วิเคราะห์ตลาด EV จีนจะตกต่ำในต้นปี 2023 คนงาน BYD ติดโควิด ผลิตลดลง 3,000 คัน/วัน

จีนคลายการควบคุมโควิดลงอย่างมากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากตามมาทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้น แล้วตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร CICC ธนาคารเพื่อการลงทุนของจีน ได้ออกมาวิเคราะห์ให้อ่านกัน

โควิดทำตลาดจีนซบเซา

"เมื่อเร็วๆ นี้ตลาดกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับนโยบายโควิดของจีนต่ออุปสงค์และอุปทานของ EV เราเชื่อว่าผลกระทบโดยรวมมีจำกัด" ทีมนักวิเคราะห์ของ ธนาคารเพื่อการลงทุนของจีน (CICC) เขียนในบันทึกการวิจัยเอาไว้

การติดเชื้อโควิดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ EV เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าโชว์รูม นอกจากนี้ พนักงานขายบางส่วนได้รับเชื้อ ทำให้ต้องหยุดงานด้วย ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างความหยุดชะงักในการรับจองรถใหม่ 

ค่ายใหญ่ยังมีออเดอร์เพียบ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าบริษัทรถยนต์กระแสหลัก เช่น BYD, Tesla, NIO และ Li Auto ยังมีสต็อคจากใบจองที่ค้างอยู่ในระดับหนึ่ง ข้อมูลจากค่ายรถยนต์พบว่า BYD (บีวายดี) มีคำสั่งซื้อรอส่งมอบนาน 3 เดือน ในขณะที่ NIO, Li Auto และ Tesla ต่างมีใบจองในสต็อกมากกว่า 1 เดือน บริษัทรถยนต์กระแสหลักยังคงมีออเดอร์อยู่ในมือ เพื่อรองรับการขายในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ หรือแม้แต่ รองรับไตรมาสแรกของปีนี้

ไม่หยุดผลิตในวงกว้าง

ในแง่ของการผลิต EV ทีมวิเคราะห์เชื่อว่านอกเหนือจากผู้ติดเชื้อโควิด ที่ถูกบังคับให้หยุดงานแล้ว ในส่วนคนอื่น ๆ ยังคงทำงานตามปกติ ทำให้บริษัทรถยนต์จึงไม่น่าจะประสบปัญหาการหยุดงานและการปิดการผลิตในวงกว้าง ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม NEV กำลังดำเนินการอยู่ตามปกติ 

ปัจจุบันมีกฎหลวม ๆ สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดในบริษัทรถยนต์ โดยบางแห่งไม่ต้องการให้ผู้ติดเชื้อมีผลตรวจเป็นลบมาทำงานเลย หรือบางตำแห่งให้กักตัวและทำงานที่บ้านเป็นเวลาตามจำนวนวันที่กำหนด โดยเร่งจำนวนวันหยุดให้สั้นที่สุด เพื่อทำให้กำลังการผลิตมีความต่อเนื่อง

ฟื้นตัวปลายไตรมาสแรก

เมื่อพิจารณาถึงอัตราการฟื้นตัวในพื้นฐานของห่วงโซ่อุตสาหกรรม NEV เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2023 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี เพราะนอกจากการระบาดแล้ว ยังมีวันหยุดตรุษจีนจะส่งผลกระทบ และเดือนกุมภาพันธ์เองก็มีวันทำงานน้อยลง หลังจากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2023 ผลกระทบของการติดเชื้อโควิดคาดว่าจะลดลงอย่างมาก และคาดว่ายอดสั่งซื้อของบริษัทรถยนต์จะค่อย ๆ กลับสู่ระดับปกติ

"ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 เราคาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในด้านอุปสงค์ เช่นเดียวกับในการจัดตารางการผลิตสำหรับห่วงโซ่อุตสาหกรรม" ทีมวิเคราะห์ของธนาคารเพื่อการลงทุนของจีนได้กล่าวปิดท้าย

BYD มีคนงานติดโควิด

ในงาน APEC SME Business Forum 2022 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม รองประธานบริหารของ BYD Lian Yubo กล่าวว่า "บริษัทผลิตรถยนต์น้อยลง 2,000-3,000 คัน/วันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากคนงานจำนวนมากติดเชื้อโควิด ส่งผลกระทบต่อการผลิตของ BYD อย่างรุนแรงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยผู้คน 20-30% หยุดงานเพื่อกักตัวอยู่บ้าน" Lian กล่าว

เขากล่าวเสริมว่า BYD สามารถขายรถยนต์ได้ 1.9 ล้านคันในปี 2022 แต่การสูญเสียกำลังการผลิตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อยอดขายเดือนธันวาคมที่ลดลงไปอยู่ระหว่าง 20,000-30,000 คัน นับว่ากำลังการผลิตลดลงเพียง 10% ของจำนวนยอดส่งมอบเท่านั้นเอง

อ่านเพิ่มเติม : เรเว่ ตอบคำถาม BYD Atto 3 ตลาดแตก มีอะไรต้องปรับหรือไม่ ลูกค้าจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้

NIO เล็งลูกค้าเร่งการซื้อ

วิลเลียม ลี ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของรถยี่ห้อ NIO กล่าวในการให้สัมภาษณ์กลุ่มสื่อเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมว่า ตลาด EV ของจีนจะอยู่ภายใต้แรงกดดันมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน แต่ในด้านอุปสงค์ หรือความต้องการลูกค้า จะมากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากนโยบานเงินอุดหนุนของรัฐบาลจีนกำลังจะหมดอายุ ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเร่งความต้องการซื้อรถกอนหมดโปรโมชั่น ในขณะที่ผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การฟื้นตัวจะต้องใช้เวลา นายหลี่กล่าว

นายหลี่เชื่อว่าตลาด EV ของจีนจะเผชิญกับช่วงเวลาแห่งแรงกดดันในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 และคาดหวังในแง่ดีว่า ตลาดจะค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 หรือในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

อ่านเพิ่มเติม : อเมริกาเตรียมแบนแบตเตอรี่จากจีน ทางด้าน BYD บอกว่าไม่กลัว เพราะยังเป็นผู้นำอยู่ดี