ไทยเอาบ้างไหม MG อังกฤษช่วยลูกค้าจ่ายค่ารถไฟฟ้า 3.3 หมื่นบาทกระตุ้นยอดขาย

ความพยายามในการเดินหน้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศยังดำเนินการไปอย่างเข้มข้น หนึ่งในนั้นคือเจ้าพ่อรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง MG (เอ็มจี) ที่มีความพยายามผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาให้ขยายตัวในตลาดต่าง ๆ หลายแห่ง

ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าไม่ว่าจะเป็น MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) MG EP (เอ็มจี อีพี) หรือที่ในอังกฤษเรียกว่า MG5 EV (เอ็มจี5 อีวี) และรถปลั๊กอินไฮบริดอย่าง MG HS PHEV ก็ตาม

ล่าสุด พวกเขาได้ออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นลูกค้า ด้วยการให้ส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมทันทีอีก 750 ปอนด์ (ประมาณ 3.3 หมื่นบาท) เพียงลูกค้าทำการจองเพื่อทดลองขับรถรุ่นใดก็ได้ ก็สามารถดาวน์โหลดคูปองส่วนลดดังกล่าวไปใช้ได้ทันทีที่ซื้อรถ

เพิ่มระยะเวลาทดลองขับพร้อมอัดส่วนลด

นอกเหนือจากการให้ส่วนลดดังกล่าวแล้ว ทางเอ็มจี ยูเค ยังมอบประสบการณ์ในการทดลองขับให้กับลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยลูกค้าสามารถทำการจองรถเพื่อนำไปขับขี่ยาวขึ้น และได้รับส่วนลดพิเศษทันทีที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์กลุ่มนี้

นอกเหนือไปจากส่วนลด 750 ปอนด์ที่ทางบริษัทมอบให้กับลูกค้าแล้ว ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้จะมั่นใจว่าได้รับความคุ้มค่าแน่นอน เมื่อรถยนต์กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีก 2,500 ปอนด์ (1.1 แสนบาท) เป็นส่วนลดอยู่แล้ว

รวมไปถึงยังได้รับการประกับมากถึง 7 ปี ซึ่งทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา กว่า 30% ของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในอังกฤษเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้พวกเขามีส่วนแบ่งตลาดรถไฟฟ้าถึง 5%

ตลาดประเทศไทยยังต้องการการผลักดัน

หันกลับมามองที่ตลาดประเทศไทย แม้รถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการนำเข้าแบบสำเร็จรูปจากประเทศจีน ทำให้สามารถทำราคาจำหน่ายที่ไม่แพงเกินไปนักได้ แต่ลูกค้าก็ยังคาดหวังที่จะเห็นราคาจำหน่ายที่ถูกลงไปกว่านี้

นอกจากนี้ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ล่าช้า ทำให้ยังไม่เกิดสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานได้อย่างจริงจังเกิดขึ้น ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เอ็มจีเป็นผู้นำตลาดอยู่ไม่เติบโตเท่าที่ควรในช่วงปีที่ผ่านมาและในปีนี้

คำถามที่ว่าหากมีการเพิ่มส่วนลดให้แล้วจะทำให้ผู้บริโภคหันกลับมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่านี้หรือไม่อาจจะไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสม ยกเว้นแต่ส่วนลดที่ให้มานั้นจะมากพอที่ทำให้ลูกค้ายอมปรับตัวให้เข้ากับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในที่สุด