2024 BYD Seal (2024 บีวายดี ซีล) เปิดตัวในประเทศไทยด้วยตัวเลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ที่ประกอบด้วยออพชั่น ระยะทางขับขี่ และระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน เรามาลองเทียบแต่ละด้านเลยว่าแต่ละรุ่นจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
BYD Seal สเปคไทย ประกอบด้วย 3 รุ่นย่อย ดังนี้
2024 Seal สเปคไทยมาพร้อมขุมพลังให้เลือกถึง 3 รูปแบบด้วยกัน เริ่มจากรุ่น Dynamic นั้นมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 kW) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 61.44 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 510 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที
ส่วนรุ่น Premium มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 312 แรงม้า (230 kW) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าที่ 82.56 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 650 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที
และสุดท้ายรุ่นท็อป AWD Performance จะมาพร้อมสมรรถนะสูงสุด โดยมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังที่ให้กำลังรวมสูงสุด 530 แรงม้า (390 kW) แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ (iTAC) จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 82.56 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 580 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาทีเท่านั้น
BYD Seal สเปคไทยทุกรุ่นอยู่ภายใต้แพลทฟอร์ม e-Platform 3.0 ที่ออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าบีวายดีโดดยเฉพาะ มีช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้าหลังมัลติลิงค์ (Five-Link)
ในรุ่นท็อปจะมีโช๊คอัพปรับตามความเร็วอัตโนมัติหรือ Frequency Selective Damping (FSD) ปรับความนุ่มนวลและความแข็งของโช้คอัพได้อัตโนมัติ
สำหรับระบบการชาร์จ ในรุ่น Dynamic สามารถรองรับการชาร์จแบบ DC ผ่านหัวชาร์จ Type 2 ได้สูงสุด 110 kW ส่วนอีก 2 รุ่นสามารถรองรับการชาร์จได้สูงสุด 150 kW สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้ง 3 รุ่นย่อยนี้สามารถรองรับระบบ V2L ได้ทุกรุ่น
สำหรับภายนอกของ BYD Seal สเปคไทยทั้ง 3 รุ่นไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยยังเป็นหนึ่งใน BYD OCEAN SERIES ที่ดีไซน์จากความสวยงามของศิลปะแห่งท้องทะเล ด้วยเส้นสายด้านหน้ารถแบบ X-SHAPED DESIGN
ไฟหน้าของรถคันนี้เป็น LED แบบ Double-U Floating ที่ออกแบบให้บาง และลดแรงต้านอากาศ ทำให้ไฟหน้าเพรียวบางขึ้น ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential
รถคันนี้มีความยาว 4,800 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,460 มม. มีระยะฐานล้อ 2,920 มม. แต่มีน้ำหนักรถที่แตกต่างกัน เนื่องจากแต่ละรุ่นมีระบบขับเคลื่อนและขนาดแบตเตอรี่ที่ไม่เหมือนกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ต่างกันคือล้อและยาง ในรุ่น Dynamic จะเริ่มที่ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/50 R18 ส่วนรุ่น Premium และ AWD Performance จะมาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้วเท่ากัน รัดด้วยยางขนาด 235/45 R19
สำหรับออพชั่นภายนอกมีมาให้อย่างครบครันทุกรุ่นย่อย ออพชั่นที่โดดเด่นได้แก่ หลังคากระจกแบบพานอรามิค ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า กระจกหน้าแบบเก็บเสียงสองชั้น
ส่วนรุ่น Premium และ AWD Performance จะเพิ่มกระจกมองข้างปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และระบบบันทึกตําแหน่งกระจกมองข้างมาให้ด้วย
เราคิดว่า BYD จัดการออพชั่นภายในได้ดี เพราะตั้งแต่รุ่น Dynamic ก็มาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครัน ได้แก่
ส่วนในรุ่นที่สูงกว่าก็มีออพชั่นที่ให้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ได้แก่ ระบบพนักดันหลังเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ระบบจดจำตำแหน่งเบาะคนขับ, เบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทและดับรถยนต์ รวมถึงการหุ้มเบาะและพวงมาลัยด้วยหนังแท้
นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงยังมีมาให้เท่ากันทุกรุ่นย่อย ได้แก่ เครื่องเสียง DYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง, ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย, ระบบนำทางด้วยดาวเทียม และช่อง USB 2 ตำแหน่งด้านหน้า และอีก 2 ตำแหน่งด้านหลังที่มีทั้ง USB-A และ USB-C
BYD Seal สเปคไทยนั้นมีระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟมาให้แบบจัดเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ซึ่งมาพร้อมเรด้าห์แบบ Millimeter-Wave 5 ตำแหน่ง กล้องด้านหน้าสำหรับระบบ ADAS 1 ตำแหน่ง ออกมาเป็นระบบ ดังนี้
ใน 2 รุ่นบนจะมี ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) และรุ่น AWD Performance จะมีระบบล็อกประตูป้องกันเด็กไฟฟ้ามาให้
นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็มีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง, ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ด้านหน้า-หลัง, ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS), ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
เราจะเห็นได้ว่า 2024 BYD Seal สเปคไทยทั้ง 3 รุ่นย่อยนั้นมีจุดที่น่าสนใจแตกต่างกัน หากชื่นชอบในสเปคที่ครบครันและไม่ได้ขับไกลมากก็อาจเลือกเป็นรุ่น Dynamic หากต้องการแรงขึ้นมาหน่อยและสามารถขับได้ไกลอาจเลือกเป็นรุ่น Premium และสุดท้ายหากเป็นสายซิ่งที่เน้นการขับขี่เป็นหลักก็คงหนีไม่พ้น AWD Performance อย่างแน่นอน
BYD Seal มีสีภายนอกให้เลือกแยกตามรุ่น ดังนี้
หากใครสนใจ 2024 BYD Seal รุ่นไหน สามารถติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย BYD ทั่วประเทศ
อ่านเพิ่มเติม: 2023 BYD Seal คว้า 5 ดาวทดสอบการชน แต่ยังมีจุดอ่อน
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}