เป็นเวลาหลายปีแล้วตั้งแต่การเปิดตัวล่าสุดของ Tesla Model Y และทางผู้ผลิตไฟฟ้าเจ้าใหญ่จากใน Texas ก็ยังไม่ได้ทำการวางขายรถใหม่ใด ๆ เลย ซึ่งมันกำลังจะเปลี่ยนไปด้วยการมาถึงของรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ Tesla Semi ที่เปิดให้จองกันตั้งแต่เดือนพ.ค. และมีการทดสอบเรื่อยมา
แต่ดูท่าทางจะเกิดปัญหาขึ้นกับตัวรถบรรทุกนี้ซะแล้ว หลังจากมีผู้พบเห็นว่า Semi นั้นจอดเสียอยู่ข้างถนนก่อนการส่งมอบในอีกไม่กี่สัปดาห์
โดยในวิดีโอที่ถูกโพสต์โดย Serge The Car Hauler ตัวรถต้นแบบของ Tesla Semi นั้นถูกพบว่ามีการจอดอยู่บนไฮเวย์ใกล้ ๆ กับ Fremont, California ซึ่งทำให้ต้องมีการเปลี่ยนทิศทางการจราจรให้ไปทางอื่น
ตัวรถนั้นถูกล้อมรอบโดยรถตู้ของฝ่ายซ่อมแซม Tesla Service ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นจากอะไร แต่ที่แน่ ๆ คือนี่ไม่ใช่สิ่งที่ Tesla ต้องการแน่นอน เนื่องจากเป็นรถท่ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม และกำลังจะเปืดตัวจริงจังในไม่กี่สัปดาห์นี้
อ่านเพิ่มเติม Tesla เปิดจอง Semi วิ่งไกลสุด 805 กม. ราคา 5.2 - 6.2 ล้านบาท
สิ่งที่ไม่น่าจะใช่สาเหตุคือ แบตเตอรี่หมดกลางทาง ด้วยระยะทางในการชาร์จเต็มที่มีการเคลมไว้ประมาณ 800 กิโลเมตร ด้วยมอเตอร์ 3 ตัว การที่จะใช้ความเร็วคงที่ขับขึ้นทางชันจึงไม่น่าจะใช่ปัญหา และอาจจะมาจากปัจจัยอื่น ๆ
เช่นเดียวกับ Tesla Model Y หรือ Model 3 ตัว Semi นั้นรองรับการอัพเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air, มีชิ้นส่วนน้อยกว่ารถบรรทุกทั่วไป ซึ่งทางค่ายกล่าวว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไปได้ด้วย
นอกจากจะต้องแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์หรูอื่น ๆ ในด้านของรถยนต์นั่งแล้ว ในเซกเมนต์ของรถเทรลเลอร์ไฟฟ้านั้นก็เริ่มมีคู่แข่มากขึ้นเช่นกัน
เนื่องจาก Mercedes-Benz ก็พึ่งมีการเปิดตัว eActros LongHaul มาในปีนี้ แต่จะมีระยะวิ่งแค่ 500 กิโลเมตร และผลิตจริงปี 2024 ทำให้ค่ายอเมริกันจะยังได้เปรียบอยู่
จริง ๆ หากจะบอกว่าการที่รถยนต์เสียได้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกมากนัก แต่ประเด็นจริง ๆ อยู่ที่ว่า ตัวรถกำลังจะมีการส่งมอบกันภายในไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้อยู่แล้ว
การที่มีข่าวออกมาว่ารถจอดเสียอยู่กลางทางโดยยังไม่ทราบสาเหตุ ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของรถนั้นดูไม่ดีว่าเป็นรถที่เสียง่าย และอาจส่งผลต่อยอดขายในอนาคตด้วย
เพราะอย่างน้อยหากใช้มาเป็นระยะเวลาสักพักหนึ่งก็ถือว่าปกติ แต่ถ้ายังไม่ทันขายแต่ดันพังแล้วก็น่าเป็นห่วง
ซึ่งเราก็หวังว่า Tesla Semi นั้นจะประสบความสำเร็จแบบญาติ ๆ คันเล็กของพวกเขา และได้ออกมาให้คนขับรถบรรทุกใช้ได้อย่างไม่มีปัญหาต่อไป
โดยตามสเปคตัวรถแล้ว จะมีรุ่นหนึ่งราคาประมาณ 150,000 ดอลลาร์หรือ 5.2 ล้านบาท ก่อนรวมค่าอื่น ๆ และเคลมว่ามีระยะการวิ่ง 482 กิโลเมตร
และรุ่นเรือธงราคาเริ่ม 180,000 ดอลลาร์หรือ 6.2 ล้านบาท ก่อนรวมค่าอื่น ๆ และเคลมว่ามีระยะการวิ่ง 805 กิโลเมตร
ซึ่ง Tesla Semi ทั้งสองรุ่นจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวและขับเคลื่อนล้อหลัง สามารถเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 20 วินาที ขนของได้หนักสุด 36 ตัน ซึ่งก็ถือว่าไวกว่ารถบรรทุกดีเซลทั่ว ๆ ไป
นอกจากนี้ยังกล่าวว่าหากไม่มีตู้ที่ด้านหลังหรือของที่ต้องขน ก็สามารเเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 5 วินาที
เคลมว่ามอเตอร์สามารถใช้งานได้ถึง 1 ล้านไมล์ และแม้มอเตอร์จะไม่สามารถใช้งานได้สองตัว รถก็ยังวิ่งได้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}