จากส่วนหนึ่งของหม้อน้ำ ไปสู่ศูนย์รวมเซนเซอร์รถไฟฟ้า กระจังหน้า Mercedes-Benz เปลี่ยนไปอย่างไรใน 100 ปีที่ผ่านมา?

ความสำคัญของกระจังนั้น ไม่ได้เป็นเพียงการบ่งบอกแบรนด์รถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่ในสมัยก่อนยังถือเป็นส่วนหนึ่งขอรังผึ้งหม้อน้ำที่ใช้งานได้จริงไม่ใช่แค่สวยงาม

จนมาถึงปัจจุบัน ที่กระจังหน้าของ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) กลายเป็นศูนย์รวมฟังก์ชั่นอื่น ๆ ไว้แทน  เราจะพาไปดูกันว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 1900

การใช้งานเหนือความสวยงาม

การระบายความร้อนนั้นถือเป็นปัญหาใหญ่ของรถยนต์ในช่วงปลาย 1800 เนื่องจากการใช้ระบบอากาศไม่สามารถทำได้ดีพอ 

จึงทำให้ Wilhelm Maybach ได้คิดค้นรังผึ้งหม้อน้ำ ที่มีพื้นที่ด้านหน้าขนาดใหญ่ ทำให้ลมปะทะได้ดีขึ้นออกมา โดยมีการใช้ครั้งแรกใน Mercedes 35 PS 

ในหม้อน้ำนี้จะมีท่อขนาดเล็ก 8,000 กว่าชิ้นอัดแน่นอยู่ภายใน เพื่อช่วยให้ของเหลวไหลผ่านและนำความร้อนออกไป

ซึ่งลักษณะแบบนี้ก็ถิอว่ากลายเป็นการออกแบบสำคัญของรถยนต์ไปเลย จนหลายค่ายเริ่มเอาไปใช้บ้าง แต่ก็มีลักษณธแตกต่างกันไป 

อ่านเพิ่มเติม รถ 8 รุ่นที่ไว้ใจได้มากสุด จากความเห็นผู้ใช้นานาชาติ

กลายเป็นภาพลักษณ์ และแผ่นป้องกัน

ไม่นานนักเหล่าวิศวกรก็พบว่า การที่เอาหม้อน้ำไว้ด้านหน้า หากเกิดคราบสกปรกจากฝุ่น หรือเศษหินกระเด็นมาใส่ก็จะทำให้ลดประสิทธิภาพในการระบายความร้อนลง ไปจนถึงขั้นโอเวอร์ฮีท

จึงทำให้ 1931 Mercedes 170 (W15) มีการติดตั้งหม้อน้ำแยกส่วนกับกระจังหน้าแบบโครม กลายเป็นฝาครอบป้องกัน

ในช่วงปี 1950 ได้มีการใช้กระจังหน้าตราดาวขนาดใหญ่ ในรถรุ่น 300 SL Gullwing และ 190 SL roadster ที่มีขนาดเล็กกว่า จนกลายเป็นหน้าของรถสปอร์ตและรถเปิดประทุนหลาย ๆ รุ่น

อ่านเพิ่มเติม Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe ทุบสถิติรถแพงสุดในโลก

เริ่มมีให้เลือก 

ในปี 2007 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เริ่มมีการออกกระจังหน้ามา 2 แบบเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในรุ่นเดียวกันทั้งใน Mercedes-Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส) และ E-Class

สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้มีความหรูหรา แปะตราดาวด้านบน ในรุ่น Classic และ Elegance หรืออยากได้แบบสปอร์ตด้วยกระจังหน้าตาดาวขนาดใหญ่ Avantgarde และยังมีการใช้จนปัจจุบัน

เปิดทางให้กับไฟฟ้า

และมาถึงยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่จำเป็นต้องใช้การระบายอากาศแบบเดิม ทำให้นักออกแบบไม่จำเป็นต้องใช้กระจังหน้าแบบเปิดต่อไป 

การออกแบบด้านหน้าของตระกูล EQ นั้นจึงมาในแบบทึบเป็นสีดำโดยยังมีตราดาวตรงกลางอยู่ เมื่อไม่จำเป็นต้องรับลมแล้ว จึงกลายเป็นที่อยู่ของเหล่าเซนเซอร์ต่าง ๆ มากมายที่ช่วยในด้านระบบการขับขี่ ทั้งอัลตร้าโซนิค, กล้อง, เรดาร์ และลิดาร์ ที่ทำให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มที่ 

อย่างที่ทราบกันดีในช่วงนี้เรากำลังเริ่มเข้าสู่ยุคพลังงานยั่งยืน ทำให้กระจังหน้ารังผึ้งที่มีประโยชน์เมื่อ 120 ปีก่อน กลายเป็นของไม่จำเป็นในรถยนต์ใหม่ ๆ 

แต่กระจังหน้านั้นจะหายไปเลยหรือไม่ ก็มีเพียงเวลาที่จะบอกเราได้ครับ 

อ่านเพิ่มเติม Mercedes-Benz กล่าวว่า EQE มีกำไรเทียบเท่า E-Class