MG (เอ็มจี) ประเทศไทย เตรียมประกาศปรับขึ้นราคารถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดของค่ายอย่าง MG5 (เอ็มจี5) รุ่นย่อยละ 1 หมื่นบาท ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับขึ้นราคาของแบรนด์เอ็มจีในหลายตลาดทั่วโลกจากปัญหาต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาของรถเล็กรุ่นนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านการขึ้นราคาวัตถุดิบหรือการขนส่งเหมือนในตลาดต่างประเทศเขา แต่น่าจะเป็นการปรับราคาให้เหมาะสมกับต้นทุนและตลาด หลังจากใช้ราคาแนะนำมาตั้งแต่ตอนเปิดตัว
นั่นก็หมายความว่าราคาจำหน่ายของ MG5 รุ่น C จะปรับเพิ่มเป็น 5.69 แสนนบาท รุ่น D จะปรับเพิ่มเป็น 6.09 แสนนบาทและรุ่นท็อปอย่าง X จะมาพร้อมค่าตัว 6.99 แสนบาท นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งก็ถือเป็นรถที่คุ้มค่าตัวที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดอยู่ดี
ใครที่ลังเลใจจะซื้ออย่าลืมตัดสินใจไวไวในเดือนนี้...
ยอดจำหน่ายของเอ็มจี5 ในปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่ามีสูงถึง 6,117 คันตามรายงานของเอ็มจีเอง ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 20% ของตัวเลขการขายรวมของบริษัทที่รายงานไว้ที่ 31,005 คัน และคิดเป็นมากกว่า 50% ของยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งของแบรนด์ที่ทำไป 10,389 คันในปีที่ผ่านมา แถมยังแว่วมาว่า รถรุ่นนี้มียอดจองจำนวนมาก ที่ทำให้ลูกค้าต้องรอรถกันเป็นหลักหลายเดือน ใครที่ยังลังเลเรื่องเครื่องยนต์ ก็อาจจะต้องรีบตัดสินใจ
ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ 100% แต่การคาดการณ์ของหลาย ๆ คนก็ยังเชื่อว่าเครื่องยนต์เทอร์โบที่เปิดตัวในประเทศจีน น่าจะเป็นอีกออพชั่นหนึ่งที่น่าสนใจ ที่สามารถขยายฐานลูกค้าให้กับรถยนต์รุ่นนี้ได้อีก และจะทำให้รถมีความน่าใช้งาน และทำราคาจำหน่ายได้มากขึ้นไปอีก แต่หากรุ่นเครื่อยนต์ธรรมดาที่หลายคนบ่นว่าอืดอาดยังขายดีขนาดนี้ โอกาสที่เอ็มจีจะไม่รีบร้อนขยับตัวก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าต้องการซื้อรถรุ่นอื่น ๆ ที่ทำตลาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น MG3 (เอ็มจี3) MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) MG HS (เอ็มจี เอชเอช) รวมไปถึง MG EP (เอ็มจี อีพี) ราคาจำหน่ายในประเทศไทยนั้นยังคงเดิม ส่วนเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมอย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) นั้น ก็คาดว่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระยะวิ่งเพิ่มขึ้น และออพชั่นล้นคัน กันในช่วงงานมอเตอร์โชว์ปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
MG ได้ประกาศปรับราคาจำหน่ายรถยนต์และเอสยูวีของพวกเขาในหลายตลาดทั่วโลก เช่น ในประเทศออสเตรเลียมีการประกาศปรับราคาจำหน่ายตั้งแต่ 500-2,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1.2-4.8 หมื่นบาท) ในหลายรุ่น เป็นผลมาจากการขึ้นราคาวัตถุดิบและต้นทุนการขนส่งที่ต่อเนื่องมาในปี 2564 ซึ่งเป็นการประกาศปรับขึ้่นราคาจำหน่ายครั้งที่ 2 ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางการปรับราคาของผู้จำหน่ายหลายยี่ห้อ
ซึ่งคาดว่าปัญหาเหล่านี้ก็อาจจะเกิดกับประเทศไทยได้เช่นกันในอนาคต!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}