อดีตหัวหน้า Tesla ออกมาเตือนค่ายรถอื่น ระวังโรงงานอาจชะงัก หากทุกค่ายเร่งผลิต EV มากไป

อดีตผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายเทคนิคคนเก่าแก่ของ Tesla (เทสล่า) คือนาย JB Straubel ได้ส่งคำเตือนไปยังผู้ผลิตรถยนต์อื่นทั้งหมด ที่กำลังประกาศแผนการเปลี่ยนไปใช้ EV ว่าควรคำนวนกำลังและปริมาณการผลิตให้ดี ก่อนที่จะประกาศแผนการทำรถไฟฟ้าของคุณ

 นาย JB Straubel เป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคที่อยู่กับ Tesla มาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้ง และเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมหลายอย่างในรถ ทำจินตนาการของอีลอนมัสก์ให้เป็นจริงหลายเรื่อง แต่ปัจจุบันนี้เขากลับลาออกมาตั้งบริษัท Redwood Material เป็นของตัวเอง ซึ่งทำหน้าที่รีไซเคิลแบตเตอรี่ใช้แล้ว เพราะเขาเห็นถึงปัญหาการจัดการแบตเตอรี่ในอนาคต

ในงานสัมมนาบริษัทสตาร์ทอัพ Straubel ชมเชยผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายที่กำลังประกาศเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่รวดเร็ว เช่น Mercedes-Benz ภายในปี 2030 หรือ GM ภายในปี 2035 แต่เขายังตั้งคำถามด้วยว่า พวกเขาพิจารณาถึงสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นจริง ๆ หรือไม่ โดยกล่าวว่า “ผู้ผลิต OEM (ผู้ผลิตรถยนต์) รัฐบาล โรงงาน และลูกค้าจำนวนมากกำลังก้าวเข้าสู่สังคม EV และประกาศโครงการใหญ่เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ภายในทศวรรษนี้หรือปีหน้า แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะคำนวณถึงปริมาณของห่วงโซ่อุปทานและย้อนกลับไปคิดถึงแร่ที่เหมือง”

นาย Straubel  กล่าวต่อไปว่า “พวกเขาทั้งหมดบอกว่าพวกเขากำลังเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าในเวลาเดียวกัน ฉันคิดว่าเราจะมีช่วงเวลาที่เจ็บปวดจริง ๆ มันจะไม่เป็นแค่การขาดแคลนแบตเตอรี่ แต่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด มันอาจจะขาดแคลนแร่นิกเกิล การทำแคโทดชะงัก และอื่น ๆ

อ่านเพิ่มเติม : ผลวิจัยค่ายรถระบุชัด คนใช้รถไฟฟ้าเดินทางไกลกว่ารถน้ำมันจริงหรือ ? เผยหลักฐานยืนยันที่นี่

Straubel ไม่ได้หมายความว่าเราต้องชะลอการเปลี่ยนแปลงเป็น EV แต่จำเป็นต้องส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง อย่างครบวงจร 

“เราไม่สามารถกำจัดคาร์บอนให้โลกได้เร็วพอ มันน่ากลัวที่จะรู้ว่าเราทำร้ายโลกมามาแค่ไหน และเรายังต้องไปไกลแค่ไหนเพื่อที่จะแก้ไขมัน”

นั่นคือจุดกำเนิดของบริษัท Redwood Materials แห่งใหม่ของเขา ซึ่งเป็นบริษัทรีไซเคิลและผลิตวัสดุแบตเตอรี่ เพื่อเขาต้องการให้แน่ใจว่า อุตสาหกรรมนี้พร้อมสำหรับการรีไซเคิลแบตเตอรี่ หมุนเวียนไปใช้ได้ในอนาคต เพื่อทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความยั่งยืนในระยะยาว

ตามที่เรารายงานไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ขยายไปสู่การผลิตแคโทดและแอโนด ด้วยโรงงานผลิตแบตเตอรี่ 100 GWh ในสหรัฐอเมริกา เป้าหมายคือการสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบปิดสำหรับวัสดุเหล่านั้นในอเมริกาเหนือ เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของการผลิตแบตเตอรี่ในภูมิภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อ่านเพิ่มเติม : Foxconn เปิดตัวรถไฟฟ้าแล้ว 3 รุ่น : Model C, Model E และ Model T พร้อมเผยแผนการผลิตในไทยกับปตท.

เมื่อเดือนที่แล้ว Redwood Materials ยังได้ประกาศข้อตกลงกับ Ford เพื่อช่วยพวกเขาในการสร้างซัพพลายเชนเพื่อรองรับแผนการใช้พลังงานไฟฟ้าของพวกเขา Straubel ให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมจะต้องปรับขนาดการผลิตวัสดุที่สำคัญหลายอย่างให้เป็นกระแสไฟฟ้า รวมถึงนิกเกิล ทองแดง และลิเธียม และเติมการรีไซเคิลลงในส่วนผสมอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าแร่ลิเธียมจะสามารถรีไซเคิลกลับมาใช้งานได้เกือบ 100% แต่ก็ยังไม่ค่อยมีใครสนใจเปิดการรีไซเคิล ยังใช้วงจรการขุดแร่จากเหมืองอย่างมาก จนทำให้ราคาแร่ลิเธียมหน้าเหมืองพุ่งสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งทางเหมืองแร่ก็ไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิต หรือลงทุนขุดเจาะเพิ่ม เพราะรู้ดีกว่า ในที่สุด แร่พวกนี้ก็จะถูกรีไซเคิลกลับมาใช้ได้ ดังนั้นนี่อาจจะเป็นช่วงที่ราคาลิเธียมถึงจุดสูงสุดก่อนฟองสบู่แตกก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม : ไม่ใช่แค่น้ำมันแพง แต่แบตลิเธียมเตรียมราคาพุ่ง เพราะแร่มีไม่พอ จนทำให้ตลาดกำลังขาดดุลแล้ว