จริง ๆ Mazda 2 (มาสด้า 2) ในโฉมปัจจุบันก็ถือเป็นรถที่ขายมาจะ 10 ปีแล้ว แต่ก็ดูจะยังไม่มีท่าทางที่จะทำการเปลี่ยนกันเร็ว ๆ นี้

เพราะถึงจะมีการไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปี 2019 ก็ได้มีการปรับโฉมเพื่อลากขายเป็ครั้งที่ 2 สำหรับรุ่นปี 2023 นี้

ดุดันขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการออกแบบในด้านหน้า ที่มีกระจังหน้าแบบใหม่ที่ปิดเกือบทั้งหมดในบางรุ่น ใช้สีเดียวกันกับตัวรถไม่เป็นแบบ Kodo แล้ว

สังเกตดี ๆ ในรูปคันนี้จะมีลูกเล่นการแต้มสีเหลืองเข้าไปด้วย คาดว่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละสีตัวถัง มีช่องดักลมสีดำด้านล่างที่กว้างขึ้นเชื่อมต่อกับกระจังหน้า ช่วยเพิ่มความดุดัน

ด้านท้ายมีการปรับเปลี่ยนการออกแบบมาใหม่ ด้วยแถบสีดำพาดยาวแทนที่โครเมี่ยมเดิม แถมยังเพิ่มลูกเล่นการแต้มสีเข้าไปด้วย

ซึ่งทางค่ายกล่าวว่าการเพิ่มสีเข้าไปแบบนี้ "จะช่วยเพิ่มจิตวิญญาณความเป็นวัยรุ่นให้กับรถมากขึ้น"

อ่านเพิ่มเติม 2021 Mazda 2 เพิ่มอ็อปชั่นคงราคาเดิม

ในรุ่น GT จะได้ล้ออัลลอยใหม่ลาย Aero รวมถึงท่อคู่ออกหลัง รุ่น Pure ขึ้นไปจะเริ่มมีเสาอากาศครีบฉลาม สีใหม่ Aero Grey และ Airstream Blue metallic รวมกับสีเดิมเป็น 9 สี ส่วน Pure SP จะได้หลังคาสีดำด้วย

ภายในจะได้สีแดชบอร์ดใหม่ ซึ่งจะมีสี Pure White, Mirror Black หรือ Mint ขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก

ในบางรุ่นส่วนมากจะได้รับการเดิยด้ายสีแดงทั้งทีเบาะนั่งและช่องแอร์ 

เครื่องยังไม่แน่ชัด 

สำหรับความเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องยนต์นั้นยังไม่มีข้อมูลออกมา ส่วน Mazda 2 ในประเทศไทยยังคงมาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อน 2 รุ่น ได้แก่เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ได้รับมาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 5

สำหรับในประเทศอื่น ๆ ยังไม่มีข้อมูลว่าจะเปิดตัวกันเมื่อไร แต่ในออสเตรเลียจะเปิดจองในเดือนมิถุนายน และรับรถได้ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งในบ้านเขาจะมีรุ่น Pure, Pure SP, Evolve และ GT ที่จะมีซีดานให้เลือกในตัวท็อปสุดเท่านั้น

ส่วนในประเทศไทยมีการไมเนอร์เชนจ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเมื่อประมาณต้นปี 2021 พร้อมเพิ่มออพชั่นและราคาเดิม จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมาวางขายกันในปีหน้า