ถ้าซื้อ Haval Jolion ตัวท็อป ควรจะขยับไปเล่น Haval H6 ตัวล่างดีไหม เทียบสเปคที่คนซื้อต้องรู้

2022 Haval Jolion HEV (ฮาวาล โจไลออน เอชอีวี) เอสยูวีรุ่นกลาง ซึ่งเปิดตัวขุมพลังไฮบริดเป็นที่แรกของโลก แถมยังมีออพชั่นให้ครบครัน โดยเฉพาะรุ่นท็อปสุด จนเป็นที่มาของบทความคู่มือซื้อรถในคราวนี้ว่า ควรแนะนำให้ลูกค้าทั่วไปซื้อรุ่นนี้ใช้มากกว่า 2021 Haval H6 HEV (ฮาวาล เอช6 เอชอีวี) โดยเป็นการเทียบรุ่นท็อปของรถขนาดกลาง กับรุ่นล่างสุดของรถขนาดใหญ่ ดูว่ามีความต่างกันแค่ไหน

ราคาต่างกัน 150,000 บาท

Haval Jolion รุ่นท็อปสุดในไทยคือ Ultra มีราคา 999,000 บาท ส่วนทางด้าน Haval H6 รุ่นล่างสุดคือ Pro มีราคา 1,149,000 บาท ซึ่งมีราคาห่างกันมากถึง 150,000 บาท ทำให้หลายคนคิดหนัก ว่าคุ้มค่าที่จะขยับไปรุ่นใหญ่หรือไม่ เราจึงจับสเปคและออพชั่นของรุ่นย่อยคู่นี้มาเทียบกันชัด ๆ

อ่านเพิ่มเติม : เทียบสเปค Honda HR-V vs Haval Jolion รุ่นล่างสุด ราคาห่าง 1 แสน มีออพชั่นหายจนคิดหนัก

มิติตัวถัง

เมื่อเทียบมิติภายนอกแล้วพบว่า Haval H6 มีความยาวและสูงมากกว่า แต่มีระยะฐานล้อ ความกว้าง และความสูงใต้ท้องรถ แทบไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้นหากใครลองนั่งแล้วคิดว่า H6 สูงเกินไป หรือเทอะทะเกินจำเป็น ลองมองดู Jolion ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ

ออพชั่นสะดวกสบาย

Haval Jolion Ultra รุ่นท็อปมีจุดเด่นกว่า H6 รุ่นล่างตรงที่ หน้าจอสัมผัสตรงกลาง 12.3 นิ้ว ได้หน้าจอ HUD แสดงผลการขับขี่บนกระจกหน้า มีหลังคา Panoramic Sunroof, ที่ชาร์จมือถือ Wireless Charger

ขณะที่ Haval H6 Pro ก็มีสิ่งที่รุ่นน้องไม่มีเช่นกัน นั่นคือประตูท้ายเปิดด้วยไฟฟ้า เบาะฝั่งคนขับมีที่ดันหลัง เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า ลำโพง 8 ตัวพร้อมซับวูฟเฟอร์ นับว่ามีความสูสีกันในด้านออพชั่น

อ่านเพิ่มเติม : เทียบ 3 รุ่นย่อย 2022 Haval Jolion HEV ละเอียดยิบ TECH, PRO, Ultra รุ่นไหนดี รุ่นไหนโดน

ระบบความปลอดภัยเด่น

Haval Jolion ตัวท็อป จัดเต็มความปลอดภัยสูงสุด ประกอบด้วย ระบบช่วยจอดรถ 3 รูปแบบ, ระบบเลี่ยงเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบเตือนพร้อมเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติด้านหลัง 

ส่วนระบบมาตรฐานอื่น ๆ ก็ได้ครบเช่นเดียวกับ Haval H6 Pro ทั้งกล้องรอบคัน 360 องศา, Blind Spot Monitoring, ระบบเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ, ระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลนฉุกเฉิน, Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติด้านหน้า, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบควบคุมให้อยู่กลางเลน, Blind Spot Monitoring นับว่ายกนี้ผู้ชนะคือ Jolion ที่จัดเต็มมากกว่า

เครื่องยนต์แรงจริง

Haval H6 ใช้เครื่อง 4 สูบเทอร์โบ 1.5 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะได้กำลังรวมสูงสุด 239 แรงม้า และแรงบิด 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ DHT อัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 19.2 กม./ลิตร นับว่าให้ความแรงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

Haval Jolion ใช้ขุมพลังขับเคลื่อนระบบไฮบริด มีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว มีพละกำลังรวมอยู่ที่ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ DHT อัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 23.8 กม./ลิตร

โจไลอ้อนน่าใช้กว่า

สรุปแล้ว สาเหตุที่เราแนะนำให้ซื้อ Haval Jolion ตัวท็อป เพราะได้ขนาดตัวรถพอดีกับการใช้งานทั่วไป ไม่ได้คับแคบน่าอึดอัดแต่อย่างใด รวมถึงระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า และมีเครื่องยนต์กำลังเหลือเฟือกับการใช้งานครอบคลุมทั่วไปแล้ว

ในขณะที่ Haval H6 จะได้เปรียบตรงพื้นที่ความสูงตัวรถมากกว่า พื้นที่ความยาวกว่า ได้เครื่องยนต์แรงสะใจ ในออพชั่นที่ไม่ได้แย่มาก ใครชอบความใหญ่และแรง ก้สามารถเพิ่มเงิน 150,000 บาทขยับไปเล่นได้เลยครับ