้ำสมัยมากมาย แต่แผนการเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็ทำได้จริงทั้งหมด
น่าเสียดายที่แบรนด์รถอีวีที่มีราคาที่จับต้องได้อย่าง BYD ยกเลิกการทำตลาดในไทย ถ้าจะใช้ต้องนำเข้ามาเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเราอาจมีตัวเลือกของรถอีวีที่ดีกว่าตอนนี้ก็เป็นได้
อ่านเพิ่มเติม : Tesla ทำอย่างไรถึงเป็นค่ายรถรายเดียวในโลกที่มีมูลค่าทะลุ 33 ล้านล้านบาท
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}