เทียบรถยนต์ไฟฟ้า MG EP หรือว่า ZS EV ได้ส่วนลด 100,000 บาท นำเข้าจีนทั้งคู่ แล้วต่างกันยังไง

2021 MG EP (2021 เอ็มจี อีพี) รถแวกอนเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยราคา 988,000 บาท ส่วนทางด้าน MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี)  เอสยูวีที่ขายในราคา 1.19 ล้าน ก็รับน้องใหม่ด้วยการจัดส่วนลด 1 แสนบาท ทำราคาให้เหลือ 1,090,000 บาท ซึ่งมีความแตกต่างกันไม่มาก แล้วลูกค้าควรจะซื้อรุ่นใดดี เรามาดูคำตอบพร้อมกัน

MG EP พื้นฐานอินดี้

2021 MG EP เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมตัวถังแบบสเตชั่นวากอนครั้งแรกในประเทศไทย แต่ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพราะก่อนหน้านี้ MG เคยนำเสนอ ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าออกมาแล้ว ด้วยรูปทรงแบบเดียวกับ ZS รุ่นเครื่องยนต์สันดาป ทำให้ด้านพื้นฐานชิ้นส่วนกายภาพต่างๆ มีอะไหล่แพร่หลายมากกว่ารุ่น EP น้องใหม่ที่ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับใครไม่ได้เลย

น้องใหม่ดีไซน์ล้าสมัยกว่าซะงั้น

2021 MG EP มีกระจังหน้าแบบ Suspended Wing Grille ที่ตกแต่งด้วยโครเมียมและเปียโนแบล็ก ยาวต่อเนื่องไปกับไฟหน้าทรงเหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งออกแบบโดยสตูดิโอจาก SAIC เพื่อเอาใจคนจีนโดยเฉพาะ ตรงข้ามกับ ZS EV ที่แม้จะออกแบบในปี 2017 เหมือนกับรุ่น EP แต่รถตระกูล ZS มีรูปทรงทันสมัยกว่า เพราะมีทั้งไฟหน้า London eye อีกทั้งรูปทรงเรียวแหลมที่วาดโดยสตูดิโอในอังกฤษ ตั้งใจให้เป็นรถที่ถูกจริตคนทั่วโลก เมื่อดูมิติตัวถังแล้วพบว่า ZS EV มีใต้ท้องรถสูงกว่าชัดเจน เหมาะกับการไต่เนินชันนิดๆ หรือลุยน้ำท่วมเบาๆ ก็ได้เปรียบกว่า

เทียบออพชั่น

ออพชั่นของ ZS EV ได้รับมากกว่า EP อย่างชัดเจน ตรงภายนอกนั้น MG ZS EV ใส่ล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่ถึง 17 นิ้วลายปัดเงา ให้ซันรูฟบานใหญ่ถึง 90% ของพื้นที่หลังคา มีระบบสั่งการด้วยเสียง ในขณะที่ MG EP มีระบบไฮเทคเท่าที่จำเป็น กับการรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ที่พอจะเป็นจุดขายได้อยู่

วัดพลังไฟฟ้า น้องใหม่กินขาด

ไม้ตายเด็ดของ 2021 MG EP คือระบบขับเคลื่อน ตรงมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ไฟฟ้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 8.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 185 กม./ชม. ใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion มีความจุรวมถึง 50.3 kWh ทำให้สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ระยะทางไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที

ในขณะที่ MG ZS EV มีแบตเตอร์รี่และกำลังมอเตอร์น้อยกว่า 13 แรงม้า ระยะทางวิ่งสั้นลง 43 กม. นี้เป็นจุดด้อยสำหรับ ZS EV ที่คนจะซื้อต้องทำใจ ควรให้ใช้งานระยะสั้นๆ และไม่เน้นความเร็วแรงเกินไป ยังดีตรงที่มีแรงบิดมากกว่าเกือบร้อยนิวตัน-เมตร

ระบบความปลอดภัย

ความปลอดภัยใน 2021 MG EP มีมาให้เพียงพอแบบรถเก๋งรุ่นเล็กทั่วไปที่ไม่ใช่ตัวท็อป ซึ่งรวบรวมระบบมาไว้ทั้งหมดได้ดังนี้

• ถุงลมนิรภัย 2 จุดที่คู่หน้า

• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System) 

• ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution)

• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 

• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) 

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 

• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)

• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) 

• ระบบตรวจสอบลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)

ส่วนทางด้าน MG ZS EV มีมาให้เหมือนกันทุกอย่างที่อยู่ในลิสต์ด้านบน แถมเพิ่มเติมระบบไฮเทคเข้ามาอีกดังนี้

• ถุงลมให้เป็น 6 ใบรอบคัน

• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (ฺBlind Spot Detection)

• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) 

•  ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่  FCW (Forward Collision Warning)

• ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)

•  ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Depping Warning)

•  ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)

•  ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)

•  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

สรุปว่าเลือกคันไหนดี ?

เมื่อดูจากคุณสมบัติทั้งภายนอกและภายในแล้ว รวมถึงความแตกต่างทางด้านราคาหลังจากหักส่วนลดแล้ว ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า MG ZS EV จะยังได้รับยอดจองที่ดี เพราะด้วยราคาค่าตัวหลังจากได้ลดแล้ว เหลือส่วนต่างกันแค่ 100,000 บาท ก็ได้ระบบหลายอย่างครบถ้วนแบบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่ม

แต่ถ้าหากในอนาคต MG EP ได้รับส่วนลดเท่ากัน คุณผู้อ่านก็ต้องไปลองขับแล้วตัดสินใจกันตามรสนิยมส่วนบุคคลเลยครับ ว่าชอบรถแวนขับง่ายสไตล์เก๋ง หรือชอบเอสยูวีทรงสวยยกสูง