แบรนด์ในเครือ BMW Group (บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป) มีเป้าหมายที่จะลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ลงอย่างมาก และกระบวนการผลิตต่าง ๆ ในบริษัทนั้นจะเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 การเคลื่อนไหวล่าสุดคือการเปิดตัวการตกแต่งภายในที่ใช้วัสดุวีแกนในปีหน้า
วัสดุแบบวีแกนจะกลายเป็นทางเลือกใหม่ของแบรนด์ BMW และ MINI ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป โดยจะเน้นในตลาดสหรัฐฯ ยุโรป และจีน
หนึ่งในบริเวณที่จะเปลี่ยนเป็นวัสดุยั่งยืนนี้เลยคือมาแทนบริเวณหนังที่หุ้มพวงมาลัย บริษัทกล่าวว่าวัสดุดังกล่าวจะเติมเต็มในข้อกำหนดด้านรูปลักษณ์ ความทนต่อการสึกหรอ และความทนทานและจะสามารถลดการปล่อย CO2 ตลอดสายการผลิตได้ราว 80%
“ด้วยพวงมาลัยที่หุ้มด้วยวัสดุวีแกนคุณภาพสูง เราจะเติมเต็มปรารถนาลูกค้าของเราผู้ที่ไม่ประนีประนอมในแง่ของรูปลักษณ์ ความรู้สึก และการใช้งาน” Uwe Kohler หัวหน้าแผนกพัฒนาการตกแต่งภายนอกและภายในกล่าว
“วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ทนทานต่อการสึกหรอที่เกิดจากการเสียดสี เหงื่อ และความชื้น และมีคุณสมบัติของหนังตามที่ต้องการ” เขากล่าวเสริม
อ่านเพิ่มเติม : MINI จะเลิกใช้หนังสัตว์ แล้วเพิ่มวัสดุรีไซเคิล
นอกจากนี้ BMW Group จะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 23,000 ตัน และของเสียเพิ่มเติม 1,600 ตันต่อปี เนื่องจากนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต ทำให้กลายเป็นพรมปูพื้นที่ทำจากวัสดุ mono-material
BMW Group จะยังลงทุนในการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบทุติยภูมิและให้หัวข้อนี้เป็นความสำคัญลำดับแรก พวกเขาได้ทำงานร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งเพื่อสร้างวัสดุแบบชีวภาพที่เป็นนวัตกรรมใหม่
หนึ่งในวัสดุเหล่านั้นเรียกว่า Mirium (มิเรียม) ซึ่งกล่าวว่าเป็นวัสดุชีวภาพ 100% และไม่มีส่วนประกอบของปิโตรเลียม วัสดุดังกล่าวสามารถเลียนแบบคุณสมบัติทุกอย่างของหนังแท้ได้ รถจากบริษัทในอนาคตถูกกล่าวว่าจะได้ “ทางเลือกในการทดแทนหนังแท้ที่น่าสนใจ”
อ่านเพิ่มเติม : BMW มุ่งผลิตล้ออะลูมิเนียมรีไซเคิลด้วยพลังงานสีเขียว มุ่งเป้าใช้พลังงานสีเขียวในกระบวนการผลิต 100%
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}