ตลาดรถยนต์บ้านเราที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 ทำให้ยอดขายในทุกเซกเมนท์ได้รับผลกระทบถ้วนหน้า หนึ่งในนั้นคือรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานกระบะหรือพีพีวีที่มีการเติบโตลดลงด้วยเช่นกัน

แต่ถึงแม้ยอดขายรถพีพีวีของทุกค่ายจะถดถอยกันถ้วนหน้า แต่การแข่งขันก็ยังคงมีความดุเดือด Toyota เป็นผู้นำเซกเมนท์ด้วยการทำตลาด Fortuner ซึ่งเพิ่งเปิดตัวรุ่นบิ๊กไมเนอร์เชนจ์เมื่อไม่นานมานี้ ตามมาด้วยอันดับ 2 อย่าง Mitsubishi Pajero Sport ที่ไล่จี้ติดห่างกันหลักไม่กี่ร้อยคันเท่านั้น

ส่วนอันดับ 3 คือ Isuzu MU-X ซึ่งออกทำตลาดมานานหลายปีแล้ว แต่ยังคงรักษาขีดความสามารถทางการแข่งขันไว้ได้อย่างน่าทึ่งจนต้องมาชมกันว่ารถพีพีวีรุ่นนี้มีจุดเด่น-จุดด้อยอะไรบ้าง   

จุดแข็ง

1. ห้องโดยสารกว้างขวาง

ถึงแม้ MU-X จะมีห้องโดยสารที่เหมือนกับ Chevrolet Trailblazer ที่แชร์โครงสร้างเดียวกัน แต่การตกแต่งในรายละเอียดต่างกันหลายจุด เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์แบบ Sport Cut โอบกระชับรับกับสรีระ นุ่มนวล นั่งสบาย แม้ในเส้นทางยาวไกล วัสดุผิวสัมผัสแบบ Soft Touch เพิ่มความนุ่มนวลบริเวณคอนโซลหน้า แผงข้างประตู และที่พักแขน มีการตกแต่งด้วยลายไม้ Fine Walnut และจุดเด่นสำคัญคือความกว้างขวางโอ่โถงทุกแถวที่นั่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน

2. ราคาจำหน่ายเอื้อมถึงได้

ค่าตัวของ MU-X โฉมล่าสุดซึ่งถูกปรับปรุงใหม่ในช่วงต้นปี 2019 เริ่มต้นที่ 1.099 ล้านบาทสำหรับรุ่น 1.9 CD 6AT ขับเคลื่อน 2 ล้อไปจนถึงตัวท็อป รุ่น 3.0 DA-DVD 6AT 4WD เคาะอยู่ที่ 1.474 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรุ่น The New ONYX อีก 2 รุ่นย่อยคือ รุ่น 4x2 1.9 Ddi DA DVD NAVI A/T ราคา 1.364 ล้านบาท และรุ่น 4x2 3.0 Ddi DA DVD NAVI A/T ราคา 1.409 ล้านบาท

ราคาดังกล่าวถือว่าไม่สูงมากและตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่ต้องการรถอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารกว้างขวาง ระบบขับเคลื่อนที่รองรับการใช้งานหลากหลาย และคุณภาพของตัวรถที่ไว้วางใจได้ทุกการเดินทาง

3. ชื่อชั้นแบรนด์แข็งแกร่ง

ชื่อแบรนด์ Isuzu เชื่อมั่นได้อย่างเต็มเปี่ยมด้วยประสบการณ์การทำตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานกระบะมานานหลายปี บริการหลังการขายที่อุ่นใจได้ทำให้ลูกค้าหลายคนมีความภักดีต่อแบรนด์และสร้างฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นมาอย่างยาวนาน

จุดอ่อน

1. ทำตลาดมานาน ใกล้เปลี่ยนโฉมใหม่

มีกระแสข่าวว่า MU-X กำลังจะเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ตามติด D-Max ในเร็ว ๆ นี้ คาดว่ารูปลักษณ์จะมีความทันสมัยมากขึ้นโดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับรถกระบะ ส่วนภายในห้องโดยสารที่เริ่มล้าสมัยก็จะถูกปรับเปลี่ยนใหม่หมดจดเพื่อความโมเดิร์นมากขึ้น ดังนั้น ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ MU-X ใหม่ต้องติดตามข่าวสารกันให้ดีก่อนที่จะจับจองรุ่นปัจจุบัน

2. เครื่องยนต์สู้คู่แข่งไม่ได้

MU-X มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่น เริ่มต้นที่ดีเซล 1.9 Ddi Blue Power พละกำลัง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,600 รอบต่อนาที ขณะที่รุ่นท็อปวางเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร Ddi Blue Power พละกำลัง 177 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที รงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,800 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและอัตโนมัต 6 สปีด เครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นมีเรี่ยวแรงตามหลังคู่แข่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Mitsubishi Pajero Sport, Ford Everest และ Toyota Fortuner โฉมใหม่