5 อันดับ EV ที่ถูกสุดในไทย ซื้อได้แล้วในงบไม่เกิน 600,000 บาท แต่แลกมาด้วยข้อเสียบางอย่าง

ราคา EV ที่ถูกสุดในประเทศไทย 5 อันดับแรก พร้อมสเปคกำลังไฟฟ้า ระยะทาง และความเร็วสูงสุด เป็นเครื่องมือช่วยตัดสินใจ โดยมีราคาอัพเดตข้อมูลล่าสุดในปี 2022 โดยเรียงตามราคาถูก ไปหาแพงสุดในกลุ่มดังนี้

Volt City EV นั่งชันเข่า

Volt EV (โวลต์ อีวี) รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ขายใน 4 รุ่นย่อย กับมี 2 แบบตัวถังคือตัวถัง 3 ประตูและ 5 ประตู ในราคาตั้งแต่ 325,000 - 425,000 บาท 

รุ่น 3 ประตูใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 40 แรงม้า แรงบิด 90 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 11.8 kWh

รุ่น 5 ประตูใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 46 แรงม้า แรงบิด 102 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 16.5 kWh 

ทั้ง 2 รุ่นย่อยสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 105 กม./ชม. มีระยะทางขับขี่ระหว่าง 160 - 200 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถชาร์จไฟบ้านให้เต็มได้ภายใน 6 ชั่วโมง อย่าลืมว่ามีข้อเสียคือ ผู้โดยสารยังต้องนั่งชันเข่า เพราะพื้นรถสูง เสียสละให้กับแบตเตอรี่ ทำให้ตอนนั่งในการจราจรติดขัดนาน ๆ จะเกิดความเมื่อยล้าง่าย

อ่านเพิ่มเติม : เคาะราคา Volt City EV อีวีจิ๋ว มีรุ่น 3 และ 5 ประตู วางขาย​ 4 รุ่นย่อย​ ราคา 325,000-415,000 บาท

Takano TTE-500 ขับได้แค่ 60 กม./ชม.

Takano TTE500 รถยนต์ไฟฟ้าฝืมือซัพพลายเออร์ชื่อดังในไทย ตัวถังเป็นกระบะขนาดเล็ก ขายด้วยราคา 369,000 บาทหักส่วนลดจากรัฐบาลแล้ว มีสเปคมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC ขนาด 12 V ให้กำลัง 7.4 แรงม้า สูงสุดถึง 14 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 72-80 V มีความจุที่ 11 kWh สามารถชาร์จด้วยไฟบ้าน (AC) จาก 0-100% ภายใน 6-8 ชั่วโมง ข้อดีคือ มีสายชาร์จเป็นแบบมีอะแดปเตอร์ในตัว หัวปลั๊กเสียบกับเต้ารับที่ผนังบ้านได้เลย โดยไม่ต้องติดตั้ง Wall charge เพิ่ม และมีสายดินในตัวให้แล้ว แต่ข้อเสียคือ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 60 กม./ชม. และสามารถวิ่งได้ไกลสุดที่ 100-120 กม. ต่อการชาร์จเต็มเหมาะสำหรับวิ่งในเมืองเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม : Takano TTE500 ลดราคาเหลือ 369,000 บาท อย่าเพิ่งรีบซื้อ จนกว่าจะอ่านสเปคนี้

Pocco EV พวงมาลัยซ้าย

Pocco MM (ป๊อกโค่ เอ็มเอ็ม) และ Pocco DD (ป็อกโค่ ดีดี) นำเข้าโดย BRG Group (บีอาร์จี กรุ๊ป) เป็นรถตัวถังแฮทช์แบ็ค 3 ประตู และ Pocco DD เป็นตัวถังเดียวกันแต่เป็น 5 ประตู และทั้ง 2 รุ่นจะแบ่งออกเป็น 2 สเปค ตามความจุของแบตเตอรี่ 

Pocco MM รุ่น YX มีความจุแบตเตอรี่ 9.2 kWh มีระยะทางวิ่งได้ 116 กม. และ Pocco MM รุ่น ZX มีความจุแบตเตอรี่ที่ 14 kWh มีระยะทางวิ่งได้ 170 กม.ทุกรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุด 27 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 100 กม./ชม.

Pocco DD รุ่น L มีความจุแบตเตอรี่ 10.3 kWh มีระยะทางวิ่งได้ 128 กม. และ Pocco DD รุ่น K มีความจุแบตเตอรี่ที่ 14.5 kWh มีระยะทางวิ่งได้ 178 กม. ทุกรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุด 39 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 100 กม./ชม.

จุดเด่นคือสามารถชาร์จไฟกับปลั๊กที่บ้านได้ข้อเสียคือเป็นพวงมาลัยซ้าย ต้องปรับความเคยชินในการขับใหม่ ราคา Pocco MM 3 ประตูมีค่าตัว 399,000 - 469,000 บาท และรุ่น DD 5 ประตูขายอยู่ที่ 389,000 - 449,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม : ชมคันจริงเจ้าจิ๋วไฟฟ้า Pocco MM และ DD นำเข้าจากจีนใน เริ่มต้น 3.89 แสนบาท

Fomm One คันเร่งมือบีบ

Fomm One (ฟอมม์ วัน) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ผลิตในประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2561 ในราคา 499,000 บาท จากนั้นก็ขึ้นราคาไปถึง 664,000 บาท ล่าสุดนี้ได้ลดราคาพิเศษ 481,000 บาท ซึ่งมีจำนวนจำกัด รับรถได้เลย

Fomm One ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 13 แรงม้า 560 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. มีระยะทางขับได้ 160 กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง มีข้อดีคือสามารถลอยน้ำได้ชั่วคราว แต่ข้อเสียคือ ใช้คันเร่งแบบแป้นอยู่ใกล้มือ คล้ายกับแพดเดิ้ลชิฟต์ วิธีการเร่งก็ใช้มือบีบและคลายมือเพื่อเพิ่ม-ลดความเร็ว ทำให้ต้องปรับความเคยชินจากรถยนต์อื่น ๆ อย่างมาก เพราะไม่เคยมีระบบคันเร่งแบบนี้มาก่อน

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว 2019 Fomm One รถพลังงานไฟฟ้าไซส์กะทัดรัด เหมาะกับลูกค้ากลุ่มใด?

Neta V ช่วงล่างนิ่มไป

Hozon Neta V (ฮอซอน เนต้า วี)  รถขนาดคอมแพ็ค B-segment ที่กำลังมาแรงเพราะความคุ้มค่า มีขายรุ่นย่อยเดียว ราคา Neta V อยู่ที่ 549,000 บาท มาพร้อมจุดเด่นที่มีกำลังสูงสุด 95 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 120 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ประมาณ 384 กม.เมื่อชาร์จเต็ม 100% แต่ยังมีจุดด้อยเรื่องความย้วยของช่วงล่าง และการเกาะถนนต่ำ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยยางขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนเบาะนั่งสั้นไม่รับต้นขา และพื้นรถสูงชันเข่า ทำให้ไม่เหมาะกับโดยสารในการจราจรเป็นเวลานาน

รถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันนี้ มีราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น แต่ต้องไม่พลาดการเข้าไปลองนั่ง กับลองขับดูก่อน เพื่อจะได้สัมผัสกับวัสดุ คุณภาพการประกอบ การเก็บเสียง ความสั่นสะเทือน อัตราเร่ง ฯลฯ ซึ่งไม่สามารถจับต้องได้ผ่านสเปคโบรชัวร์ เพื่อหารถที่ตรงใจ และเข้ากับสไตล์การใช้งานของแต่ละคนมากที่สุดครับ