Audi A5 Sportback

2020 Audi A5 Sportback รถ 4 ประตูคูเป้สุดเท่จากเยอรมัน

Audi (อาวดี้) ประเทศไทยได้เปิดตัว Audi A5 Sportback เจนเนอเรชั่นที่ 2 ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2017 ซึ่งในตอนนั้นราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 3.3 ล้าน ถึง 4.3 ล้านบาท หลังจากผ่านมา 3 ปี ถึงเวลาปรับโฉมแล้วโดยอาวดี้ได้ทำการเซอร์ไพรส์แฟนๆด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ด้วยไลน์อัพเครื่องยนต์เดิมแต่ราคาเปิดตัวถูกลงด้วยเริ่มที่ 2.7 ล้านบาท ถึง 3.6 ล้านบาท ถูกกว่ารุ่นก่อนปรับโฉมถึง 600,000 บาท ซึ่งสร้างยอดจองให้อาวดี้ได้คึกคักประมาณหนึ่งเลยทีเดียว ดีไซน์ถือว่าสวยลงตัว ไฟหน้าและไฟท้ายแบบใหม่ทำให้รถดูเท่ขึ้นทั้งที่ของเดิมก็สวยอยู่แล้ว ใครที่เคยเล็งไว้น่าจะถูกใจกับการปรับโฉมครังนี้แน่นอน

ราคา Audi A5 Sportback 

การออกแบบภายนอก Audi A5 Sportback 

Audi A5 แบ่งการทำตลาดเป็น 2 ตัวถังได้แก่คูเป้แบบ 2 ประตู และแบบ 5 ประตู สำหรับตัว Sportback ใช้ดีไซน์ครึ่งคันหน้าเหมือนตัวคูเป้ ไฟหน้าเป็นแบบ Matrix LED ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไฟเดย์ไลท์แบบใหม่สไตล์สปอร์ตซึ่งเป็นการออกแบบไฟในยุคใหม่ของรุ่นต่างๆของอาวดี้ด้วย ฝากระโปรงมีแนวเส้นโป่งเพิ่มมัดกล้ามให้หน้ารถ สำหรับครึ่งคันหลังเป็นแบบท้ายลาดฝากระโปรงท้ายเป็นแบบยกขึ้นพร้อมกระจกทั้งบานเป็นประตูบานที่ 5 ประตูทั้ง 4 บานเป็นแบบ frameless เหมือนตัวคูเป้ ด้านท้ายไฟท้ายแยก 2 ก้อน ครอบท่อไอเสียซ้ายขวาด้วยโครเมี่ยมขนาดใหญ่ดูสปอร์ตในทุกมุมมอง ตกแต่งด้วยทริมสีเงินรอบคัน ทั้ง 2 รุ่นย่อยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ต่างกันที่ลวดลายของล้อ และในรุ่น 45 TFSI ทริมจะเป็นสีดำเงา มีคาลิปเปอร์เบรคสีแดงเสริมลุคความสปอร์ตเพิ่มเข้าไปอีก ตัวถังภายนอกมีให้เลือก 6 สี

มิติตัวรถ Audi A5 Sportback

การออกแบบภายใน Audi A5 Sportback

เมื่อก้าวเข้าไปในห้องโดยสา Audi A5 Sportback สิ่งที่โดดเด่นที่สุดและไม่มีในรุ่นก่อนปรับโฉมคือมาตรวัดดิจิตอลแบบ Virtual Cockpit ที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของอาวดี้ยุคใหม่ ซึ่งในตอนนี้มีมาให้แล้วตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
วัสดุภายในบุหนังและตกแต่งด้วยทริมสีเงินพาดตามแนวคอนโซลกลาง ช่องแอร์ด้านหน้าสำหรับผู้โดยสารยาวตั้งแต่ด้านซ้ายของตัวรถถึงตรงคอนโซลกลาง เย็นฉ่ำถึงใจกันเลยทีเดียว เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้า มีระบบปรับดันหลัง (Lumbar support) และสามารถบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งสำหรับฝั่งผู้ขับได้ เบาะผู้โดยสายด้านหลังเป็นแบบ 3 ที่นั่ง เบาะตรงกลางสามารถทำให้เป็นที่พักแขนได้ และเบาะหลังสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรจุสัมภาระ มีไฟเรืองแสงที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient light) สีขาว ทุกรุ่นย่อยจะได้ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซน 3 โซน สำหรับรุ่นท้อปเบาะนั่งคู่หน้าจะเป็นลายข้าวหลามตัด พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัดพร้อมสัญลักษณ์ S-Line หนังใช้หนังแนปป้าในทุกที่นั่งซึ่งจะมีความสบายมากกว่า มีระบบนวดฝังมาในเบาะด้วย ไฟเพิ่มบรรยากาศจะสามารถเปลี่ยนสีได้ เครื่องเสียงจากเดิมของอาวดี้เองจะเปลี่ยนไปใช้ของ Bang & Olufen ที่มาพร้อมกับระบบเสียงสามมิติที่ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางได้ หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค สีเบาะภายในห้องโดยสารรุ่นเริ่มต้นมีให้เลือก 2 สีได้แก่สีดำ และ สีน้ำตาล สำหรับรุ่น Black edition มีให้เลือก 2 สีเช่นกัน คือ สีดำ และ สีเทา

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก Audi A7 Sportback

Audi A7 Sportback มาพร้อมระบบอำนวยความสะดวกในห้องโดยสารอาทิ เช่น ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน ระบบเบาะนวดสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย มีจอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดแบบ Virtual Cockpit สามารถแสดงทิศทางที่เชื่อมกับแผนที่ได้ ทำให้ไม่ต้องละสายตาไปมองจอตรงกลางรถก็ได้ เพิ่มสมาธิในการขับ สามารถสั่งการระบบเครื่องเสียงผ่านพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นได้ ด้านการขับขี่มีระบบควบคุมความเร็วให้คงที่ขณะขับขี่ (Cruise control) ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่ายังไม่มีระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน แต่ยังมีระบบช่วยล็อคเบรคขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist) ที่ทำให้การขับในสภาวะการจราจรติดขัดในเมืองสบายขึ้น และเบรคมือไฟฟ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ มีเซนเซอร์ช่วยกะระยะหน้าหลังและกล้องมองภาพด้านหลังสำหรับช่วยถอยจอดซึ่งถ้ามีกล้องรอบคันน่าจะช่วยให้การถอยจอดทำได้ง่ายขึ้นมากกว่านี้ ระบบเปิดฝาท้ายแบบไม่ต้องใช้มือทำงานร่วมกับระบบ Comfort Access ปลดล็อครถโดยแค่พกกุญแจติดตัวไว้ ไม่ต้องกดปุ่มปลดล็อคจากตัวกุญแจ

ระบบความปลอดภัย Audi A7 Sportback

เนื่องจากอาวดี้ประเทศไทยนั้นไม่มีโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ต้องอาศัยการนำเข้าเพียงอย่างเดียวทำให้การทำราคาเพื่อที่จะได้แข่งขันใจำเป็นต้องตัดออฟชั่นบางอย่างออกไปบ้าง โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยแบบแอคทีฟที่ไม่มีมาให้เลย แต่ในส่วนอุปกรณ์ความปลอดภัยเบื้องต้นที่มีมาให้ ได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

ขุมพลังและสมรรถนะ 

สำหรับAudi A5 Sportback รุ่น 40 TFSI การขับขี่ให้ความมั่นใจที่ดีถ้าขับแบบปกติจะไม่ได้รู้สึกถึงความหน้าดื้อใดๆ เรียกได้ว่าตอนใช้งานทั่วไปไม่ต่างกับตัว 45 TFSI เลย 190 แรงม้าที่ให้มาถือว่าเพียงพอ ขับหล่อๆ ได้สบาย จะเริ่มต่างก็ตอนถ้าคุณต้องเข้าโค้งความเร็วสูงจะเริ่มมีความหวาดเสียวบ้างซึ่งเจ้า 45 TFSI จะสามารถเข้าโค้งได้อย่างชิวๆไปพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro อันเลื่องชื่อของมัน อาจจะเพราะด้วยช่วงล่างของที่แอบแข็งกว่าตัวเริ่มต้นด้วยแต่ไม่ถึงกับกระด้างมากนัก การเปลี่ยนเกียร์เล่นเองสามารถใช้แพดเดิลชิฟต์ที่อยู่บริเวณหลังพวงมาลัยได้ซึ่งขอบคุณอาวดี้ที่ให้มาทั้ง 2 รุ่นย่อย เกียร์อัตโนมัติ S-Tronic ทำงานได้ดี ถ้าไม่ได้ซิ่งเป็นชีวิตจิตใจรุ่น 40 ก็เพียงพอแล้วจริงๆ

เบาะสีน้ำตาลตัดกับคอนโซลสีดำใน Audi A5 Sportback รุ่น 40 TFSI เป็นอะไรที่ดูลงตัวแบบบอกไม่ถูก การนั่งก็ทำได้ดี สบาย ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลเป็นหลัก การเก็บเสียงโอเค อาจจะมีเสียงลอดมาจากแถวประตูบ้างแต่ก็ไม่ได้น่ารำคาญอะไร มาตรวัดสวยงามสุดจนบางทีเผลอจ้องมันบ่อย เสียดายที่ไฟในห้องโดยสารมีแค่สีขาว แต่ถ้าคุณยอมอัพเกรดไปเล่นรุ่น 45 TFSI ทุกอย่างจบ เบาะหนังที่ดูหรูขึ้นไปอีกกับลายข้าวหลามตัด หนังแนปป้าที่เบาะเมื่อกี้ว่าสบายแล้ว รุ่นนี้สบายกว่า แถมมีระบบนวดฝังมาให้ในเบาะด้วย ครบ จบ ในที่เดียว ไฟในห้องโดยสารปรับเลือกสีเองได้จากจอกลาง ตอนกลางคืนอย่างกับเลานจ์คลับเท่ๆ เครื่องเสียงก็ให้มิติที่ดีมาก อารมณ์เหมือนขับรถจีที 2 ประตูอย่างไรอย่างงั้นเลย

Audi A5 Sportback คือ รถสปอร์ตสำหรับคนเพื่อนเยอะหรือคนที่มีครอบครัวแล้วแต่ยังโหยหาความสปอร์ตอยู่ ด้วยรูปทรงที่ลงตัว หล่อมากๆ โดยเฉพาะสีเขียวทหารที่เป็นสีเปิดตัวในเมืองไทย เรียกได้ว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน ข้างหลังการโดยสารก็ทำได้ดีเบาะอาจจะแอบเตี้ยกับต้องก้มหัวมากหน่อยเวลาเข้าไปนั่งแต่ก็นั่งได้สบาย พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสความสปอร์ตกันได้อย่างถ้วนหน้า ยิ่งอาวดี้ประเทศไทยทำราคาถูกกว่ารุ่นเดิมมากโดยที่ออปชั่นจากรุ่นก่อนปรับโฉมก็ไม่ได้หายไปไหนอีก เรียกได้ว่ารุ่นนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ่มสำหรับคนที่เล็งไว้จริงๆ