มาใหม่! 2022 MG EP Plus เพิ่มความอเนกประสงค์ ปรับราคาสู้ ORA Good Cat

บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ NEW 2022 MG EP Plus (2022 เอ็มจี อีพี พลัส) เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อตอกย้ำภาพรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

EP Plus เป็นการต่อยอดจาก EP รุ่นสแตนดาร์ดที่ทาง MG ยืนยันว่าต้องการเน้นย้ำการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้จริง ไม่ใช่มีดีแค่ดีไซน์ แต่จะต้องตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการข่มขวัญคู่แข่งอย่าง 2022 ORA Good Cat (2022 โอร่า กู๊ดแคท) ที่เพิ่งประกาศราคาจำหน่ายเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งอยู่ที่ 989,000 - 1,199,000 บาท

ยกระดับความอเนกประสงค์

พื้นที่ใช้สอยภายในของ EP Plus มีความกว้างขวาง สามารถบรรทุกสัมภาระสูงสุด 1,456 ลิตร พร้อมมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ที่ 75 กิโลกรัม ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถขนสัมภาระและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิมเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า

ด้านความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) EP Plus มาพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 ที่สามารถดักจับและป้องกันฝุ่นละอองอนุภาคเล็กภายในห้องโดยสาร และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า เพิ่มความเรียบร้อยและสะดวกในการบำรุงรักษา

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง แบตเตอรี่ลิเธียม-ไออนขนาด 50.3 kWh ขับได้ไกล 380 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำ และฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้สภาวะต่างๆ

EP Plus สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม.ได้ในเวลา 8.8 วินาที ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 163 แรงม้า และแรงบิด 260 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่ 3 โหมดได้แก่ Sport, Normal และ Eco

MG เคลมว่าค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่ 0-100% เฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาท หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาท ต่อ 1 กม. ประหยัดกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า และในเรื่องของการดูแลรักษาที่ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความกังวล MG ก็ได้เผยค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะตลอดระยะทาง 100,000 กม. อยู่ที่ประมาณ 7,828 บาทเท่านั้น

MG เคาะราคาจำหน่าย EP Plus อยู่ที่ 998,000 บาท สูงขึ้นกว่าเดิม 1 หมื่นบาท มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีเงิน (Metallic Grey) และสีดำ (Black Knight)

พร้อมกันนี้ เอ็มจียังได้เปิดโอกาสให้คนไทย ได้สัมผัสและทดลองขับทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง MG EP พร้อมด้วยรถปลั๊กอินไฮบริดอย่าง MG HS PHEV ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ความทันสมัย และความคุ้มค่า ในกิจกรรม “Charge your day, Change your life” ที่ศูนย์สร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ MG Driving Experience Centre ถนนศรีนครินทร์ และโชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันอาทิตย์ที่

พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ  มีความมิใจที่ปัจจุบันคนไทยมีความคุ้นชินและหันมาสนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่ MG เริ่มบุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของเอ็มจีออกสู่ตลาดเมื่อ 2 ปีก่อน

“จนถึงปัจจุบันเอ็มจีก็ยังคงเดินหน้าแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดและเดินหน้าผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเอาจริงจังมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาด้านการ บริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั้งการบริการและดูแลรักษารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรทั่วประเทศ ตลอดจนการลงทุนขยายสถานี MG Super Charge โดยปัจจุบันมีอยู่กว่า 119 แห่ง และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่งในเร็วๆนี้ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทำให้วันนี้แบรนด์เอ็มจีมีความพร้อมทุกด้านในการรองรับและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ และพร้อมยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยให้ก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า ในอนาคตอันใกล้นี้” พงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม