ORA 07 Grand Cat 2023 ออร่า 07 แกรนด์แคท
- เปลี่ยนชื่อใหม่ให้เรียกง่ายขึ้นเป็น ORA 07
- รูปทรงสปอร์ต บึกบึน ภายในนั่งสบายทุกเบาะ
- 2 รุ่นย่อย ลุ้นราคาล้านกลางท้าชนดี-เซกเมนต์
หลังจากให้นโยบายในการเปิดตัวรถยนต์ 9 รุ่นภายใน 3 ปีของการเข้ามาทำตลาด Great Wall Motor (เกรทวอลล์มอเตอร์) ได้เดินหน้าเปิดตัวสินค้าในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า (xEV) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การทำตลาดรถยนต์ถึง 3 แบรนด์ โดยแบรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้บริโภคชาวไทยก็คือ ORA (ออร่า) ที่ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยมีสินค้าที่เปิดตัวอย่าง ORA Good Cat (ออร่า กู๊ดแคท) เจ้าแมวดีที่สร้างยอดขายไปมากมาย
หลังจากนั้นไม่นาน แมวดีก็มีการเพิ่มรุ่นแมวแรงอย่าง ORA Good Cat GT (ออร่า กู๊ดแคท จีที) พร้อมทั้งการปรับแผนการทำตลาดหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ออกมาทำตลาดเสียที แม้จะมีข่าวลือว่าจะมีการเปิดตัว ORA Grand Cat (ออร่า แกรนด์แคท) แมวใหญ่ที่เปิดตัวในหลายชื่อทั่วโลก ซึ่งจะมาพร้อมรูปลักษณ์ที่ใหญ่โตขึ้น สปอร์ตขึ้น และมาพร้อมขุมพลังสมรรถนะสูงขึ้นกว่าเดิม ที่จะมาเสริมทัพให้กับลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด GWM ได้ประกาศความพร้อมในการทำตลาดรถรุ่นนี้แล้ว โดยมาพร้อมชื่อที่เปลี่ยนไปเป็น ORA 07 โดยเตรียมจะประกาศรายละเอียดทั้่งหมดของรถและราคาในเร็ววันนี้ ซึ่งรถรุ่นนี้จะมาทำตลาดในเซกเมนต์เดียวกับ Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) และรถไฟฟ้าร่วมชาติอย่าง BYD Seal (บีวายดี ซีล) ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่นั้น ค่าตัวระดับล้านกลางนั้น ร้อนแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ส่วนคันจริงเป็นอย่างไร สวยขนาดไหน มาชมกัน...
ทำไมไม่เรียกแกรนด์แคท แต่เปลี่ยนชื่อเป็น 07 กันนะ
แน่นอนว่าการเปิดตัวด้วยชื่อใหม่ของรถคันนี้ น่าจะทำให้หลาย ๆ คนแปลกใจกันบ้าง แต่ก็เป็นไปตามนโยบายของออร่าทั่วโลกที่มีแผนที่จะเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้มีการสอดคล้องกัน โดยเริ่มที่รถยนต์รุ่นใหญ่คันนี้ที่จะใช้ชื่อ ORA 07 เหมือนกันในทุกตลาดที่เปิดตัวหลังจากนี้ จากนั้นก็จะเป็นคิวของเจ้าแมวดี ที่จะเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น ORA 03 เหมือนกันในทุกที่ ซึ่งงานนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเรียกชื่อรุ่นเป็นน้องแมว แต่ที่น่าสงสัยก็คือ การทำตลาดด้วยความน่ารักของแมวดีก่อนหน้านี้ เกรทวอลล์จะโยนทิ้งมันไปเฉย ๆ เลย หรือจะปรับมาใช้กับชื่อใหม่นี้ได้อย่างไรในอนาคต
ภายนอกสปอร์ต บึกบึน มาพร้อมสปอยเลอร์ไฟฟ้า
การออกแบบของ 07 นั้นจะแตกต่างจาก 03 ค่อนข้างมาก โดยเน้นการยืดตัวรถออกทั้งในแนวกว้างและแนวยาว กดด้านหน้าของตัวรถลงต่ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดอากาศ พร้อมเสริมมัดกล้ามให้กับตัวรถรอบคัน โดยเฉพาะด้านท้ายที่มาพร้อมสัดส่วนที่โดดเด่น เพิ่มความหรูหราด้วยหลังคากระจกบานใหญ่ ติดตั้งสปอยเลอร์ไฟฟ้าที่ยกตัวอัตโนมัติเมื่อความเร็วถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ล้ออัลลอย 19 นิ้วลายใหม่ดูแปลกตา แต่เสียดายที่บังคาลิปเปอร์เบรกสีแดงจนเกือบมองไม่เห็น เน้นว่าสปอร์ตด้วยการเลือกใช้ยาง Michelin Pilot Sport มาพร้อมไฟหน้าแอลอีดีอัจฉริยะ ไฟท้ายแบบแอลอีดี ฝากระโปรงไฟฟ้าเตะเปิดได้แล้วด้วย
โครงสร้างของรถมีความแข็งแกร่งด้วยวัสดุที่ยอดเยี่ยม
ไม่ใช่แค่การออกแบบที่สวยงามลงตัว แต่เกรทวอลล์ได้เลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูงมากถึง77.6% ของส่วนประกอบทั้งหมด ประกอบไปด้วย เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง 30.6% เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ 29.4% และเหล็กขึ้นรูปร้อน 17.6% ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผู้โดยสารให้กับพื้นที่สำคัญรอบคันรถ ยกตัวอย่างเช่น เสาเอและเสาบีจะใช้เหล็กขึ้นรูปร้อนขั้นสูง 2000MPa พร้อมนำวัสดุคอมโพสิตที่เสริมด้วยไฟเบอร์มาใส่ในเสาบี ทำให้มั่นใจได้ถึงความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการโค้งงอที่ยอดเยี่ม เพิ่มความสามารถในการป้องกันผู้โดยสารจากการกระแทกด้านหน้า ด้านข้างและหลังคาได้เป็นอย่างดี
ภายในหรูหรา ออพชั่นครบครัน นั่งสบายไม่ดันหัว
การออกแบบภายในของรถนั้นยังคงใช้สไตล์แบบย้อนยุค ผสานกับการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง ด้านหลังนั้นนั่งสบายโอ่อ่าเหมือนอยู่บนโซฟา ที่หมอนรองศีรษะไม่ดันหัวเหมือนคู่แข่ง แต่ผู้โดยสารที่นั่งตรงกลางจะหลังแอ่นจากเบาะที่ดันออกมามากเกินไป ด้านหน้านั้นมาพร้อมหน้าจอ 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอแสดงผลการขับขี่ 10.25 นิ้วที่ถูกแบ่งเป็น 3 จอเล็ก และมีเฮดอัพดิสเพลย์มาให้ด้วย เครื่องเสียง Infinity 11 ลำโพงเบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง แผงควบคุมทรงท่อตรงกลางรถ มาพร้อมช่องวางแก้วแบบซ่อนตัว พร้อมเปลี่ยนตำแหน่งของเกียร์ไปไว้ที่คอพวงมาลัย ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม
เลือกการขับขี่ได้หลากหลาย ใช้เสียงบอกเวลาเปลี่ยนฟังชั่นส์
07 มาพร้อมโหมดการขับขี่มากถึง 6 โหมด ที่สามารถเลือกได้ผ่านการหมุนปุ่มที่กลางคอนโซล ประกอบไปด้วย โหมดประหยัด โหมด WELL BEING (ปรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบปรับอากาศ เป็นต้น) โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดสปอร์ตพลัส และโหมดส่วนบุคคล ซึ่งทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนโหมด รถจะมีเสียงที่แจ้งขึ้นมาเพื่อเตือนในการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ ตัวรถยังมาพร้อมออพชั่นที่น่าสนใจ อาทิ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมกรองฝุ่น PM2.5 เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 ที่น่าเสียดายที่ไม่แบนราบไปกับห้องเก็บสัมภาระ และระบบเข้าตัวรถแบบกดปุ่มที่มือจับที่ซ่อนเรียบไปกับตัวรถ ซึ่งน่าเสียดายที่ให้มาแค่ด้านคนขับเท่านั้น
ขายในไทย 2 รุ่นย่อย ตัวถัง 3 สี พร้อมสีม่วงพิเศษ
แม้จะยังไม่มีการยืนยันรายละเอียดของรถที่จะเปิดตัว แต่ GWM ก็ประกาศแล้วว่ารถที่จะจำหน่ายในไทยจะมีเพียง 2 รุ่นย่อยเท่านั้น ประกอบไปด้วยรุ่น LONG RANGE และ PERFORMACE โดยจะมาพร้อมสีตัวถัง 3 สี ได้แก่ สีขาว สีเขา และสีม่วง (พิเศษเฉพาะรุ่นท็อป) ซึ่งสเปคก็น่าจะไม่ต่างจากในตลาดโลก โดยรุ่นลองเรนจ์ จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 204 แรงม้า 340 นิวตันเมตร และรุ่นท็อปมาพร้อมมอเตอร์คู่ 408 แรงม้า 680 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยใช้แบตเตอรี่ 83.5 กิโลวัตต์ชั่วโมงทั้งคู่ วิ่งได้ระยะทาง 600 กิโลเมตรและ 495 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ตามลำดับ พร้อมการชาร์จไฟด่วนที่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดมา
การเปิดตัวน่าจะอีกไม่นาน พร้อมลุ้นราคาล้านกลางตีกับคู่แข่ง ตลาดเดือดแน่นอน!!!
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });