Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี) ใหม่ ได้มีการเปิดตัวในเพื่อนบ้านเรามาเป็นเวลาระยะหนึ่งแล้ว และก็ได้มีการเผยว่าจะเปิดตัวในไทยในช่วงปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมการคาดการราคาว่าจะเริ่มต้นที่ 9.3 - 9.8 แสนบาท ทำเอาแฟน ๆ ชาวไทยที่รอคอย Mini MPV คันนี้อาจจะมองว่าค่อนข้างแพง แต่เขาก็มาพร้อมกับหลายระบบดี ๆ มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

แพงสุดในรุ่น

โดยราคาของ 2022 Honda BR-V ทั้ง 2 รุ่นจะอยู่ที่

ซึ่งจะกลายมาเป็น Mini MPV ที่แพงที่สุดในประเทศไทยในทันที แต่เขาก็มาพร้อมกับความเพรียบพร้อม และออพชั่นที่ดูคุ้มราคา

สีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่

• สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เฉพาะ EL)
• สีดำคริสตัล (มุก) (EL และ E) 
• สีขาวทาฟเฟต้า (E)

โดยรุ่น EL สีภายในจะเป็นสีดำ และรุ่น E สีภายในจะเป็นสีทูโทน (ดำ/มอคค่าเกรย์)

อ่านเพิ่มเติม เทียบ 2 รุ่นย่อย Honda BR-V พบออพชั่นครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

หน้าตาดุดันขึ้นเยอะ

หลังจากที่ได้รับการปรับแต่งหน้าตา ก็ถือว่าโดยรวมมีความลงตัวมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำขนาดใหญ่เสริมด้วยเส้นโครเมี่ยมด้านบนไฟหน้า, ไฟ DRL และไฟท้ายแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าจะมีให้ในรุ่นท็อปเท่านั้น

กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน ราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้วในรุ่น EL และขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น E

ภายในกว้างขึ้น

สำหรับภายในนั้นจะมีการออกแบบมาใหม่ทั้งหมด ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางมากกว่าเดิม และจะมีให้เลือกเฉพาะรุ่น 7 ที่นั่ง ตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุสีดำเงา  เบาะนั่งปรับมือวัสดุหนังแท้และหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย

มาตรวัด TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์าจอสัมผัส 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto บลูทูธ และสั่งการด้วยเสียง มีช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ 

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ที่วางแก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง พร้อมพนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง

เครื่องยังเหมือนเดิม

2022 Honda BR-V ทุกรุ่นได้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตรให้กำลัง 121 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตันเมตร

จับคู่ระบบเกียร์ CVT มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร รองรับ E20 ทำให้ตอนนี้พวกเขาเป็น Mini MPV ที่แรงที่สุดในประเทศไทย

Honda SENSING ตั้งแต่รุ่น E

ในรถยนต์ Honda (ฮอนด้า) รุ่นใหม่จะเริ่มมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า 

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) 
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ อาทิ

• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
• กล้องส่องภาพด้านหลัง
• ถุงลม 6 ตำแหน่ง

อ่านเพิ่มเติม เทียบตัวท็อป 2022 Honda BR-V ปะทะ 2022 Toyota Veloz 

บางอย่างที่ควรมีก็ไม่มี

เมื่อเทียบคู่แข่งโดยตรงของเขาอย่างเช่น Toyota Veloz (โตโยต้า เวลอซ) Honda BR-V ก็มีบางอย่างที่คู่แข่งไม่มี เช่น Adaptive Cruise Control ที่บางคนไม่มีเลย หรือเป็นแบบธรรมดา

แต่ออพชั่นบางอย่างที่เรามองว่าควรมีคือ ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear-Cross Traffic Alert และกล้องมองรอบคันก็น่าจะมีมาให้ในตัวรถได้แล้ว เนื่องด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ และยาวจะทำให้เกิดมุมอับเวลาถอยออกจากซองได้

อย่างไรก็ตาม อีกจุดหนึ่งที่เรามองว่า Honda BR-V มีดีกว่าคู่แข่งก็คือเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าและแรงบิดมากกว่า เพราะค่ายอื่นยังอยู่ในระดับ 100-110 แรงม้าเท่านั้น

หากใครที่เป็นสาย Honda อยู่แล้ว ก็น่าจะชอบเจ้า BR-V ที่มีการเปลี่ยนใหม่มาให้ทั้งหมดนี้ แต่ในเรื่องของราคาที่แพงกว่าคู่แข่งอยู่หลายบาทนั้นก็อาจจะเป็นอุปสรรคใหญ่ก็เป็นได้