เผยความประทับใจแรกกับรถ ORA 07 กับการลองขับในสนามแข่งแบบปิด ได้ขยี้จนรู้อาการของรถ กับรุ่นท็อปตัวแรงสุด 408 แรงม้า ที่มีหลายจุดถูกใจมาก โดยเฉพาะโหมด Sport Plus
ลองขับในสนามปิด
เผยความประทับใจแรกกับรถ ORA 07 กับการลองขับในสนามแข่งแบบปิด ได้ขยี้จนรู้อาการของรถ กับรุ่นท็อปตัวแรงสุด 408 แรงม้า ที่มีหลายจุดถูกใจมาก โดยเฉพาะโหมด Sport Plus
ORA 07 (โอร่า 07) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย GWM รุ่นล่าสุด ที่จะมาเปิดขายในไทยปลายปีนี้ จนกว่าจะถึงตอนนั้น เราได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ลองขับก่อนคนไทยทั่วไป โดยขับในสนามแข่งรถแบบปิด ลองเค้นสมรรถนะอย่างเต็มที่ ทำให้รู้ว่ามันไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม
ความรู้สึกแรกเห็น ORA 07 คือมันเป็นก้อนสบู่ขนาดใหญ่ การออกแบบที่โค้งมน ดูนุ่มนิ่มอ่อนโยน มีทั้งความคลาสสิค ไทม์เลส ล้าสมัยยาก สะดุดตาตั้งแต่ระยะไกล มีความแตกต่างจากรถทั่วไปที่มีแต่ทรงเรียวแหลมดุดัน รูปทรงของ ORA 07 เหมาะมากสำหรับการใช้งานด้าน visual เช่น เป็นพร็อพถ่ายรูป-วิดีโอ เป็นรถสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องการความสนใจจากผู้อื่นตลอดเวลา หรือเหมาะกับคนชอบทรงรถคลาสสิค แต่อยากขับสบายแบบรถสมัยใหม่
สัมผัสแรกจาการลองนั่งภายใน พบว่ามีนวมบุนิ่มมาให้ครบถ้วนแทบทุกจัดที่ร่างกายเอื้อมไปสัมผัสได้ การตกแต่งในรุ่นท็อปมีหนังสีน้ำตาลส้มให้เลือก เพิ่มความหรูต่างจากคู่แข่งไปอีก ส่วนหลังคาเป็นซันรูฟแยกส่วนหน้า-หลัง เป็นแบบฝ้าบังสายตา แต่ไม่สามารถปิดช่องแสงถาวร
การออกแบบคอนโซลยังคงธีมคลาสสิคและหรูหราสมกับภายนอก แต่มีบางฟังก์ชั่นแอบใช้งานยาก เช่น การปรับทิศทางช่องแอร์ ที่ต้องเอื้อมมือไปแตะหน้าจอ แทนที่จะปรับจากช่องแอร์โดยตรง หรือการทำช่องวางมือถือในแนวตั้ง ทำให้มือถือโผล่ขึ้นมากีดขวางมือที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ ซึ่งที่วางแก้วคอนโซลหน้ามีให้ตำแหน่งเดียวเท่านั้น
ส่วนเบาะหลังยังคงวัสดุนิ่มและเบาะรองรับต้นขาได้ดี วางตำแหน่งเบาะหลังไม่จม ทำให้รู้สึกโปร่ง ไม่อึกอัด มีที่วางขาค่อนข้างยาว แต่ไม่ลึกพอที่จะนั่งหย่อนขาได้ เพราะเป็นธรรมชาติของรถที่มีแบตเตอรี่อยู่ใต้ท้องรถนั่นเอง
การลองขับคือใจความหลักในการทดสอบวันนี้ โดยใช้รถรุ่นท็อปสุด ORA 07 Performance วิ่งในสนามพีระเซอร์กิต เพื่อขยี้คันเร่งอย่างเต็มที่โดยมีการกั้นกรวยไว้แต่ละจุด เพื่อจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน คือ การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การหักหลบสิ่งกีดขวางแบบสลาลอม โดยยังคงมีการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ผสมกับสารพัดโค้งหักศอก โดยในรอบแรกเราลองกับโหมดการขับขี่แบบปกติ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนโหมดในแต่ละรอบถัดไป
การลองขับ ORA 07 ด้วยโหมดปกติ ทำให้เราพบว่า โหมดนี้ไม่เหมาะกับการขับขี่อย่างโหดในสนามแข่ง เพราะช่วงล่างมีความนุ่มนิ่มมาก เมื่อยัดโค้งด้วยความเร็วสูงก็มีการยุบตัวสูง ทำให้มีการถ่ายเทน้ำหนักรถมากกว่า 2 ตันให้โยกไปมาตามแรงหนีศูนย์กลาง โหมดการขับนี้เหมาะสมกับคนขับใช้งานประจำวัน ที่ต้องการแรงกระชากน้อย ต้องการคุณสมบัติซับความขรุขระถนนอย่างยอดเยี่ยม มากกว่าจะเอาไปซิ่งที่ไหน
ส่วนแป้นคันเร่งก็มีระบบ Single pedal mode หน่วงความเร็ว นำแรงหมุนล้อกลับมาชาร์จไฟ ส่วนการตอบสนองคันเร่งก็พบว่ายังหน่วงแรงเหยียบเอาไว้ เพื่อให้ออกตัวนุ่มนวล ไม่ได้กระชากหัวติดเบาะ โดยมันทะยอยส่งพลัง 408 แรงม้าเข้ามาอย่างมีระดับขั้น และพวงมาลัยก็เบาสบายเกินกว่ารถ 400 กว่าแรงม้าควรมี
การลองขับด้วยโหมด Sport นั้นน่าสนใจเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยการเพิ่มความหนืดพวงมาลัย ปรับความหน่วงคันเร่งลดลง ให้สามารถถ่ายพลังออกมาอย่างทันใจมากขึ้น ส่วนช่วงล่างยังมีความยุบตัวมากไม่ตางจากเดิม และได้เพิ่มเสียงจำลองเครื่องยนต์ คล้ายกับบล็อก 6 สูบเรียงเพื่อเรียกความฮึกเหิมของคนขับอีกด้วย
จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นโหมดขั้นสุดของการขับขี่นั่นคือ Sport plus ซึ่งตัวรถจัดการปรับน้ำหนักพวงมาลัยแน่นขึ้นอย่างรู้สึกได้ มีการปรับความหน่วงคันเร่งลดลงมาก จนสามารถเรียกแรงม้ามาทั้งหมดด้วยการกระทืบคันเร่งออกมาภายในเสี้ยววินาที โดยยังคงเสียงเครื่องยนต์และบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่ดูร้อนแรงขัดกับหนังสีน้ำตาลสุดหรู
สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ ระบบช่วยทรงตัวและช่วยเข้าโค้ง มันทำงานโดยการถ่ายเทแรงไปยังล้อตรงข้ามที่ลื่นไถล ใช้พลังไฟฟ้าหมุนล้อช่วยให้วงเลี้ยวไม่บานออกเลยขอบถนน โดยตัวรถจะยอมให้ท้ายกวาดออกก่อนเล็กน้อย ก่อนจะใช้มอเตอร์หมุนล้อหน้าให้เกิดการอันเดอร์สเตรียร์มาช่วยหักล้างแรงเหวี่ยงท้ายออกไป ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะเข้าโค้งเต็มที่
กำลัง 408 แรงม้าของ ORA 07 บนน้ำหนักตัว 2.1 ตัน ถูกนำไปเปรียบกับคู่แข่งจากประเทศด้วยกันแล้วพบว่าตัวเลขน้อยกว่า แต่อย่าลืมว่าเมื่อเฉลี่ยอัตราส่วนแล้วได้ 1 แรงม้าที่แบกน้ำหนักแค่ 5.1 กก.เท่านั้น นับว่าเทียบเท่ารถสปอร์ตเครื่องสันดาปหลายรุ่น รองรับการใช้งานเพียงพอสำหรับคนเท้าหนักทั้งหลาย สามารถตรึงผู้เขียนให้ติดเบาะอย่างน่าตื่นเต้น มีแรงจีเหมือนเล่นรถไฟเหาะ นับว่าน่าพอใจมากแล้ว โดยแทบไม่ต้องโหยหากำลังเพิ่มจากไหนอีก
สรุปว่า ORA 07 มีสเปคพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อมัลติลิ้งค์ที่ดีอยู่แล้ว ประกอบกับการเลือกใช้ล้อแม็กซ์ 19 นิ้วกับยาง Pilot Sport ชื่อดัง และระบบช่วยทรงตัวแบบสู้ชีวิต ทำให้รถรูปทรงนุ่มนิ่มหนัก 2 ตัน เคลื่อนที่ผ่านโค้งได้ถูกใจคนขับทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าคุณจะชอบนิ่มนวลอย่างผู้ดี หรือซิ่งอย่างมั่นใจทุกโค้งก็เอาอยู่ นับเป็นการบรรจบของความสปอร์ตและความดุดันอย่างลงตัว
เหลือเพียงแต่รสนิยมการออกแบบส่วนบุคคล และราคาขายเท่านั้น จะเป็นตัวตัดสินว่าคุณจะซื้อมันหรือไม่ ?
อ่านเพิ่มเติม : พาชม ORA 07 แมวใหญ่เปลี่ยนชื่อ เน้นหรูหรา ลุคสปอร์ต ลุ้นราคาล้านกลางชนคู่แข่งก่อนสิ้นปีนี้