Tesla บุกเบิกจอกลางขนาดใหญ่ตั้งแต่จอสัมผัสในรถยังไม่แพร่หลาย
ผู้ผลิตรถค่ายอื่นพากันทำตาม
หน้าจอสัมผัสที่อัพเดทแบบ OTA ได้มีข้อดีมากมาย
รถจาก Tesla (เทสล่า) กลายเป็นต้นแบบของอะไรหลาย ๆ อย่างในยุคสมัยนี้ ตั้งแต่ความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า มาจนถึงการออกแบบภายในที่มีจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ตรงกลางแทนการใช้ปุ่ม
แม้เร็ว ๆ นี้จะมีข้อกังวลจากหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมบนหน้าจอ แต่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายก็ยังใช้หน้าจอลักษณะเดียวกันนี้ในรถของตัวเอง
Tesla เริ่มมีหน้าจอกลางขนาดใหญ่มานานแล้ว
ผู้ผลิตรถยนต์ เช่น GM, Volvo, Stellantis หรือรายอื่น ๆ ต่างเปิดตัวหน้าจอสัมผัสในเวอร์ชั่นของตัวเองขึ้นมา จากรายงานของเว็บไซต์ Inverse เทสล่าได้นำหน้าจอกลางขนาดใหญ่มาใช้ในรถเมื่อปี 2012 ในช่วงที่รถที่มีหน้าจอทัชสกรีนมีเพียงหยิบมือ
ภายในของ Tesla Model S ปี 2012
Nichole Kraatz หัวหน้าวิศวกรส่วนรถกระบะไฟฟ้าของ GM กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าเมื่อห้าปีที่แล้วสวิตช์เสมือนบนหน้าจอจะเป็นสิ่งที่ผู้คนยอมรับได้”
“ทุกคนต้องการปุ่มกดในทุกที่”
แต่เมื่อไม่นานมานี้ GM ได้เปิดตัว Chevrolet Chevy Silverado EV ในงาน Consumer Electronics Show 2022 ที่ผ่านมาด้วยภายในที่มีหน้าจอกลางขนาด 17 นิ้วตรงกลาง
ภายในของ Chevrolet Chevy Silverado EV
หน้าจอมีความยืดหยุ่นมากกว่าปุ่มกด
สิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์ต่างค้นพบก็คือ หน้าจอสัมผัสจะสามารถปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟซได้มากกว่าปุ่มกด และสามารถปรับเปลี่ยนตามการอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA ได้ทุกเมื่อ ไม่เหมือนปุ่มแบบอนาล็อกที่อยู่แบบถาวร
Ralph Gilles หัวหน้าฝ่ายออกแบบในตลาดโลกของ Stellantis กล่าวว่า “ในการวิจัยของเรา คนเราชอบการสัมผัส ด้วยหน้าจอสัมผัส เราสามารถเปลี่ยนฟังก์ชันภายในได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ขึ้นมา โดยไม่ต้องสร้างปุ่มขึ้นมาเพิ่ม เพราะทุกอย่างสามารถอัพเดทได้”
หน้าจอขนาดใหญ่อาจทำให้คนขับเสียสมาธิ
ถึงแม้หน้าจอสัมผัสจะมีความสะดวกมากเพียงใด แต่บางคนก็ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหน้าจอขนาดใหญ่ที่อาจทำให้คนขับเสียสมาธิระหว่างขับรถ
จากรายงานของ Automotive News ระบุว่า เคยมีการสอบสวนระหว่าง NHTSA กับ Tesla เนื่องจากเทสล่าอัพเดทซอฟท์แวร์ให้ผู้โดยสารสามารถเล่นเกมบนจอได้ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่
ภายหลังจากมีการสอบสวน เทสล่าได้เพิกถอนฟีเจอร์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้วผ่านการอัพเดท
อนาคตจะมีมากกว่าแค่เป็นหน้าจอธรรมดา
นอกจากนี้ หน้าจอสัมผัสยังมีศักยภาพในการขยายระบบนิเวศมากกว่าการเป็นหน้าจอ คือการที่ซอฟท์แวร์ในรถสามารถเชื่อมต่อกับแอพในมือถือได้ Volvo กำลังวางแผนที่จะรวมหน้าจอสัมผัสและซอฟต์แวร์ของรถยนต์เข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ดิจิทัลอย่าง David Holecek ได้ให้รายละเอียดในเรื่องนี้ว่า
Holecek กล่าวว่า “เรากำลังทำให้รถกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับระบบนิเวศของ Google Home”
“สิ่งนี้จะเปิดประสบการณ์ใหม่มากมายเท่าที่คุณจะอนุญาตให้บริการอื่น ๆ สามารถโต้ตอบกับรถได้ แต่มันไม่ใช่แค่การโต้ตอบเท่านั้น แต่ยังเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานะของรถ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุญาตของเรากับบริการเหล่านั้น”
อ่านเพิ่มเติม : Volvo พลิกโฉมหน้าความบันเทิงในรถยนต์ด้วยความร่วมมือกับ Google แต่ไทยจะได้ใช้ไหม?
การอัพเดทได้ตลอดเวลาแสดงถึงประโยชน์
แม้ว่าฟังก์ชั่นบางอย่างในหน้าจออาจจะดูไม่ปลอดภัย แต่การอัพเดทแบบ OTA เพื่อแก้ปัญหาแสดงถึงประโยชน์ของการมีของหน้าจอที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อต้องการ ดั่งเช่นกรณีที่ Tesla แก้ฟังก์ชั่นที่ให้ผู้โดยสารเล่นเกมในรถนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : เห็นด้วยหรือไม่ รถสมัยนี้ยัดเยียดเทคโนโลยีมากเกินไป คนขับใส่ใจหน้าจอจนเกิดอุบัติเหตุ?