Owner Review : 2022 Haval Jolion หลาย ๆ ระบบก็ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

รีวิวการใช้งาน 2022 Haval Jolion รุ่น Ultra (ฮาวาล โจไลออน รุ่น Ultra) ในชีวิตจริงจากเจ้าจองรถ กด.ช.รามี 

ระบบเตือน

ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน จะทำงานเมื่อเราขับรถทับเส้นขาวหรือเส้นของทาง จะมีสัญญาณเตือนพร้อมเส้นเขียวบนหน้าจอกระพริบและมีสีแดง
ข้อสังเกตคือ จะทำงานได้ดีในช่วงกลางวัน และในช่วงถนนที่มีแสงไฟ แต่อาจจะไม่ตรวจจับในช่วงถนนที่ไม่มีไฟ เส้นที่ผมขับเป็นเส้น 24 โชคชัย-เดชอุดม ถนนค่อนข้างดีมากๆเส้นถนนชัดทุกช่วง ช่วงที่ระบบตรวจไม่พบเส้นบนถนน เส้นเลนบนจอที่ปกติเป็นสีเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีขาว

ซึ่งระบบนี้จะทำงานควบคู่กับระบบรักษารถให้อยู่ในเลน อันนี้รู้สึกชอบมากๆ คือรถจะมีการดึงพวงมาลัยกลับมาเล็กน้อย และแสดงรูปพวงมาลัยและทิศทางการดึงบนหน้าจอเฉพาะตอนที่มีการดึง และรูปจะหายไป คือถ้าเราเป็นคนขับรถชิดถนนด้านซ้าย รถจะดึงกลับทางขวาและถ้าเราชิดขวามากๆรถจะดึงกลับด้านซ้าย อันนี้ทำให้ผมรู้จักนิสัยตัวเองเลย ว่าปกติชอบชิดขวา ดังนั้นรถจะดึงมาทางซ้ายตลอด (ซึ่งปกติบางคนอาจจะไม่รู้และผมก็ไม่เคยรู้)​
ส่วนแรงดึงนั้นไม่ได้หนักจนควบคุมไม่ได้ แค่ให้ความรู้สึกฝืนๆ ตึงๆมือ (อารมณ์เหมือนเวลาตกปลาแล้วมีปลาตัวเล็กๆมาดึงเบ็ด)​ ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง อันนี้ก็ดีมากๆ เสียงเตือนไม่ได้ดังมาก แต่ดึงความสนใจ และดึงสติเรากลับมาได้ดีมากๆเลย

ระบบการชาร์ตไฟกลับ อันนี้ก็ชอบมากๆเหมือนกัน คือระบบตัวนี้จะทำงานตรงกันข้ามกับการเหยียบคันเร่ง (แสดงบนหน้าจอด้านหน้าคนขับอยู่ซ้ายมือ)​ ในสภาวะปกติ ระดับการเร่งหรือ Power จะอยู่ที่ 0 แต่เวลาเรากดคันเร่งมันจะแสดงเปอร์เซ็นการใช้พลังงาน (อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช้ไฟหรือน้ำมัน)​ แต่พอเรายกเท้าจากคันเร่งปุ๊บ รถจะมีความหน่วงคล้ายๆ เอ็นจิ้นเบรค ส่วนสาเหตุที่มันหน่วงเมื่อเราปล่อยคันเร่ง เพราะตัวปั่นไฟมันจะทำงานและปั่นไฟกลับแบตเตอร์รี่ โดยหน้าจอจะแสดงคำว่า Charge บนหน้าปัด แทนคำว่า Power
ยิ่งเครื่องหน่วงมากๆอัตราการปั่นไฟกลับก็จะมาก โดยเฉพาะตอนเบรค ดังนั้นอันนี้เลยเป็นเหตุผลว่าทำมัยขับระยะทางยาวๆด้วยความเร็วคงที่มันเลยใช้น้ำมันมากกว่า

ระบบ Adaptive Cruise Controls

ระบบ Adaptive Cruise Controls หรือจะเรียกระบบ "ขับทิพย์ "ก็ได้ เป็นระบบที่ดีมากๆ ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับรถนานๆได้เป็นอย่างดี มีตีนทิพย์ มือทิพย์มาช่วยขับตลอด
วิธีการควบคุมโดยใช้ปุ่มควบคุมด้านขวามือบนพวงมาลัย (ใช้ 4 ปุ่มตามที่ผมใส่เลขไว้)

1. เปิดระบบโดยกดปุ่มเบอร์ 1 สองครั้ง หน้าจอจะแสดงสัญลักษณ์​มาให้ แต่จะมีสีขางเพราะระบบเปิดอยู่แต่ยังไม่ทำงาน กรณีต้องการปิดระบบให้กดปุ่มเบอร์ 1 อีกครั้งจนสัญลักษณ์​นั้นหายไปครับ)
2. ปรับระยะห่างจากรถคันหน้าโดยใช้ปุ่มเบอร์ 2 กดวนไปเรื่อยๆ มันจะมี 4 ระยะ
3. กดปุ่มจำกัดเพดานความเร็ว (เพิ่มลดได้ครั้งละ 5 กดลดลงโดยกดปุ่มเบอร์ 3 ก่อน ถึงจะสามารถเพิ่มความเร็วได้ เพราะรถจะจับความเร็วปัจจุบัน)
4. กดปุ่มเบอร์ 4 เพื่อเริ่มต้นทำงาน  ไฟสัญลักษณ์​จะขึ้นสีเขียว
5. กรณีต้องการหยุดการทำงานเพื่อกลับมาขับเองให้แตะเบรคเบาๆ (เช่นกรณีจะแซงคันข้างหน้า)​ และเมื่อต้องการกลับมาใช้อีกรอบก็กดปุ่มเบอร์ 4

ลองดูครับ รู้สึกดีมากๆ ปกติวิ่งจากอุบลเข้า กทม. 600 กว่าโล กดคันเร่งขาปวดขา (คือรถอีกคันมีระบบนี้แต่ไม่ไม่เคยรู้ว่ามี)

จุดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น

คือจุดเสียบสายกล้องติดหน้ารถยนต์ ไม่ต้องไล่สายให้เหนื่อย หาสายสั้นๆประมาณ 25-30 เซน มาเสียบ ก็พอ ผมใช้ DDPAI แบบไม่มีจอ ติดด้านหน้าตัวเดียว (เวลาจะดู ก็เปิดในมือถือต่อไวไฟเอา)​ ดังนั้นมันจะใช้ไฟน้อยมากๆ ถ้าท่านใหนใช้กล้องแบบมีจอและพ่วงกล้องหลังด้วย อาจต้องเดินสายไฟและใช้ไฟจากช่องเสียบบุหรี่เพราะช่องนี้น่าจะจ่ายไฟไม่พอ 

สรุป 

รีวิว Haval Jolion จากการใช้งานจริง ไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องเครื่องยนต์ หรือระบบความปลอดภัยใดๆทั้งสิ้น กข้อความคือประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆครับ

**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ 2022 Haval Jolion และไม่ได้เป็นความเห็นของทีมงาน AutoFun 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากคุณ ด.ช.รามี เป็นเด็กชาวปาเลสไตน์