ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกังวลว่าน้ำหนักและกำลังที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

การผลักดันให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นอาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคโดยไม่รู้ตัว หนึ่งในข้อสังเกตหลักคือ น้ำหนัก น้ำหนักรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ประมาณ 2 ตันอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ อย่างน้อยจากรายงานของ Bloomberg นั่นคือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกังวล

รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มีน้ำหนักประมาณ 2 ตัน

รถยนต์ไฟฟ้า “ส่วนใหญ่” มีน้ำหนักที่ใกล้เคียง 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2,250 กิโลกรัมทั้งนั้น เช่น Nissan Ariya, Hyundai Ioniq 5, Ford Mustang Mach-E มีน้ำหนักน้อยกว่านั้น แต่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นพอ ๆ กับรถกระบะฟูลไซส์เมื่อเป็นอีวีระดับพรีเมียม เช่น Audi e-tron ที่มีน้ำหนักมากถึง 2.6 ตัน, Lucid Air ระบุน้ำหนักไว้ที่มากกว่า 2.25 ตัน (ไม่ระบุที่แท้จริงไว้ในสเปคชีทใด ๆ)

ขณะที่รถที่มีน้ำหนักมากมักจะให้การป้องกันที่ดีขึ้นขณะเกิดการชน แต่การเสียชีวิตจากการจราจรก็เพิ่มขึ้นตามน้ำหนักของรถ ซึ่งอาจทำให้เกิดประเด็นขึ้นหลังการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งกระบะและเอสยูวี

น้ำหนักรถมีผลต่อความรุนแรงของอุบัติเหตุ

Michael Anderson ผู้ที่เขียนผลการศึกษาในปี 2011 ที่ผูกเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ถึงแก่ชีวิตกับน้ำหนักรถไว้ด้วยกัน โดยตอนนั้นยังไม่ได้นึกถึงอีวีเพราะเรื่องผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว

ผลการศึกษาของเขาในปี 2011 พบว่า Anderson ได้กังวลถึงความนิยมในเอสยูวีและกระบะขนาดใหญ่ในสมัยนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อการเสียชีวิตบนท้องถนน โดยเขายังไม่กังวลถึงรถยนต์ไฟฟ้า เพราะรถที่มีแบตเตอรี่จะมาก่อนในรถเล็กอย่างซีดานและแฮทช์แบ็คก่อน เช่น Nissan Leaf หรือ Tesla Model S

กระบะไฟฟ้าฟูลไซส์อย่าง Hummer EV ที่มีน้ำหนักถึง 4.1 ตันได้เปลี่ยนมุมมองของเขา และเขาคิดว่าอาจเป็นอันตรายต่อคนที่ยังขับรถน้ำมันขนาดเล็ก เขากล่าวว่า “อาจมีหน้าต่างซึ่งทำให้การขับขี่ (รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้น้ำมัน) ไม่ปลอดภัย และเกิดอุบัติเหตุหลายคันพร้อมกัน”

อีวีไม่ได้อันตรายทั้งหมด

มันไม่ใช่ว่าจะอันตรายทั้งหมด Consumer Reports พบว่า รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มีระยะหยุดที่ดีกว่ารถน้ำมันหลายคัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวรถ แต่การทดสอบส่วนใหญ่ทำกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ “เบา” ส่วนรถที่หนักกว่าก็มีหลายคันที่มีระยะเบรคที่แย่มาก

Car and Driver เคยทดสอบระยะเบรคของ Lucid Air จากความเร็ว 70 ไมล์/ชม.(112 กม./ชม.) ได้ที่ 49.6 เมตร ส่วน Audi RS e-tron ได้ที่ 48.7 เมตรที่ความเร็วเดียวกัน

ส่วนทาง Motor Trend ที่ได้ทดสอบ Hummer EV เมื่อไม่นานมานี้ จากความเร็ว 60 ไมล์/ชม.(96.5 กม./ชม.) ได้ที่ระยะ 41.7 เมตรซึ่งดีกว่ารถที่ว่ามาก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังแย่กว่า GMC Sierra 3500 กระบะฟูลไซส์ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันและมีน้ำหนัก 3.2 ตันอยู่สามฟุต

ยิ่งรถยนต์ไฟฟ้ามีความเร็วมากเท่าไหร่ ระบบเบรคจะมีปัญหามากขึ้นตามน้ำหนักที่มี อย่างที่ทาง Motor Trend ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหานี้

อ่านเพิ่มเติม : เพราะอะไร Porsche 911 จึงคว้าที่ 1 ในการทดสอบเบรค แต่ Suzuki Jimny ได้ที่โหล่ ?

รู้ไว้ก่อนเป็นยอดดี

สถานการณ์ฉุกเฉินที่ทำให้เราต้องเบรคกระทันกันอาจไม่ได้มีกันทุกวัน แต่การรู้ข้อจำกัดของตัวรถ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังใหม่สำหรับใครหลายคนนั้นทำให้เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ทันท่วงที 

แต่จากการทดสอบทั้งหมดที่กล่าวไว้ข้างต้น หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจริง ๆ เราก็ต้องป้องกันให้เต็มที่ แล้วที่เหลือก็หวังให้ระบบความปลอดภัยของรถและกฎของฟิสิกส์ช่วยเหลือเราได้อย่างทันท่วงที

อ่านเพิ่มเติม : ผลวิจัยชี้ SUV และ รถกระบะ มีแนวโน้มที่จะชนคนเดินเท้าขณะเลี้ยวมากกว่ารถยนต์ทั่วไป