Lotus เปิดโรงงานแห่งใหม่ที่นอร์ฟอล์ก แม้โดนจีนซื้อไปแล้ว แต่เรายังนับว่าเป็นรถอังกฤษอยู่

Chapman Production Center เป็นศูนย์กลางการผลิตใหญ่ ซึ่งกำลังสร้าง Lotus Emira (โลตัส อิมิร่า) รถสปอร์ตเครื่องสันดาปรุ่นสุดท้ายที่พัฒนาให้ดีสุดในสายพันธุ์ โดยตั้งชื่อโรงงานเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งและแรงบันดาลใจของบริษัท

โรงงานใหม่ในอังกฤษ

Chapman Production Center ทำงานร่วมกับ Lotus Advanced Structures (LAS) ซึ่งเป็นโรงงานประกอบย่อยแห่งใหม่ของ Lotus ในเมืองนอริช ในเขตมณฑลนอร์ฟอล์ก ประเทศอังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน 100 ล้านปอนด์โดย Lotus ในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังเป็นการลงทุนในทักษะและความหลงใหลของทีมโลตัสซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ปี 2560 เมื่อ Geely กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

มีศูนย์ฝึกช่าง

โลตัสยังมีศูนย์ฝึกบุคคลากร Lotus Learning Academy โดยคัดเลือกวิทยาลัยเทคนิคนอร์ฟอล์ก ปั้นให้เป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการผลิต เป็นวิศวกร และช่างเทคนิคที่มีทักษะ ในการผลิตรถยนต์โดยเฉพาะ พนักงานใหม่ 300 คนได้เข้าร่วมในบริษัท ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางตามที่พวกเขาต้องการ เพื่อเริ่มต้นอาชีพที่ค่ายรถแห่งนี้

Matt Windle กรรมการผู้จัดการของโลตัสกล่าวว่า “Lotus กำลังเปลี่ยนจากบริษัทรถสปอร์ตของสหราชอาณาจักรมาเป็นธุรกิจและแบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงระดับโลกอย่างแท้จริง และ Chapman Production Center แห่งใหม่นี้เป็นสัญลักษณ์ของเราในการบรรลุถึงความทะเยอทะยานนั้น เราภูมิใจในความสำเร็จที่ผ่านมาและตื่นเต้นกับอนาคตของระบบไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนโดย Colin Chapman ผู้ก่อตั้งของเรา และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ Clive Chapman มาร่วมฉลองโอกาสนี้กับเรา"

อ่านเพิ่มเติม : คลายปริศนาทำไม Lotus ตั้งชื่อรถด้วยตัว E นำหน้าเสมอ มาจากเหตุที่เกือบจะขายหน้าตลอดกาล

ทายาทสายตรง

Clive Chapman เป็นลูกชายสายตรงจากผู้ก่อตั้ง Colin Chapman ได้กล่าวเสริมว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวันสำคัญนี้ในประวัติศาสตร์ของ Lotus สำหรับครอบครัว Chapman เป็นเรื่องพิเศษที่จะได้เห็น Lotus บนเส้นทางสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก ฉันดีใจที่มีโอกาสได้อวยพรให้ทุกคนที่จะทำงานใน Chapman Production Centre ประสบความสำเร็จ และขอขอบคุณ Geely และ Lotus ที่ให้เกียรติคุณแม่ Hazel และคุณพ่อ Colin ด้วยความยอดเยี่ยมเช่นนี้”

ไลน์พ่นสีแบบใหม่

Chapman Production Center แห่งใหม่เป็นหนึ่งในโรงงานผลิตยานยนต์ที่มีปริมาณน้อยที่สุดในโลก และมีกำลังการผลิตประมาณ 5,000 คันต่อปี โรงทำสีแห่งใหม่นี้เป็นสถานที่ล้ำสมัยที่ใช้ระบบอัตโนมัติในการลงไพรเมอร์ สีจริง และเคลียร์โค้ท เพื่อให้มั่นใจว่าผิวงานจะมีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ มีความสามารถในการทำไพรเมอร์ไฟฟ้าสถิตบนแผงตัวถัง ซึ่งจะลดการใช้สีลง 30-40% เมื่อเทียบกับกระบวนการพ่นด้วยมือครั้งก่อน 

อาคารที่ตั้งอยู่ในสายการผลิตของโลตัสก่อนหน้านี้ ได้ถูกดัดแปลงเป็นไลน์ประกอบย่อย ใช้เป็นที่เชื่อมและขึ้นรูปโครงรถใหม่ทั้งหมด ซึ่งสร้างตัวรถพื้นฐานก่อนการผลิตของ Emira โดยหุ่นยนต์เชื่อมตรงด้านข้าง หลังคา และคานรับน้ำหนักกลาง

อ่านเพิ่มเติม : Geely เตรียมนำ Lotus กลับมาทำตลาดเอเชียเต็มตัว เน้นแนวคิด “รถสปอร์ตเพื่อผู้ขับขี่”

ระบบอัตโนมัติ รองรับการเปลี่ยนแปลง

ภายในโรงงานยังมีรถขนส่งชิ้นส่วนอัตโนมัติ Automated Guided Vehicles (AGV) แบบใหม่ทั้งหมดช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพสูง ในเส้นทางที่กำหนดไว้รอบโรงงาน ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทุ่มความสนใจไปที่การประกอบยานพาหนะอย่างเดียว อีกทั้งยังรองรับระบบการผลิตรถสปอร์ตแห่งอนาคต หากการเปลี่ยนแปลงรุ่น ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หลังจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ

QC จากอังกฤษ

สายการประกอบหลักยังรวมถึงอุปกรณ์ตั้งศูนย์ล้อและตั้งจุดไฟหน้า (WAHA) ระบบกำหนดค่าและทดสอบยานพาหนะ (VCaTS) ซุ้มทดสอบน้ำจำลองพายุ มีพื้นลูกกลิ้ง และพื้นที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมด้วยสนามทดสอบแห่งใหม่ที่ซึ่งรถยนต์ที่ใช้งานจริงทั้งหมดได้รับการทดสอบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประกันคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกในการทดสอบจริงนี้ เป็นองค์ประกอบหลักของการ QC ซึ่งแบ่งเป็นกระบวนมากมายเพื่อให้มั่นใจว่ารถสปอร์ตจะมีคุณภาพสูงสุด

อ่านเพิ่มเติม : Lotus เตรียมเปิดตัวซีดานไฟฟ้า Type 133 พร้อมจี้ตูด Porsche Taycan

โครงสร้างขั้นสูงจากเมืองนอริช

โรงงานประกอบย่อยแห่งใหม่ทั้งหมด Lotus Advanced Structures ในเมือง Norwich มีการเชื่อมประกอบแชสซีและการอัดขึ้นรูป รวมถึงการผลิตซับเฟรมและถังเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ Lotus ทุกคัน แชสซีและสายการประกอบส่วนหน้ารวมถึงการประยุกต์ใช้ตัวแทนพันธะหุ่นยนต์ เครื่องกัด CNC ใหม่ 12 เครื่อง และเครื่องตัดเลเซอร์ใหม่เพื่อผลิตถังเชื้อเพลิง ซับเฟรมด้านหลัง และส่วนประกอบเหล็กและอลูมิเนียมจำนวนมากที่ใช้กับ Emira

ยังนับเป็นรถอังกฤษได้อยู่

Lotus ตกเป็นของ Geely โดยค่ายจีนถือหุ้นใหญ่ 51% ส่วนที่เหลือครองโดยนายทุนชาวมาเลเซีย แต่มีพื้นฐานการพัฒนารถยนต์แต่ละรุ่น ยังทำโดยบุคคลากรชาวอังกฤษ ที่ลงหลักปักฐานเป็นเจ้าถิ่นที่เดิม มีแค่เงินทุนจากจีนส่งมาให้เพื่อขยายกิจการ สร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ขายออกเป็นสากลมากขึ้น นับว่ายังเป็นรถอังกฤษที่มีพ่อบุญธรรมเป็นชาวจีน คอยส่งเสียให้พัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ ออกมาจากดินแดนอังกฤษให้เราตื่นตาตื่นใจกันอีก

อ่านเพิ่มเติม : ชมคันจริง 2022 Lotus Eletre ทรงยกสูงแต่ลู่ลม ภายในได้จอสุดล้ำ ใช้ไฟฟ้าล้วน และผลิตที่จีน