ผลสำรวจชี้ชัด ผู้บริหารบริษัทยานยนต์คาดว่ายอดขายรถ EV จะเกิน 50% ภายในปี 2030

จากแบบสำรวจใหม่โดยสำนักงานบัญชีและที่ปรึกษา KPMG พบว่าผู้บริหารเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมียอดขายเกินครึ่งของรถยนต์ใหม่ทั้งในสหรัฐฯ และจีนภายในปี 2030 และสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

แต่จากผลของแบบสำรวจประจำปีจากที่เดียวกันนั้น รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งรวมถึงรถไฮบริดด้วย คาดว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งส่วนใหญ่ในตลาดได้อีกหลายปี (จากผู้บริหารบริษัทยานยนต์กว่า 1,000 คน)

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความสามารถในการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์คือปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก มีการลงนามระหว่างกลุ่มของผู้ผลิตรถยนต์และประเทศต่าง ๆ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเพื่อยุติการใช้เครื่องยนต์สันดาปทั่วโลกภายในปี 2040 และภายในปี 2035 ในประเทศที่ร่ำรวยกว่า

แต่ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกโดยยอดขาย ทั้ง Toyota (โตโยต้า) และ Volkswagen (โฟล์คสวาเกน) และตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ จีน สหรัฐฯ และเยอรมณี ไม่ได้เข้าร่วมการลงนามในครั้งนี้ 

และจากแบบสำรวจใหม่ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นพบว่าผู้บริหารในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่เชื่อว่ารถ EV จะครองอัตรายอดขายรถใหม่ถึง 52% ในสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ภายในปี 2030 แต่จะมีอัตราที่น้อยกว่านี้ในยุโรปตะวันตก บราซิล และอินเดีย แต่เบื้องหลังการคาดการณ์นี้ พบว่าผู้บริหารแต่ละคนในอุตสาหกรรมนี้มีความคิดเห็นที่ต่างกันอย่างมาก

สำหรับประเทศจีน ผู้บริหารบางท่านคาดการณ์ว่ายอดขายรถ EV ในปี 2030 จะน้อยกว่า 20% ของตลาดโลก ในขณะที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมียอดขายในอัตราที่สูงถึง 80% เลยทีเดียว

การเติบโตของยอดขายรถ EV ส่วนใหญ่มาจากการช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่จากแบบสำรวจของ KPMG พบว่า 77% ของคำตอบในการสำรวจบอกว่ารถ EV จะเป็นที่นิยมภายใน 10 ปีโดยไม่ต้องรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะแบตเตอรี่กำลังจะมีต้นทุนเทียบเท่าเครื่องยนต์สันดาป แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทยานยนต์กว่า 91% ยังสนับสนุนการช่วยเหลือของรัฐบาล

การสำรวจในวงกว้างยังพบว่า 75% ของผู้บริหารที่ทำการสำรวจ คาดหวังว่าบริษัทของพวกเขาจะขายสินทรัพย์ที่ “ไม่ใช่ธุรกิจหลัก” ได้อีกภายในไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อประเมินว่าแนวทางธุรกิจใหม่จะดำเนินไปอย่างไร ด้วยเหตุที่ยานพาหนะใหม่ ๆ จะใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

Gary Silberg ผู้นำระดับโลกด้านแนวปฏิบัติด้านยานยนต์ของ KPMG กล่าวว่า “จะต้องมีการควบรวมกิจการที่มากขึ้นแน่นอน” 

แม้ว่าจะมีปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและโรคระบาดในปีที่ผ่าน ๆ มา ผู้บริหารกว่า 53% ที่ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตและบรรลุผลกำไรในอีก 5 ปีข้างหน้า

อ่านเพิ่มเติม : ผลสำรวจชี้รถยนต์ไฟฟ้าสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานต่ำสุด ด้วยเหตุผลอันใดมาชมกัน