Tesla (เทสลา) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย กำลังประสบปัญหาเพดานอุปทาน และขณะนี้กำลังต้องรอนานขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองในรอบหลายเดือน ผลสำรวจเผย ผู้มีฐานะดีเท่านั้นที่ได้ขับ EV

ผู้ที่ซื้อ Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล 3) ใหม่ในวันนี้จะรอจนถึงเดือนกันยายนอย่างเร็วที่สุดและอาจรอจนถึงมกราคม 2566 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสเปคที่เลือก ขณะนี้เว็บไซต์ของ Tesla Australia ได้รับการเตือนว่าเวลารอได้ลดลงเป็น 6-9 เดือนขึ้นไป จากเจ็ดเดือนก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับ EVs ยอดนิยมอื่นๆ เช่น Volvo, Hyundai, Kia และ Polestar ที่ส่งมอบให้กับลูกค้าชาวออสเตรเลียในจำนวนหลายร้อยคนเท่านั้น แม้ว่าความต้องการจะสูงถึง 10 เท่า

ปัจจัยให้ EV ปัง

แม้ว่าจะมีผลสำรวจพบว่าเป็น "คนรวย" เท่านั้นที่ซื้อ EV แต่ปัจจัยที่บรรจบกันส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นและทำให้ขาดแคลนอุปทานสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าทั่วทั้งภูมิภาค

ความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว โดยเพิ่มขึ้นสามเท่าในปี 2564 และเพิ่มขึ้นอีกในปี 2565 แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านอุปทานก็ตาม มันได้รับแรงผลักดันจากราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานรวมกัน และการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์สันดาป และรถยนต์มือสองคุณภาพดีที่กำลังขาดแคลน ล้วนแต่เป็นการสนับสนุนให้คนขับพลิกมาเลือกรถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

คนรวยเท่านั้นที่ซื้อได้

บทความจาก Herald Sun เผยแพร่ข้อมูลที่มาจากโครงการเงินอุดหนุนซื้อ EV ระบุว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจากชานเมืองที่ค่อนข้างร่ำรวย แน่นอนว่าคุณต้องมีฐานะพอสมควรในการใช้ EV เพราะสินค้าเหล่านี้มีราคาสูงกว่าปกติ ตัวอย่างเช่น Tesla Model 3 RWD ที่มีราคาต่ำที่สุดเริ่มต้นที่ 60,900 ดอลลาร์ 

อย่างไรก็ตาม ทั้งรุ่น Long Range ซึ่งเริ่มต้นที่ 73,200 ดอลลาร์ และรุ่น Performance ระดับท็อปซึ่งเริ่มต้นที่ 84,900 ดอลลาร์ นั้นราคาแพงเกินจนไม่เข้าข่ายส่วนลดเงินอุดหนุน EV

จ่ายแพง แต่ครอบครองถูก

ตามที่ The Driven รายงานไว้ว่า คนส่วนใหญ่ที่ซื้อ Tesla Model 3 นั้นใช้เงินซื้อมากกว่ารถน้ำมัน 30,000 ดอลลาร์ แต่ด้วยราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นถึง 2.20 ดอลลาร์ต่อลิตร จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุผลของการเป็นยานพาหนะสมรรถนะสูงที่ราคาถูกในการเติมเชื้อเพลิง" อีกทั้งการเป็นเจ้าของ Tesla Model 3 มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 14,000 เหรียญสหรัฐ 

ฐานะปานกลางหมดสิทธิ์

ทั้งหมดนั่นคือผลประโยชน์ที่เฉพาะกลุ่มคนรวยได้รับ เมื่อใช้รถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากชาวออสเตรเลียที่มีฐานะปานกลางนั้น เอื้อมถึงแค่รถญี่ปุ่นขนาดเล็กแบบสันดาปภายใน รวมถึงการอยู่ในคอนโด หรือห้องเช่า ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งหัวชาร์จจากไฟบ้าน ดังนั้นกลุ่มลูกค้า EV ตอนนี้จึงมีแค่ครอบครัวฐานะค่อนข้างดีที่เอื้อมถึงเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันนี้ได้ง่าย อีกทั้งมีบ้านส่วนตัวอยู่ในย่านชานเมือง ที่เอื้อต่อการติดตั้ง Wall Charge ในบ้านมากกว่า

อนาคตมีแต่ EV จีนถูกลง

ในอนาคตยังมีแสงสว่างบนขอบฟ้า ด้วยตัวเลือกที่ไม่แพงมาก ซึ่งนำเข้ามาจากจีนอย่างเช่น MG และ BYD ที่มีราคาต่ำกว่า 45,000 ดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับ Toyota Camry ป้ายแดงรุ่นย่อยกลาง ๆ ได้คันหนึ่งพอดี

ในประเทศนับว่ายังดีที่ได้ยกเว้นอัตราภาษีนำเข้า EV จากจีน แต่ยังกีดกันนำเข้า EV จากประเทศอื่นอยู่ ทำให้ใครที่อยากใช้ EV ราคาถูกในไทย อาจจะมีตัวเลือกไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็ถูกกว่าในออสเตรเลีย

อ่านเพิ่มเติม : ส่องสาเหตุ ทำไมรถมือสอง Tesla มีราคาแพงกว่ารถมือหนึ่งป้ายแดง