คาร์ซีทจำเป็นหรือ ทดลองหุ่นในรถชนให้เห็นจริง แล้วจะรู้ว่า ชีวิตเด็กมีค่ามากกว่าเงินไม่กี่พัน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2565 บัญญัติบังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีหรือมีความสูงไม่ถึง 135 ซม. ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทำให้มีกระแสของพ่อแม่บางคน ที่ไม่อยากจ่ายเงินหลักพันซื้อเบาะเพิ่มให้ลูกตัวเองนั่ง ด้วยการอ้างฐานะขัดสน หรืออ้างความเคยชินอะไรก็ตามแต่

วันนี้มาดูความปลอดภัยของเบาะเด็กเล็กในรถ ที่ถูกทดสอบมาแล้วในต่างประเทศ ดูว่าร่างกายของเด็กจะเป็นอย่างไร ขณะเกิดอุบัติเหตุ เปรียบเทียบกับการใช้คาร์ซีทอย่างถูกต้อง ซึ่งมีให้ดูทั้งแบบเด็กทารก เด็กเล็ก จนถึงเด็กโตระดับเริ่มเดินได้แล้ว ก็ต้องมีเบาะเด็กตามที่กฎหมายกำลังจะกำหนดใช้ 

เด็กทารก แม่อุ้มไม่พอ

สถาบันประกันความปลอดภัยทางหลวงหรือ IIHS ของอเมริกา จัดการทดสอบคาร์ซีทตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว เนื่องจากเห็นความสำคัญต่อการปกป้องเด็ก ที่มีความละเอียดอ่อนกว่าผู้ใหญ่ โดยเริ่มทำการทดสอบแบบไม่ใช้เบาะเด็ก เริ่มจากหุ่นเด็กทารก วางไว้เบาะผู้โดยสาร และให้ผู้โดยสารเป็นคนอุ้มไว้ 

ผลปรากฎว่า เมื่อเกิดการชนที่ความเร็วทดสอบทั่วไปที่ 64 กม./ชม. พบว่าเห็นเด็กทารก พุ่งลอยไปกระแทกคอนโซล หรือหลุดจากมือผู้โดยสารออกไป หรือเมื่อเกิดการชนด้านข้าง ก็จะถูกข้อศอกคนขับลอยมากระแทกศีรษะ ซึ่งสามารถทำให้หัวแตก หรือคอหักจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้อีกทาง

อ่านเพิ่มเติม : อดีตประธาน IIHS เล่าถึงความสำคัญของการทดสอบความปลอดภัย ด้วยอุบัติเหตุของเขาเอง

เด็กโต พุ่งทะลุกระจก

การทดลองในเด็กโต ที่ใช้สายเข็มขัดนิรภัยแบบผู้ใหญ่ เมื่อเกิดการชนพบว่าสายเข็มขัดรัดบาดคอ สามารถสร้างการบาดเจ็บได้ไม่น้อย หรือถ้าในกรณีเลวร้ายที่สุด ให้เด็กโตนั่งเบาะหลังกลางโดยไม่คาดเข็มขัด ก็พบว่าร่างกายเคลื่อนที่ตามแรงเฉี่อย พุ่งไปติดกระจกหน้าทันที ซึ่งมีความอันตรายถึงเสียชีวิตได้เลย

อ่านเพิ่มเติม : ทำไมรถกระบะถึงมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่ารถประเภทอื่น?

เบาะต่างกันตามอายุ

ควรใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กชนิดนั่งหันไปทางหลังรถ (Rear-facing infant seat) ที่นั่งประเภทนี้เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด ถึง 2 ปี หรือน้ำหนักไม่เกิน 12 กก. โดยต้องวางไว้ที่เบาะหลังชิดหนังต่าง และหันไปทางหลังรถเสมอ         

เมื่อเด็กมีอายุ 2 - 6 ปีหรือมีน้ำหนักระหว่าง 9 - 18 กก. อาจเปลี่ยนไปใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กชนิดนั่งหันหน้าไปทางหน้ารถ (Forward-facing child seat) โดยยังคงติดตั้งบนเบาะหลังชิดหน้าต่างเช่นกัน 

เมื่อเด็กมีอายุ 6 ปีขึ้นไป สามารถเปลี่ยนไปใช้ที่นั่งเสริม (Booster seat) เหมาะสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักระหว่าง 15-25 กก. ที่นั่งประเภทนี้จะช่วยให้คาดเข็มขัดนิรภัยของรถให้พอดีตัวยิ่งขึ้น

ราคาคาร์ซีทไม่แพง

ราคาของเบาะเด็กนั้น ตามที่สำรวจในร้านขายของออนไลน์ พบว่ามีราคาตั้งแต่ 3,000 บาท จนถึง 30,000 บาทโดยประมาณ โดยมีความแตกต่างกันแค่วัสดุ แต่หลักการติดตั้งและโครงสร้างหลัก ยังคงหลักการเดียวกัน คือเสริมตำแหน่งนั่งให้มีความสูง เพื่อคาดเข็มขัดได้พอดี และใช้ลดแรงกระแทกการชน ซึ่งนับว่ามีมูลค่าไม่แพง เมื่อเทียบกับชีวิตเด็กคนนึง หากยังไม่เห็นความอันตรายชัดเจน ไปดูคลิปในตำนานได้ที่ด้านล่างนี้