MG6 XPower 2020 ต้นแบบตัวแข่ง 350 แรงม้า ใส่พาร์ทเต็มยศ พร้อมซิ่งเต็มที่

MG6 ในประเทศจีนในปัจจุบัน ออกขายเป็นเจเนอเรชั่น 2 ตั้งแต่ปี 2017 (ซึ่งบ้านเราไม่ได้ใช้โฉมนี้) และในต้นปี 2020 ที่ผ่านมาก็ได้ไมเนอร์เชนจ์รอบแรก ซึ่งรถเอ็มจี 6 เจเนอเรชั่นนี้เคยถูกพัฒนาทำเป็นรถแข่งทัวร์ริ่งคาร์มาก่อนแล้ว ดังนั้นรุ่นปรับโฉมใหม่ก็จะได้รับการปรับปรุงตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้ยังเป็นต้นแบบเท่านั้น

MG6 XPower คือรถต้นแบบที่จูนกำลังแรงแบบรถแข่ง จงใจใช้ชื่อ XPower เพื่อให้เป็นที่ระลึกถึงโครงการรถสปอร์ต XPower SV สมัยแบรนด์นี้ยังอยู่ในอังกฤษ สื่อถึงความต้องการสร้างชื่อเสียงด้านมอเตอร์สปอร์ตกลับมาอีกครั้ง ที่คราวนี้กลับมาจัดเต็มกว่ารถสปอร์ตของเดิมมาก

ด้านหน้าเต็มไปด้วยพาร์ท

ตัวถังโดยรวมและระบบพื้นฐาน ยังใช้แบบเดียวกับ MG6 โฉมไมเนอร์เชนจ์ในปัจจุบัน เพียงแต่เพิ่มเติมและเปลี่ยนชิ้นส่วนดักลมใหม่ มีกระจังหน้าลายตระแกรงแทนที่ลายซี่ตั้งเดิม ขอบฝากระโปรงมีร่องดักลมเข้าไอดีมากขึ้น กันชนหน้ามีสันนูนตัดกระแสลม พร้อมด้วยสเกิร์ตล่างบานออกขนาดใหญ่ 

ด้านหลังเด่นที่สปอยเลอร์

เส้นสายด้านข้างของ MG6 XPower ใหม่มีความเฟี้ยวด้วยสเกิร์ตข้างแบบแยกส่วนกับตัวถัง พร้อมล้อแม็กซ์ขนาด 20 นิ้ว ที่มีคิ้วขอบล้อทรงหนามาใส่เพิ่ม ให้รับกับความกว้างของล้อมากขึ้น ส่วนด้านท้ายเปลี่ยนลายไฟท้ายใหม่ ให้เป็นสีดำเข้ม พร้อมมีรูปตัว X ฝังอยู่ในโคมไฟ ที่ฝากระโปรงใส่สปอยเลอร์ขนาดใหญ่สไตล์ GT wing ติดตายตัวตามสูตรรถแข่ง ที่กันชนล่างเปลี่ยนทรงดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ เว้นให้ปลายท่อไอเสียออกมาฝั่งละ 1 ท่อ

ภายในแอร์เย็นเพลงเพราะ

MG6 XPower 2020 เห็นภายนอกเป็นรถแข่งแบบนี้ แต่ภายในยังคงความทันสมัยและไฮเทคครบครัน ด้วยหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 10.1 นิ้วแบบทัชสกรีน ส่วนมาตรวัดก็ล้ำยุคด้วยการใช้จอ LED ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนวัสดุก็หรูหราสุดๆด้วยการใช้หนังแท้สลับกับอัลคันทาราทั่วคัน เย็บด้วยด้ายสีเขียว อันเป็นธีมสีประจำตัวแข่ง

เครื่องยนต์โหดสุด

รถเอ็มจี 6 ที่มีขายทั่วไปในประเทศจีน ใช้บล็อคเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตรติดเทอร์โบ ให้กำลัง 181 แรงม้า กับได้แรงบิด 285 นิวตันเมตร ส่วนในตัวแข่ง TCR ก็จับเครื่องบล็อคนี้มาจูนใหม่ รีดกำลังออกมาได้ถึง 350 แรงม้า กับแรงบิดได้ถึง 460 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ซีเควนเชียล 6 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายในเวลา 4.6 วินาทีเท่านั้น

รถต้นแบบคันนี้ เป็นแค่การนำเทคโนโลยีรถแข่งมาลงในรถบ้านเพื่อโชว์เท่านั้น ยังไม่มีการวางแผนทำออกขายจริง ซึ่งคาดว่าอาจจะมีชุดแต่งเล็กๆน้อยๆออกมาใส่ในรถบ้านกัน ส่วนประเทศไทยหมดสิทธิ์ใช้ เพราะทาง CP-SAIC ยังไม่มีแผนประกอบรถซีดานรุ่นใหม่ใดๆ