บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว 2022 Honda BR-V (2022 ฮอนด้า บีอาร์-วี) ใหม่ ในเจเนอเรชั่นที่ 2 อย่างเป็นทางการ ซึ่งรถเอ็มพีวีขนาด 7 ที่นั่งที่มีราคาที่เอื้อมถึงได้ โดยมีราคาประมาณการอยู่ระหว่าง 9.3 - 9.8 แสนบาท
ภายนอก-ใน ใหม่ทั้งหมด
Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรบล็อกเดิม
ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 19 สิงหาคม 2565
2022 Honda BR-V ยังเป็นการยกระดับจากรุ่นเดิมในทุกด้าน ทั้งสมดุลในการขับขี่ ระบบช่วงล่างและการควบคุม รวมถึงมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถว 3 สามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัย
ราคาประมาณการ (ประกาศ 19 สิงหาคม 2565)
รุ่น EL ราคาไม่เกิน 980,000 บาท
รุ่น E ราคาไม่เกิน 930,000 บาท
ภายนอกที่ดูสปอร์ต และดูแข็งแรงมากขึ้น
ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นมีดังนี้
กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สะท้อนความโดดเด่นยิ่งขึ้นในรุ่น EL ที่มาพร้อมสี Piano Black
กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน (รุ่น EL)
ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น EL)
กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น EL)
คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน (รุ่น EL)
ราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น EL) และขนาด 16 นิ้ว (รุ่น E)
ภายในของรุ่น EL
ภายในมีห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ และกว้างขวางขึ้น
ภายในมีห้องโดยสารของ 2022 BR-V มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมด และยังมีพื้นที่ภายในเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม โดยมีสิ่งที่โดดเด่น ดังนี้
คอนโซลดีไซน์ใหม่ พร้อมวัสดุตกแต่งแบบ Piano Black เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย
ช่องเก็บของ รวมถึงที่วางแก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง พร้อมพนักเท้าแขนด้านหน้าและด้านหลัง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้โดยสารทุกคน
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
ห้องเก็บสัมภาระท้ายมากขึ้นกว่าเจเนอเรชันก่อน พร้อมเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้หลากหลายรูปแบบ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ดังนี้
เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) โดยสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ
เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้ 2 ระดับ
นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นภายในรถนั้นมีอย่างครบครันเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ดังนี้
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น EL)
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
รุ่น E
เครื่องยนต์เดิม ที่ยังตอบสนองการใช้งานได้ครบถ้วน
2022 BR-V มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที มีอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ ได้แก่
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed)
ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
กล้องส่องภาพด้านหลัง
ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
มาพร้อม 3 เฉดสี
สีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เฉพาะรุ่น EL) สีดำคริสตัล (มุก) (รุ่น EL และรุ่น E) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น E) โดยรุ่น EL สีภายในจะเป็นสีดำ และรุ่น E สีภายในจะเป็นสีทูโทน (ดำ/มอคค่าเกรย์)
โปรโมชั่น
ลูกค้าที่จองสิทธิ์ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 น. ถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 เวลา 22.00 น. รับฟรีชุดโต๊ะพับแคมป์ปิ้ง มูลค่า 4,200 บาทโดยจะได้รับสิทธิ์เมื่อจองและรับรถภายในระยะเวลาที่บริษัทฯ กำหนด
โดยสามารถจองสิทธิ์ผ่านที่ปรึกษาการขายฮอนด้าหรือที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 19 สิงหาคมนี้
การประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ 2022 Honda BR-V จะมาในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 นี้ พร้อมเตรียมสัมผัสตัวจริงของรถคันนี้เป็นครั้งแรกได้ในงาน BIG Motor Sale 2022 ระหว่างวันที่ 19 - 28 สิงหาคม 2565 นี้
อ่านเพิ่มเติม : ลองขับ New Honda BR-V ในอินโดนีเซีย แรงสุดในกลุ่ม กินน้ำมัน 17.1 กม./ลิตร