การปรับเกณฑ์ครั้งใหม่ของสถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงสหรัฐฯ (IIHS) ในปี 2023 นี้ โดยมีเป้าหมายให้รถมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
จึงทำให้พบว่า หากรถทั้ง 101 คันที่ได้คะแนนความปลอดภัยสูง (Top Safety Pick+ และ Top Safety Pick) ในปีที่แล้ว ใช้เกณฑ์ของปีนี้ จะเหลือเพียงไม่ถึงครึ่งเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์
EV ได้คะแนน Top Safety Pick+ เพียง 4 รุ่น
เหตุผลที่ต้องปรับเกณฑ์ให้เข้มขึ้น
เป้าหมายคือการบังคับผู้ผลิตรถให้ทำตาม
หายไปครึ่งหนึ่ง
สถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวงสหรัฐฯ (IIHS) เปิดเผยรายชื่อชุดแรกของรถที่ได้คะแนนสูงสุดจากการทดสอบความปลอดภัยหลังจากได้ปรับเปลี่ยนเกณฑ์ของความปลอดภัยครั้งใหม่
ผลออกมาคือ มีรถจาก Toyota ได้รางวัล Top Safety Pick+ ซึ่งเป็นคะแนนความปลอดภัยสูงสุดถึง 9 รุ่น และรางวัล Top Safety Pick ที่รองลงมาอีก 6 รุ่น
อันดับถัดมาเป็น Honda และ Acura ที่ได้รางวัล Top Safety Pick+ ไป 6 รุ่น และ Top Safety Pick 2 รุ่นด้วยกัน ส่วน Mazda ตามมาเป็นที่ 3 ด้วยการได้รางวัล Top Safety Pick เพียง 6 รุ่นเท่านั้น
กฎเกณฑ์ความปลอดภัยล่าสุดที่เพิ่มขึ้นส่งผลอย่างมากต่อรถหลายรุ่น เพราะเกณฑ์ล่าสุดของปีที่แล้ว มีรถที่ได้คะแนนความปลอดภัยสูงทั้งหมดถึง 101 รุ่นด้วยกัน โดยมีรถที่ได้รางวัล Top Safety Pick+ ถึง 65 คัน
แต่หลังจากทดสอบด้วยเกณฑ์ล่าสุดของปีนี้แล้ว พบว่า เหลือเพียง 48 รุ่นเท่านั้นที่ได้คะแนนความปลอดภัยสูง และมีเพียง 28 รุ่นเท่านั้นที่ได้รางวัล Top Safety Pick+
รูปโดย autoevolution
มี EV ได้คะแนน Top Safety Pick+ เพียง 4 รุ่น
สำหรับรถรุ่นที่ได้คะแนนรวมสูงสุดในรางวัล Top Safety Pick+ ได้แก่ Rivian R1T, Genesis G90 และ Lexus RX ส่วนกระบะฟูลไซส์อย่าง Toyota Tundra ก็ได้รางวัลนี้เช่นกัน ซึ่งสูงที่สุดเหนือคู่แข่งในคลาสเดียวกัน
แต่หากแยกออกมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวพบว่า มีเพียง 4 ใน 28 รุ่นเท่านั้นที่ได้รางวัล Top Safety Pick+ ได้แก่ Rivian R1T, Tesla Model Y , และ Volkswagen ID.4
เหตุผลที่ต้องปรับเกณฑ์ให้เข้มขึ้น
สาเหตุที่ IIHS ต้องนำการทดสอบที่หลากหลายมากขึ้นเนื่องจากเพื่อให้ทันกับกระแสของอุตสาหกรรมยานยนต์ในทุกวันนี้ เริ่มจากการเพิ่มมาตรฐานการชนด้านข้างให้มากขึ้น 82% ซึ่งน่าจะเนื่องจากว่าน้ำหนักเฉลี่ยโดยรวมของรถนั้นสูงขึ้น
อย่างที่เราทราบกันดีว่า รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ ส่งผลให้น้ำหนักรถโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในการทดสอบครั้งก่อน เราจะเห็นว่าต้องมีการพิจารณาเครื่องมือทดสอบกันใหม่ ก่อนจะทดสอบการชนอีวีขนาดยักษ์อย่าง Hummer EV
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงหรือ ADAS ซึ่งรถในปัจจุบันควรที่จะสามารถป้องกันการชนคนเดินเท้าในตอนกลางคืนได้แล้ว
IIHS ยังปรับเกณฑ์เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับไฟหน้า ก่อนหน้านี้ รถที่ได้ Top Safety Pick “+” จะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งรุ่นย่อยที่มีไฟที่ได้คะแนน “ยอมรับได้” หรือ “ดี” เป็นมาตรฐานก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้อาจจะต้องเป็นมาตรฐานกับทุกรุ่นย่อยแล้วจึงจะได้คะแนนสูง
นอกจากนี้ รถที่จะได้คะแนนสูงจะต้องได้คะแนน “ดี” ในส่วนของการทดสอบการชนด้านหน้าแบบเยื้องประมาณ 1 ใน 4 ของพื้นที่ด้านหน้า ทั้งฝั่งคนขับและฝั่งคนนั่ง (small overlap front test) รวมถึงทดสอบการชนกับพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ด้านหน้าของทั้งสองฝั่ง (moderate overlap front test)
ยังพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
David Harkey ประธานของ IIHS กล่าวว่า “จำนวนผู้ชนะ (ได้คะแนนสูง) ในปีนี้น้อยลง เนื่องจากเรากำลังท้าทายผู้ผลิตรถยนต์ให้ต่อยอดจากความปลอดภัยที่พวกเขาเคยได้รับมาแล้ว”
“รถเหล่านี้มีความโดดเด่นอย่างแท้จริงทั้งในด้านการคุ้มกันการชนและการป้องกันการชน”
IIHS ระบุว่า สิ่งที่มีในปัจจุบันนั้นยังไม่เสร็จสิ้น เพราะจะมีเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าเดิมในปี 2024 เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์พัฒนาให้มากขึ้น “จำนวนผู้เสียชีวิตจากการจราจรในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปีในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ส่วนหนึ่งมาจากการชนคนเดินเท้าที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” Harkey กล่าว
“รถที่ปลอดภัยกว่าสามารถเป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหาได้ก่อน แม้ว่าการสวนกระแส (เพิกเฉยต่อการเพิ่มความปลอดภัยให้รถ) จะเป็นการบังคับให้ผู้กำหนดนโยบายและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ มาบังคับได้เช่นกัน”
เป้าหมายคือการบังคับผู้ผลิตรถให้ทำตาม
การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ครั้งนี้เป็นความต้องการที่ IIHS บังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับปรุงรถของตัวเองให้ดีขึ้นสำหรับรางวัลสูงสุด ซึ่งรางวัลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาของลูกค้าก่อนจะซื้อรถสักคัน
สำหรับการเพิ่มการทดสอบรถตอนกลางคืนนั้นสำคัญเช่นกัน เพราะการศึกษาของ IIHS พบว่าระบบ ADAS โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถใช้ในความมืดได้
อ่านเพิ่มเติม : ผู้เชี่ยวชาญกังวล น้ำหนักของรถยนต์ไฟฟ้าทำให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่ารถน้ำมัน