ฟอร์ด ประเทศไทย เผยโฉม 2022 Ford Ranger (2022 ฟอร์ด เรนเจอร์) 2022 Ford Ranger Raptor (2022 ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) และ 2022 Ford Everest (2022 ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์) เจนเนอเรชันใหม่ พร้อมอุ่นใจได้ด้วยบริการ “พร้อมเสมอ” 

ผู้เข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ประจำปี 2565 จะได้สัมผัสกับรถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง และรถอเนกประสงค์สุดล้ำรุ่นใหม่จากค่าย Ford เรียกได้ว่าตอบสนองความต้องการของคอรถปิกอัพและรถพีพีวีที่มองหารูปลักษณ์ที่โดดเด่น สมรรถนะที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำหน้าเหนือคู่แข่ง

สำหรับราคารถยนต์ Ford Ranger เจนเนอเรชันใหม่ มีดังนี้

●    2022 Ford Ranger Sport ราคาเริ่มต้นที่ 929,000 บาท
●    2022 Ford Ranger Wildtrak ราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท
●    2022 Ford Ranger Raptor ราคา 1,869,000 บาท

สำหรับราคารถยนต์ Ford Everest เจนเนอเรชันใหม่มีดังนี้

●    2022 Ford Everest Sport ราคา 1,464,000 บาท
●    2022 Ford Everest Titanium+ ราคา 1,854,000 บาท

รถกระบะที่ไว้วางใจได้ 

2022 Ford Ranger มาพร้อมคำนิยามว่าเป็นรถกระบะที่ชาญฉลาดที่สุด อเนกประสงค์ที่สุด และสมบุกสมบันที่สุด โดยได้รับการพัฒนาให้เป็นรถคู่ใจที่ผู้ขับขี่สามารถไว้วางใจได้ในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเดินทางท่องเที่ยว  

รูปลักษณ์ภายนอกเน้นความแข็งแกร่งและปราดเปรียว สะดุดตาด้วยกระจังหน้าเอกลักษณ์ใหม่ และไฟหน้าใหม่รูปตัว C เสริมภาพความดุดัน สะท้อนนิยามเกิดมาแกร่ง และเป็นครั้งแรกที่ Ford นำเสนอไฟหน้าแบบเมทริกซ์ LED และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ทำให้การขึ้นกระบะท้ายสะดวกสบายยิ่งกว่าเคย

ใต้ฝากระโปรงบรรจุเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร และเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 

Ranger ใหม่มาพร้อมโครงสร้างและกันชนอันแข็งแกร่ง บนฐานล้อที่มีความยาว และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มม. ทำให้รถกระบะอเมริกันรุ่นนี้พร้อมลุยไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตะลุยเส้นทางสุดสมบุกสมบัน

ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่าเดิมด้วยความกว้างที่เพิ่มขึ้นทำให้มีพื้นที่ระหว่างซุ้มล้อมากขึ้น กระบะท้ายจึงบรรทุกสัมภาระได้มากกว่าเคย และยังมีช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายที่มาพร้อมช่องต่อไฟแบบ AC รองรับกำลังไฟถึง 400 วัตต์ ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง หม้อหุงข้าว หรือเตาอบขนาดเล็กได้เมื่อเสียบปลั๊กกับตัวรถ  

ภายในห้องโดยสารของ Ranger ใหม่มีความทันสมัยขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว เชื่อมต่อกับกล้อง 360 องศา พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® และแผงหน้าปัดดิจิทัลใหม่ที่แสดงผลข้อมูลอย่างชัดเจนและครบครัน 

นับเป็นครั้งแรกใน Ranger ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง และบรรทุก  โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะใน Ranger Raptor เท่านั้น

2022 Ford Ranger รุ่น Wildtrak มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีเหลือง ลักซ์ เยลโลว์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ 

ขณะที่ 2022 Ford Ranger รุ่น Sport มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว อาร์กติก ไวท์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ 

พีพีวีที่ผสานสมรรถนะและความสะดวกสบาย

2022 Ford Everest มาพร้อมการออกแบบที่สมบุกสมบัน โดยที่ยังคงความเรียบหรู ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้น ทำให้รูปลักษณ์ดูล้ำสมัยและบึกบึน และยังมอบการควบคุมบนทางเรียบได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนทางเรียบและออฟโรดทำได้ง่ายกว่าที่เคย  

ผู้สนใจ Everest เจเนอเรชันใหม่สามารถพิจารณาตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว หรือเทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลและคอนโซลกลางวางเต็มความกว้างของพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างแท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเบรกมือไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ออกแบบมาให้พับได้ราบสนิทเพื่อการบรรทุกสัมภาระขนาดยาวได้อย่างปลอดภัย

คอนโซลหน้าดึงดูดสายตาด้วยหน้าจอระบบสัมผัสแนวตั้งความละเอียดสูงขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัล 8 หรือ 12.4 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC 4A® เวอร์ชันล่าสุดของ Ford รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงาน ทำให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับรถได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส™ 

อีกหนึ่งความโดดเด่นยังรวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ อาทิ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) 2.0  ช่วยให้เข้าจอดแบบอัตโนมัติได้ทั้งการจอดขนานและถอยเข้าช่องจอด ทำให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างปลอดภัย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control with stop and go) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง 

2022 Ford Everest รุ่น Titanium+ มีสีภายนอก 6 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เอควิน็อกซ์ บรอนซ์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ ในราคา 1,854,000 บาท มาพร้อมห้องโดยสารภายในโทนเข้มสีดำเป็นมาตรฐาน และโทนอ่อนสีครีมพราลีนเป็นตัวเลือกเสริม 

2022 Ford Everest รุ่น Sport มีสีภายนอก 7 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เอควิน็อกซ์ บรอนซ์, สีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ และสีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง 

ที่สุดแห่งรถกระบะ 

ไฮไลท์ที่เรียกแสงแฟลชจากช่างภาพได้มากที่สุดหนีไม่พ้น 2022 Ford Ranger Raptor เจนเนอเรชันใหม่ พัฒนาขึ้นให้เป็นที่สุดแห่งรถกระบะที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการทำงานของตัวถังที่แข็งแกร่งและเหนือชั้นยิ่งขึ้น ยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรดให้เหนือมาตรฐานสำหรับผู้หลงใหลการขับขี่ออฟโรดตัวจริง

ขุมพลังขับเคลื่อนสุดโหด เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 รีดพละกำลัง 397PS ที่ 5,650 รอบต่อนาทีและแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ปรับแต่งโดยทีม Ford Performance  เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ปรับจูนตามมาตรฐานของ Ford Performance รองรับการขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัดทั้งบนทางกรวด ดิน โคลน และทราย 

ระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียงของ Ranger Raptor ด้วยระดับความดัง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา 

เพื่อให้การขับขี่กลางทะเลทรายเป็นไปได้อย่างเต็มสมรถนะ ระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System - ALS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา จะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที หลังจากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่ง รถจึงคืนความเร็วได้ทันใจขณะเร่งออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์  

Ford Performance ยังร่วมมือกับ FOX™ ในการผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง เพื่อปรับแต่งการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-ยุบของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด

Ranger Raptor รุ่นใหม่มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว มีความสามารถในการปรับการทํางานได้แบบเรียลไทม โดยใช้เซ็นเซอร์รอบคัน ทําให้โช้คปรับค่าความหน่วงจากจุดปะทะต่างๆ ได้มากถึง 500 ครั้งต่อวินาที

โหมดการขับขี่ของ Ranger Raptor เจนเนอเรชันใหม่ มีให้เลือกถึง 7 โหมด ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ตและโหมดถนนลื่นสำหรับทางเรียบ และโหมดการขับขี่ออฟโรดอย่างโหมดหิน โหมดทราย โหมดโคลน และโหมดบาฮา 

เปิดประตูเข้ามาชมในค็อกพิท มีการตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ซึ่งจะดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อเปิดไฟส่องสว่างสีอำพัน เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-22 Raptor มอบความกระชับและสบายในการเดินทางไม่ว่าจะบนทางเรียบหรือเส้นทางออฟโรด

ห้องโดยสารทำงานด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด ด้วยแผงหน้าปัดความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A®  อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย อาทิ ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด (Upfitter Switch) และหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด 

สีภายนอกมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว อาร์กติก ไวท์, สีส้ม โค้ด ออเรนจ์ และสีเทา คองเคอร์ เกรย์ 

ยกระดับการบริการ 

Ford นำเสนอบริการแบบ ‘พร้อมเสมอ’ หรือ ‘Always-On’ พร้อมทั้งตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว ด้วยนวัตกรรมบริการใหม่ ๆ ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาสบนสมาร์ทโฟนที่ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อสื่อสารกับรถ Ford ของตนเองได้ตลอดเวลา  

ฟังก์ชันและบริการหลักๆ ได้แก่ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเช็คระยะโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบเชื่อมต่อข้อมูลรถอัจฉริยะที่ติดตามการใช้งานรถ ทำให้ลูกค้าไม่ลืมกำหนดเข้ารับบริการต่างๆ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันฟอร์ดพาสยังมอบความสะดวกสบายให้เจ้าของรถสตาร์ทรถจากระยะไกล เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิภายในรถจะเย็นสบายเมื่อขึ้นรถ 

[Sponsored by Ford]