ORA Good Cat (ออร่า กู๊ดแคท) หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นบุกเบิกที่ทำยอดขายเป็นกอบเป็นกำขึ้นชั้นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว จนต้องประกาศหยุดรับจองอย่างเป็นทางการ หลังได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐทำให้ราคาจำหน่ายลดลงไปจากเดิมอีก
ด้วยผลกระทบจากการขาดแคลนชิปเซตในการผลิต ทำให้ ORA (ออร่า) ต้องเร่งเคลียร์ยอดจองที่ยังเป็นแบ็คออเดอร์กว่า 3,000 คันในประเทศไทย แต่ระหว่างนั้น พวกเขาได้ส่งเวอร์ชั่นอัพเกรดตัวแรงอย่าง ORA Good Cat GT (ออร่า กู๊ดแคท จีที) มารับจองกันลอตแรก 150 คัน
ราคาจำหน่ายจะประกาศกันในช่วงเย็นนี้ ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับก่อนลดราคาประมาณ 1.3 ล้านบาทและลดลงมาเหลือ 1 ล้านบาทต้น ๆ โดยจะเปิดให้จองกันเแบบหมดแล้วหมดเลยสำหรับปีนี้ ใครที่เล็ง ๆ อยู่มาดูกันว่ามีอะไรที่ดีกว่ารุ่นมาตรฐานบ้าง และอะไรที่ยังเหมือนรุ่นเดิม
จะคุ้มค่าเหมาะกับการควักกระเป๋าเพิ่มไหม รอราคาช่วงเย็นนี้นะ...
หากใครชื่นชมสีรถยนต์แบบลูกกวาดหวานแหวว พร้อมภายในแบบขรึม ๆ ในรุ่นมาตรฐาน ขอบอกว่าในรุ่นจีทีนั้นมีแค่สีเทา Aqua Grey ให้เลือก พร้อมห้องโดยสารสีแดงสลับดำเท่านั้น ภายนอกเพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งลายคาร์บอนไฟเบอร์ตัดด้วยสีแดงที่ตำแหน่งต่าง ๆ ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่แบบทูโทน พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ขนาดตัวรถพร้อมชุดแต่งกว้างขึ้น 23 มิลลิเมตรและยาวขึ้น 19 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังพร้อมโลโก้ GT ที่ดูจะสวยงามสะดุดตาที่สุดแล้วในรถคันนี้ ซึ่งมองแล้วให้ความสปอร์ตมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน
จริง ๆ ถ้าทีมงานเลือกใช้สีแดงที่ตกแตงที่ภายนอกมาเป็นสีหลักในห้องโดยสารก็จบเลย แต่กลับเลือกใช้โทนสีแดงแบบตุ่น ๆ ที่ทำให้รถดูไม่สปอร์ตเท่าใดที่ภายใน จุดขายอยู่ที่เบาะที่นั่งแบบหนังพีวีซี ที่มาพร้อมระบบระบายอากาศ และเบาะนวดที่คู่หน้า ที่ยังต้องเปิด-ปิดผ่านหน้าจอกลางเท่านั้น เพิ่มเบาะปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางที่ตำแหน่งผู้โดยสารมาเรียบร้อย ขณะเดียวกัน ก็เอาใจคุณผู้หญิงด้วยการติดตั้งกระจกส่องหน้าพร้อมไฟแอลอีดีสีขาวขนาดใหญ่ที่ม่านบังแดดทั้ง 2 ฝั่ง โดยมาพร้อมสายเข็มขัดนิรภัยสีแดงตุ่น ๆ แบบคอนโซลหน้า ที่จริง ๆ ปรับให้สปอร์ตกว่านั้นก็ได้นะ
ถ้าใครเคยคิดว่าเครื่องยนต์ไฟฟ้าของรุ่นเดิมยังไม่จุใจเท่าไหร่นัก ออร่าได้ทำการปรับปรุงมอเตอร์ของรถใหม่ ทำให้ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นมา 28 แรงม้ากลายเป็น 171 แรงม้า (รุ่นเดิม 143 แรงม้า) พร้อมแรงบิดสูงสุดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน 40 นิวตันเมตรเป็น 250 นิวตันเมตร (รุ่นเดิม 210 แรงม้า) โดยที่ความเร็วสูงสุดยังอยู่ที่ 152 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร โดยวพวกเขาคุยว่าในรุ่นจีที มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรที่เร็วขึ้นกว่าเดิมจาก ที่ทำได้ในรุ่นเดิมที่ 9.2 วินาที ในรุ่นนี้จะเร็วกว่าถึง 0.7 วินาที หรือทำได้ที่ 8.2 วินาทีนั่นเอง
ถ้าไม่นับในห้องโดยสารที่มีการเปลี่ยนในส่วนของเบาะต่าง ๆ ไปมากมาย ตัวรถมีการเพิ่มอุปกรณ์หลายส่วนให้น่าใช้งานมากกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น ประตูบานหลังแบบไฟฟ้า ที่มาพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ใช้งานได้เพียงแค่สอดเท้าเข้าไปที่ใต้กันชน ซึ่งมีความไวอย่างมาก มีการติดตั้งระบบจำเบาะที่นั่งมาเรียบร้อย เมื่อรวมกับฟังชั่นส์ที่ให้มาตั้งแต่แรก เขช่น หน้าจอยาวรวม 17.25 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด ถุงลมนิรภัย 6 ใบ พร้อมฟังชั่นส์ด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่มากมายเต็มคัน ก็ยังทำให้รถไฟฟ้าคันนี้มีความเพียบพร้อมมากที่สุดเช่นเดิม
แม้จะเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจ แถมใส่ของเล่นเข้ามาเพิ่มให้อีกแล้วก็ตาม แต่หลาย ๆ อย่างที่เป็นปัญหามาตั้งแต่ตอนที่เป็นรุ่นมาตรฐานก็ไม่ได้รับการปรับในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นยางรถยนต์ที่ให้การตอบสนองแบบตึงตังและเสียงดัง การเก็บเสียงของกระจกบานหน้า พวงมาลัยปรับได้แค่ 2 ทิศทาง สายเข็มขัดนิรภัยแบบปรับไม่ได้ และหน้าจอเล็กที่ล็อกตัวเองหากมีการเปิดใช้งานฟังชั่นส์ต่าง ๆ ซึ่งต้องมาติดตามว่า ในอนาคต ออร่าจะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้ให้ใช้งานได้ดีขึ้นหรือไม่ หรืออาจจะต้องรอการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเลยทีเดียว
การเปลี่ยนมอเตอร์ใหม่เพื่อเรียกแรงม้าและแรงบิดของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการขับรถคันนี้อย่างมาก การออกตัวของรถนั้นดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และความไหลลื่นของการส่งกำลังก็มีให้มากกว่า โดยเฉพาะในโหมดสปอร์ตที่เรียกว่าใส่กันมาอย่างเต็มที่ โดยส่วนตัว รู้สึกเหมือนกับแบตเตอรี่เองก็ไม่ได้ลดลงอย่างดุเดือดเหมือนตอนขับเวอร์ชั่น 500 ซึ่งยังไม่กล้ายืนยัน เพราะมีเวลาอยู่กับรถจำกัดมาก หากลูกค้าซื้อไปแล้ว จัดการเรื่องยางเสียหน่อย ก็จะทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ส่วนเรื่องเสียงหน้ารถนั้น ยิ่งขับเร็วยิ่งเสียงดังนะ
ในตอนนี้ ออร่าได้ทำการปรับลดราคาของรุ่น 500 ULTRA ลงไปอยู่ที่ 9.59 แสนบาท โดยเป็นการลดราคาทั้งแพคเกจไปกว่า 2.4 แสนบาทจากราคาเดิมที่วางไว้ 1.199 ล้านบาท ลองคิดกันเล่น ๆ ว่าหากกู๊ดแคท จีที มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1.299 ล้านบาท และได้รับส่วนลดแบบเดียวกัน ราคาจำหน่ายจริงก็น่าจะอยู่ที่แถว ๆ 1.059 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาจำหน่ายที่น่าสนใจ หากลูกค้าต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะโดดเด่น แต่ออพชั่นด้านสีอาจจะขัดใจ เพราะไม่มีให้เลือก แต่ที่สำคัญ เตรียมกดจองออนไลน์กันให้ดี เพราะปีนี้มีแค่ 150 คันเท่านั้น
ราคาจะแม่นไหม อีกไม่ถึง 12 ชั่วโมงรู้กัน...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}