Volvo เตรียมเพิ่มผลิตรถไฟฟ้า 3 เท่าที่โรงงานเกนท์ หลังลูกค้าตอบรับพุ่งทั่วโลก

Volvo (วอลโว่) ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกจากประเทศสวีเดน ประกาศความพร้อมในการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการประกาศเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานเกนท์ ประเทศเบลเยี่ยม เพิ่มอีก 3 เท่าจากปัจจุบัน หลังจากที่มีความต้องการของรถยนต์ในกลุ่ม Recharge (รีชาร์จ) เพิ่มขึ้นทั่วโลก 

ตัวเลขการจำหน่ายของรถยนต์กลุ่มไฟฟ้าของวอลโว่เติบโตขึ้นทั่วโลก ทำให้บริษัทต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตดังกล่าว โดยมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า พวกเขาสามารถขายรถยนต์กลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนการตลาดมากขึ้นกว่า 1 เท่าตัวในปี 2563 ที่ผ่านมา

ตามแผนงานของวอลโว่นั้น โรงงานที่เบลเยี่ยม ซึ่งเป็นโรงงานแรกที่ผลิตรถยนต์กลุ่มรีชาร์จของบริษัท จะเพิ่มกำลังการรถยนต์ไฟฟ้าอีก 3 เท่าตัวจากปัจจุบันภายในปี 2545 ซึ่งจะทำให้โรงงานแห่งนี้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 60% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

ลงทุนเพิ่ม พร้อมผลิตรถไฟฟ้ารุ่นที่ 2 

วอลโว่รายงานว่า โรงงานแห่งนี้ของพวกเขาจะเป็นฐานการผลิตแห่งแรกที่ได้ทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ของบริษัท ซึ่งพัฒนาขึ้นมาบนแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่เรียกว่า CMA modular โดยมีข่าวลือว่ารถรุ่นใหม่ของพวกเขาจะมาในรูปทรงของแฮชท์แบ็กขนาดเล็กคล้าย Volvo V40 (วอลโว่ วี40)

ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของพวกเขาก็พัฒนาบนแพลตฟอร์มขนาดเล็กในรูปแบบของเอสยูวี/ครอสโอเวอร์เช่นกัน ซึ่งโรงงานเกนท์ก็ใช้สำหรับการผลิต Volvo XC40 Recharge P8 (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 รีชาร์จ พีเอจ) รวมไปถึงเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริดเช่นเดียวกัน

วอลโว่ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม และพวกเขาก็มีแผนที่จะเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยมีแผนว่าภายในปี 2567 ยอดขายรถไฟฟ้าของแบรนด์ทั่วโลกจะมีไม่น้อยกว่า 50% และที่เหลือจะเป็นกลุ่มรถยนต์ไฮบริด

ไม่ใช่แค่โรงงานที่เกนท์เท่านั้นที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด วอลโว่เองอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิตรถไฟฟ้าไปยังเครือข่ายโรงงานของพวกเขาที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้

และก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ประกาศแผนงานการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าของตัวเอง ที่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในประเทศสวีเดน โดยตั้งเป้าหมายจะทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบในโรงงานภายในกลางทศวรรษนี้ ด้วยงบลงทุนกว่า 700 ล้านโครน่า (ประมาณ 2.5 พันล้านบาท) รวมถึงการพัฒนาและออกแบบมอเตอร์ไฟฟ้าของตัวเองทั้งหมด

วอลโว่ ประเทศไทย ก็กำลังจะขายรถไฟฟ้าเหมือนกัน

หลังจากปล่อยให้คู่แข่งในระดับพรีเมียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างคึกคักในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น MINI E (มินิ อี) Audi e-tron (อาวดี้ อี-ตรอน) หรือแม้แต่ซูเปอร์คาร์อย่าง Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคัน) มีการยืนยันแล้วว่าวอลโว่จะเข้าสู่สมรภูมิอีวี 100% อย่างแน่นอนในปีนี้

คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย AutoFun Thailand ในช่วงก่อนหน้านี้ ว่านโยบายของวอลโว่ทั่วโลกคือการแนะนำยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งสำหรับในประเทศไทย จะเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ทุกรุ่นของวอลโว่มาพร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริดในปี 2563

อันเป็นผลจากการเปิดตัว Volvo XC40 Recharge ปลั๊กอินไฮบริดน้องเล็กที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของวอลโว่ จากที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาทำตลาดรถยนต์กึ่งไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กได้มาแล้วทุกรุ่น ทั้งรถยนต์นั่ง เอสเตท และเอสยูวีที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทย

สำหรับในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวเอสยูวีไฟฟ้า 100% ระดับหรูรุ่นแรกของประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว Volvo XC40 Recharge P8 (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 รีชาร์จ พี8) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของวอลโว่ ตามเทรนด์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ที่กำลังเดินหน้าไปในทิศทางดังกล่าว

วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 รีชาร์จ พี8 คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกของวอลโว่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของรถเอสยูวีขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดของค่าย และรถคันนี้นี่เองที่ทำให้วอลโว่สามารถคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของยุโรปได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การก่อตั้งแบรนด์มาเลยทีเดียว

รู้จักกับ Volvo XC40 Recharge P8

รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาบนโครงสร้างแพลตฟอร์มซีเอ็มเอ โดยมีจุดขายที่สำคัญมากสำหรับรถคันนี้ก็คือ การที่วอลโว่สามารถติดตั้งตำแหน่งช่องเก็บสัมภาระมากมายเพิ่มขึ้นในตัวรถ รวมถึงที่เก็บสัมภาระที่วอลโว่เรียกว่า frunk หรือช่องเก็บของด้านหน้า ที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่พวกเขาไม่ต้องติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในนั่นเอง

เอ็กซ์ซี40 พี8 ยังเป็นรถยนต์ของวอลโว่รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์รูปแบบใหม่ ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ในการปฏิบัติการ ซึ่งนอกจากจะเป็นการพัฒนาการด้านกทารให้บริการที่หลากหลายแล้ว ลูกค้ายังสามารถใช้บริการของกูเกิลได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล แอสซิสแทนต์, กูเกิล แมพ หรือกูเกิล เพลย์สโตร์ก็ได้หมด

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบการอัพเดตข้อมูลแบบไร้สาย (โอทีเอ) เป็นรุ่นแรกเช่นเดียวกัน มาพ้อมเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า พร้อมระบบชาร์จด่วนที่เติมไฟให้กับรถได้ 80% จากการชาร์จไวเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น

ระบบความปลอดภัยของรถได้รับการออกแบบใหม่ให้เหมาะสมกับการที่ไม่มีเครื่องยนต์ที่ด้านหน้าของตัวถัง มีการติดตั้งแบตเตอรี่พร้อมเคสอลูมิเนียมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยที่กลางรถ พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์ที่ด้านท้ายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวรถ และมาพร้อมระบบความปลอดภัยมากมายเต็มคันให้สมกับที่เป็นวอลโว่

ทั้งนี้ ในตลาดโลกได้มีการเปิดตัวรถรุ่นนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่ารถยนต์ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในช่วงกลางปีนี้ ก็จะมาจากโรงงานเกนท์เช่นเดียวกัน และต้องมาลุ้นว่า ราคาจำหน่ายจะเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับเอ็กซ์ซี40 รีชาร์จ ปลั๊กอิน ไฮบริด ที่อยู่ที่ 2.09-2.39 ล้านบาทเท่านั้นเอง