ไม่ใช่แค่แพงขึ้น แต่รถยนต์อาจขาดแคลนจากสงคราม Russia - Ukraine

• รัสเซียคือหนึ่งในผู้ผลิตวัตถุดิบรายใหญ่
• ราคาของวัตถุดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• ประกาศงดส่งออกวัตถุดิบ ส่งผลกระทบใหญ่

หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าราคาจำหน่ายของรถยนต์ทั่วโลกอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ไม่ใช่แค่ราคาจำหน่ายแพงขึ้นเท่านั้น แต่อาจจะประสบปัญหาขาดแคลนรถยนต์ในอนาคต

ฃอย่างที่หลาย ๆ คนอาจจะทราบกันอยู่แล้วว่า รัสเซียที่มีพื้นที่กว้างใหญ่นั้น เป็นแหล่งของแร่ธาตุและโลหะหลายประเภทที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ยุคใหม่ ๆ รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ยูเครนเอง ก็เป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนที่มีความสำคัญในการผลิตรถ

ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตรถยนต์กำลังจะกลายเป็นปัญหาระลอกสองที่ตามมาจากการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากมาย้อนดูกันจะพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะรุนแรงและส่งผลยาวนานกว่าเสียด้วยซ้ำ

งานนี้มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้างที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้...

ราคาแร่ธาตุปรับตัวขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์

มีรายงานข่าวว่าการขาดแคลนวัตถุดิบในภาวะสงครามก่อให้เกิดการปรับราคาขึ้นสูงของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นในการผลิตรถยนต์ อลูมิเนียมและพัลลาเดียมเพิ่มทำราคาจำหน่ายสูงสุดไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่นิคเกิลที่ใช้ในการผลิตสแตนเลสก็ปรับตัวข้ามผ่าน 1 แสนเหรียญต่อตันเป็นครั้งแรกในวันอังคารนี้ ซึ่งหากย้อนกลับไปดูราคาอลูมิเนียมในยุโรปจะพบว่าปรับตัวสูงขึ้นกว่า 60% ในรอบ 4 เดือนเท่านั้น

ซัพพลายเออร์เริ่มส่งชิ้นส่วนมาผลิตไม่ได้

นอกเหนือจากวัตถุดิบราคาขึ้นแล้ว ชิ้นส่วนหลาย ๆ ชิ้นก็ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะรายที่มีโรงงานอยู่ในยูเครน มีรายงานว่าผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันอย่าง Volkswagen (โฟล์กสวาเกน) และ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ต่างได้รับผลกระทบจากซัพพลายเออร์ในยูเครนไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนสายไฟที่มีความยาวซับซ้อนกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการผลิตรถยนต์ของพวกเขาได้ หลังจากที่ยูเครนโดนบุก

ราคารถยนต์เริ่มถีบตัวขึ้นสูง ตามความยากของโจทย์

มีรายงานว่าราคาจำหน่ายรถยนต์ในตลาดโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ.พี.พาวเวอร์ระบุว่าค่าใช้จ่ายซื้อรถยนต์ใหม่ของสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้นสูงถึง 18.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีการยืนยันจากหลายค่ายรถยนต์ว่า หากการขาดแคลนวัตถุดิบและการขึ้นราคายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ค่ายรถไม่สามารถคงราคาจำหน่ายเอาไว้ได้ แต่จะยื้อไว้ได้นานขนาดไหนนั้น ยังไม่มีใครสามารถประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

เหตุเพราะรัสเซียกุมต้นน้ำวัตถุดิบสำคัญไว้เกือบหมด

หลายคนคงอยากรู้ว่ารัสเซียนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันเชียวในเชิงของการส่งออกวัตถุดิบ ในปี 2563 หากดูแค่ประเทศเยอรมนีเพียงประเทศเดียว พวกเขาส่งออกนิกเกิลให้กับเยอรมนีคิดเป็น 44% ของการนำเข้าในภาพรวม ไทเทเนียม 41% เหล็กประมาณ 33% และพัลลาเดียมอีก 18% นอกจากนี้ รัสเซียเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดอันดับ 5 ของโลกด้วยการผลิตมากกว่า 108 ล้านตันในปี 2564 และมีการผลิตอลูมิเนียมคิดเป็น 6% ของโลกใบนี้

แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่รอดหรอกนะ

รัสเซียยังครองตลาดนิกเกิลที่สำคัญของโลก โดยมีตัวเลขว่าดินแดนหมีขาวนั้นครองสัดส่วนการผลิตนิกเกิล 5% ของโลกใบนี้ และเป็นผู้ผลิตนิกเกิลเกรดสูงด้วยสัดส่วนกว่า 20% ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่สำหรับโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ และหากรัสเซียหยุดส่งออก ก็จะทำให้ราคาจำหน่ายนิกเกิลปรับขึ้น ตามหลังลิเธียมและโคบอลต์ ที่พุ่งขึ้นไปสูงแล้วในช่วงก่อนหน้านี้

รัสเซียขู่จะงดส่งออกทุกอย่าง ต้องติดตามกันต่อไป

หลังจากที่โดนหลายต่อหลายชาติออกมายุติการทำธุรกิจในรัสเซีย ดูเหมือนว่าทางรัสเซียเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้ ด้วยการประกาศว่าจะพิจารณาการยกเลิกการส่งออกสินค้าและวัตถุดิบเหล่านี้ในช่วงปี 2565 ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะเป็นแค่การประกาศเบื้องต้น ต้องมาติดตามว่าหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลอย่างไรบ้าง จะมีการหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตจากที่ไหนมาชดเชยได้หรือไม่ หรือจะต้องปรับราคาและรับสภาพหากไม่สามารถผลิตรถยนต์กันได้

สงครามไม่เคยก่อให้เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นจริง ๆ นะ!!!

อ่านเพิ่มเติม: วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน อาจทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์หยุดชะงัก - ราคารถยนต์จะแพงขึ้น !