Haval Jolion

2022 Haval Jolion ภายนอกใหญ่โต และออกแบบมาอย่างโฉบเฉี่ยว

2022 Haval Jolion ตัวรถภายนอกนั้นดูใหญ่โตกว่าคนอื่น ด้วยการออกแบบที่เน้นการตีโป่งของตัวถัง แต่ด้านท้ายออกแบบให้มีความเรียบแบบกล่องในสไตล์รถยุโรป ทำให้

Haval Jolion ดูมีองค์ประกอบของรถหลายยี่ห้อประกอบกันอยู่ แต่ก็มีความลงตัวสวยงามดูดีไปอีกแบบ

มิติตัวถัง Haval Jolion เหนือกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์ ด้วยความกว้าง 1,841 มิลลิเมตร ยาว 4,472 มิลลิเมตรและสูง 1,619 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องโดยสารภายในมีความกว้างขวางสะดวกสบาย ทั้งห้องโดยสารตอนหน้าและหลัง

การออกแบบ Haval Jolion นั้นยังคงใช้แพลตฟอร์มเลมอนเหมือนกับรุ่นพี่อย่างเอช6 มาพร้อมการออกแบบด้านหน้าด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีเทา-ดำ ดูลงตัวกับชุดไฟหน้าแบบแอลอีดีทั้งระบบ ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันและไฟเวลคัมที่ดูแปลกตา

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ 

Haval ตัดระบบประตูหลังแบบไฟฟ้าออกไปจากเจ้าสิงโตอารมณ์ดีตันนี้ซะงั้น แต่ยังดีที่ให้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายสปอร์ตแตกต่างจากเอช6 มาพร้อมยาง 225/55R18 ซึ่งแม้จะดูแก้มหน้าไปนิด แต่ก็ดูสวยงามและทำให้รถดูลงตัวเลย

ด้านท้ายมาพร้อมกับไฟท้ายแบบแอลอีดีทั้งระบบ สปอยเลอร์หลังพร้อมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกหลังแบบแอลอีดี เสาอากาศแบบครีบฉลาม ดิฟฟิวเซอร์หลังออกแบบอย่างดุดันแบบรถเอสยูวี และมาพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่

2022 Haval Jolion ห้องโดยสารที่ให้บรรยากาศหรูหราจนแอบโอเวอร์

แม้จะ Haval Jolion มาพร้อมรูปลักษณ์สปอร์ตที่ดูดุดันขนาดไหนที่ภายนอก แต่บรรยากาศห้องโดยสารนั้นกลับดูเน้นไปที่ความหรูหรา เวอร์วังอลังการมากกว่า ด้วยชุดที่เบาะที่นั่งสีครีมตัดกับแถบสีเทาและน้ำตาล พร้อมการปักโลโก้ HAVAL ที่ตำแหน่งพนักพิง

ใครที่อยากได้เบาะนั่งแนวสปอร์ตอาจจะต้องหาทางเลือกอื่น ๆ แต่เบาะที่นั่งชุดนี้ก็นั่งสบายมากจริง ๆ ออกแนวนุ่มและมีตำแหน่งการนั่ง การรองรับน้ำหนักหลังและเข่าที่ดีมาก แถมมีเจาะรูระบายอากาศให้ด้วย แม้จะปรับไฟฟ้าแค่ที่เบาะคนขับก็ตามที

ที่นั่งตอนหลัง Haval Jolion มาพร้อมที่วางขาและเฮดรูปแบบเหลือ ๆ มีอุปกรณ์มากมายมาให้ ทั้งที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้ว ช่องปรับอากาศด้านหลังและช่องชาร์จไฟแบบยูเอสบี 2 ตำแหน่ง สามารถพับเบาะแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 1,069 ลิตร

จุดที่น่าเสียดายก็คือ เมื่อคุณพับเบาะหลังลงมาแล้ว ตำแหน่งการพับของเบาะหลังนั้นจะไม่เรียบเป็นพื้นเดียวกันกับห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย และตำแหน่งของห้องเก็บสัมภาระนั้นค่อนข้างสูงจากพื้น กรณีที่เราต้องยกของเข้า-ออกก็อาจจะไม่สะดวก

Haval Jolion มีหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วขนาดใหญ่แบบลอยตัว ที่ติดตั้งที่ตำแหน่งกึ่งกลางแผงคอนโซลที่ออกแบบด้วยโทนสีเดียวกับเบาะ และมาพร้อมวัสดุผิวนิ่มที่รับจุดที่มือสัมผัสได้ดีกว่า หน้าจอกลางดังกล่าวรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay การเล่นไฟล์เพลง MP3 และ JOOX รวมถึงการนำทางผ่านระบบนำทาง รวมถึงยังมีระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายขนาดใหญ่ ที่หยิบวางได้อย่างสะดวก และใช้งานได้อย่างสบายอีกด้วย

การแสดงผลข้อมูลการขับขี่เป็นหน้าที่ของหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และการแสดงผลผ่านหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงผลบนกระจกบังลมหน้า มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซนแยกปรับซ้าย-ขวา ที่สามารถกรอง PM2.5 ได้ 

ระบบความปลอดภัย

• ระบบช่วยจอดรถ 3 รูปแบบ
• กล้องรอบคัน 360 องศา
• เซนเซอร์หน้า-หลัง 6 จุด
• ระบบเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ
• ระบบเลี่ยงเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง
• ระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลนฉุกเฉิน
• ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนหลัง
• Rear Cross Traffic Alert
• Rear Cross Traffic Braking
• ระบบเตือนการเปิดประตู
• Adaptive Cruise Control
• ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง
• ระบบเตือนไฟจราจร
• ระบบเตือนเมื่อความเร็วสูงสุดเกินกำหนด

ในรุ่นที่จำหน่ายในประเทศจีน 2022 Haval Jolion ได้รับคำวิจารณ์ในเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองที่ถือว่าสูงอยู่ และเมื่อเข้ามาประเทศไทย พวกเขาทำการติดตั้งเครื่องยนต์ตัวเดียวกับเอช6 ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์ที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าอัตราสิ้นเปลือง ก็คือการเลือกใช้งานเครื่องยนต์ที่มีอัตราการตอบสนองที่ดีอยู่แล้วในรถรุ่นใหญ่ เมื่อมาอยู่ในตัวถังที่เล็กและเบาลง ก็น่าจะทำให้การตอบสนองดุดันขึ้นไปอีก ให้สมกับการเป็นเวอร์ชั่นไฮบริดเป็นครั้งแรกของรถรุ่นนี้

ด้วยการใช้แพลตฟอร์มมะนาวเหมือนกัน ทำให้สามารถเลือกติดตั้งเครื่องยนต์แบบเดียวกันไม่ยาก การทำงานของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ลดทอนกำลังมาที่ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร น่าจะให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น

การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของระบบเกียร์อัตโนมัติ DHT ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด ที่คาดว่าจะมาพร้อมโหมดการขับขี่หลากหลายรูปแบบ เหมือนกับที่รุ่นพี่อย่างเอช6 ก็มีให้เลือกโหมดการขับขี่มากถึง 4 รูปแบบ

Haval คำนึงถึงความสวยงามในการใช้งาน ด้วยการออกแบบชุดเกียร์ไฟฟ้าแบบปุ่มหมุน พร้อมสีพิเศษที่ทำให้มีความโดดเด่น มาพร้อมกุญแจสมาร์ทคีย์และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการใช้งาน

สำหรับ Haval Jolion 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น มีโอกาสทำเพียงครั้งเดียวในโหมดมาตรฐาน และได้ตัวเลขมาที่ 10.38 วินาที มากกว่าที่ฮาวาลเคลมเอาไว้ แต่ก็ดีกว่าตัวเลขที่หลาย ๆ คนบอกเอาไว้ก่อนหน้า โดยรวม ๆ ถือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรในการใช้งาน

ปัญหามันอยู่ที่ หากมาดูในรายละเอียดจะพบว่า 0-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นใช้เวลาไปเพียง 4.38 วินาที ใช่ครับ พอผ่าน 60 ไปแล้ว รถมีอาการตื้อทันทีอย่างชัดเจน และใช้เวลาอีก 6 วินาทีเต็ม ๆ จาก 60-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการทดสอบที่เราทำมาได้

Haval Jolion ระยะทางที่เราวิ่งกลับมา 107 กิโลเมตร ใช้น้ำมันไป 6.205 ลิตร คำนวนออกมาแล้วก็จะออกมาที่ประมาณ 17.24 กิโลเมตรต่อลิตร อันนี้เป็นการทดสอบแบบคร่าว ๆ นะครับ แบกน้ำหนัก 2 คน สัมภาระนิดหน่อย ก็เหมือนการเดินทางแบบปกติทั่วไปเลย

2022 Haval Jolion ยังเป็นแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ ที่ใช้จุดเด่นตรงออพชั่นเพียบ พร้อมราคาที่เอื้อมถึงง่าย เพื่อให้ผลิตขายได้ปริมาณมากอย่างที่ MG ZS เคยทำได้ ดังนั้น ราคาจึงเป็นไม้ตายหลักที่ Haval ต้องไม่พลาดเป็นอันขาด เพราะยังมีคู่แข่งจากจีนอีกหลายค่าย รอเปิดตัวรุ่นใหม่มาขายไทยในปีหน้าเช่นกัน