Pickup ตัวถัง | 2.3 - 2.5L ปริมาตรกระบอกสูบ | AT / MT รูปแบบเกียร์ | 163 - 190PS กำลังสูงสุด |
2023 - 2024 Nissan Navaraมีให้เลือกถึง 14รุ่นย่อยพร้อมราคาเริ่มต้นอยู่ที่ THB 599,000 ถึง THB 1,149,000 รุ่นเริ่มต้นของ Navara คือ 2021 Nissan Navara King Cab 2.5 S 6MTที่ราคา THB 599,000 ส่วนรุ่นท็อปสุด Nissan Navara มาพร้อมราคาTHB 1,149,000
THB 765,000
THB 7,714 /เดือนTHB 809,000
THB 8,157 /เดือนTHB 815,000
THB 8,218 /เดือนTHB 849,000
THB 8,561 /เดือนTHB 859,000
THB 8,662 /เดือนTHB 899,000
THB 9,065 /เดือนTHB 915,000
THB 9,226 /เดือนTHB 965,000
THB 9,730 /เดือนTHB 999,000
THB 10,073 /เดือนTHB 1,129,000
THB 11,384 /เดือนTHB 1,149,000
THB 11,586 /เดือนTHB 559,500
THB 5,642 /เดือนTHB 637,000
THB 6,423 /เดือนTHB 655,000
THB 6,605 /เดือนTHB 667,000
THB 6,726 /เดือนTHB 693,000
THB 6,988 /เดือนTHB 769,000
THB 7,754 /เดือนTHB 840,500
THB 8,475 /เดือนTHB 872,500
THB 8,798 /เดือนTHB 914,500
THB 9,221 /เดือนTHB 943,500
THB 9,514 /เดือนTHB 1,096,000
THB 11,051 /เดือนTHB 790,000
THB 7,966 /เดือนTHB 799,500
THB 8,062 /เดือนTHB 877,000
THB 8,843 /เดือนTHB 950,000
THB 9,579 /เดือน*สำหรับอ้างอิงเท่านั้น คุณสามารถปรับเครื่องคิดเลข ตามสถานการณ์จริงของคุณได้
Nissan Navara 2024 มีรูปภาพและรูปถ่ายทั้งหมด 564 รูป รวมรูปภาพ & รูปถ่ายภายใน 223 รูป รูปภาพ & รูปถ่ายภายนอก 310 รูป รูปเครื่องยนต์และทอื่นๆ 31 รูป ชมมุมมองด้านหน้า มุมมองด้านหลัง ด้านข้างและมุมมองด้านบนของ Nissan Navara 2024 รุ่นใหม่ได้ที่นี่.
เกรดPickup | ตัวถังPickup | รูปแบบเกียร์AT / MT | ปริมาตรกระบอกสูบ2.3 - 2.5L | กำลังสูงสุด163 - 190PS | จำนวนที่นั่ง2 - 5 |
2021 Nissan Navara Pro4X (นิสสัน นาวาร่า โปร4เอ็กซ์) คือรุ่นย่อยตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดของการทำตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันของนิสสันในประเทศไทย ซึ่งเป็นความพยายามในการก้าวข้ามการเป็นรถกระบะเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ ไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำการใช้งานตลาดเชิงไลฟ์สไตล์ ซึ่งนิสสันเคยลองเชิงในตลาดมาแล้วหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งสติกเกอร์เพิ่มความดุดันในแบล็กซี่รี่ส์ หรือการอัดชุดแต่งมากมายในตอนที่ทำเอ็น-เทร็ค วอริเออร์ ซึ่งเป็นการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ เหมือนกับที่คู่แข่งอย่าง Ford Ranger Wildtrak (ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทร็ค) ประสบความสำเร็จมาก่อน หรือแม้แต่ Toyota Hilux REVO Rocco (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่) ก็ทำได้ดี
ตลาดไลฟ์สไตล์ ปิกอัพนั้น ถือเป็นตลาดที่ใหญ่โตเอาเรื่อง ทั้งในตลาดปิกอัพใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา การมีชุดแต่งหรือชุดเพิ่มสมรรถนะของปิกอัพถือเป็นเรื่องปกติ ขณะที่ในประเทศไทยก็ต้องถือว่าไม่เลวร้าย เพราะความต้องการรถปิกอัพแต่งหล่อของผู้บริโภคนั้นก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้ผลิตปิกอัพในไทยก็เดินหน้าแข่งขันกันเช่นกัน
จริง ๆ Pro Series ของนิสสันนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย เพราะในสหรัฐอเมริกานั้น พวกเขาใช้ชื่อ Pro4X กับรถกระบะใหญ่อย่าง Nissan Titan (นิสสัน ไททัน) มานานแสนนาน และเจ้าไททันเองนี่ล่ะ ก็เป็นรถที่ประชาชนชาวไทยเคยเรียกร้องให้นิสสันเอาแนวทางการออกแบบมาใส่ใช้นาวาร่าที่ขายในบ้านเราบ้างเพื่อเพิ่มความดุดันให้ถึงขีดสุด
แต่ยิ่งผู้จำหน่ายปิกอัพในประเทศไทยพัฒนาการออกแบบเรื่องรูปร่างหน้าตาให้มีความแข็งแกร่ง บึกบึน ไปมากมายขนาดไหน ดูเหมือนกระบะนาวาร่าของนิสสันเองกลับไม่ค่อยโดนใจผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งในตลาดยกสูงและตลาดขับเคลื่อนสี่ล้อ กลายเป็นตลาดที่นิสสันเองยังยอมรับว่ามีสัดส่วนการขายที่สู้ตลาดตัวความสูงธรรมดาไม่ได้
เมื่อพวกเขาลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองด้วยการอัพเกรดเบ้าหน้าและด้านท้ายของรถกันยกใหญ่ สิ่งที่ได้เป็นฟีดแบ็คอย่างว่องไวก็คือการชื่นชมเยินยอในงานการออกแบบที่ดูโดดเด่นขึ้น ตัวรถดูใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแม้จะอยู่บนแพลตฟอร์มเดิม แถมมีคำถามเรื่องสมรรถนะที่แน่นอนว่าจะต้องเปลี่ยนไป ว่าการพัฒนามาครั้งนี้จะโดนใจผู้บริโภคเพียงใดกันแน่
AutoFun Thailand ได้รับเกียรติจากนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เพื่อร่วมทดสอบรถกระบะรุ่นใหม่ของพวกเขาอย่างเป็นทางการ โดยเราขอโฟกัสไปที่ตัวท็อปอย่าง Nissan Navara Pro4X เพื่อเช็คคร่าว ๆ ว่า การออกแบบและสเปกที่ปรับมาใหม่นั้นจะโดนใจผู้บริโภคชาวไทยหรือไม่ และจะทำให้พวกเขาลืมตาอ้าปากในตลาดปิกอัพตัวท็อปได้หรือยัง...
เราจะไม่พูดเรื่องของรายละเอียดของตัวรถหรือออพชั่นกันมากนะครับ เพราะเราทำบทความที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับ Nissan Navara ไปแล้ว สามารถติดตามอ่านได้ตั้งแต่การเปิดตัวในประเทศไทย หรือเช็ครายละเอียดของรถรุ่นย่อยทั้งหมด หรือหากอยากชมภาพจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็สามารถกดเข้าไปดูลิงค์เก่า ๆ ที่เราทำเอาไว้กันได้เลย
ผมเองนั้นใช้งานรถกระบะในกลุ่มนี้อยู่ในปัจจุบัน บอกเลยว่าวันที่เห็นหน้าตาของ Nissan Navara Pro4X ครั้งแรกยังแอบกุญแจรถสั่น ต้องชมทีมงานออกแบบของนิสสันที่ออกแบบรถคันนี้มาได้อย่างโดดเด่น มีลูกเล่นมากมายที่แฝงอยู่ในรายละเอียด และดูลงตัวกลมกล่อมแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นทีมที่ออกแบบ Navara รุ่นเดิมออกมาขายตั้งหลายปี
งานออกแบบที่ติดตั้งชุดแต่งเข้าไปรอบคัน ทำให้ Nissan Navara คันนี้มาพร้อมความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร หรือกว้างกว่ารุ่นท็อปวีแอล ขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่ 25 มิลลิเมตร ยาวเท่ากันที่ 5,260 มิลลิเมตร และสูงเพียง 1,840 ซึ่งเตี้ยกว่าวีแอลอยู่ 5 มิลลิเมตร เป็นผลมาจากการใช้ล้อ 17 นิ้ว เล็กกว่าวีแอล 1 นิ้ว ทำให้พื้นรถเตี้ยกว่า 5 มิลลิเมตรเช่นกัน
งานออกแบบด้านหน้าของ Nissan Navara โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่รมดำมาทั้งก้อน ตัดด้วยโลโก้ที่ตกแต่งด้วยสีส้มแดง เสริมชุดแต่งเพิ่มความบึกบึนทั้งการ์ดหน้า-หลัง บันไดข้าง และซุ้มล้อ ที่เพิ่มจุดมองของสายตาด้วยแถบสีส้มแดงแบบเดียวกับในโลโก้ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือทำไมตัวท็อปไม่ติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลามมาให้จบ ๆ เรื่องกันไป ต้องซื้อเปลี่ยนเอง
การออกแบบตัวถัง Nissan Navara นั้นเน้นการเล่นสีที่ตัดกันอย่างลงตัว ชุดแต่งรอบคันเป็นสีดำ ตั้งแต่กระจกมองข้าง มือจับประตู ล้ออัลลอย และแร็คหลังคาขนาดใหญ่ ด้านหน้าของรถเด่นที่กรอบโคมไฟหน้าที่เน้นลวดลายการออกแบบของชุดโคมไฟชขัดเจน ประกอบไปด้วย เส้นไฟกรอบรูปตัว C พร้อมด้วยโปรเจคเตอร์ขนาดเล็ก 4 ดวงที่ติดตั้งรวมกันอยู่
กล้องรอบคันถูกติดตั้งในตำแหน่งมุมของรถ ซ่อนเอาไว้แบบให้พอมองเห็นว่ามีของ ด้านท้าย Nissan Navara มีการออกแบบกระบะท้ายใหม่ แน่นอนว่าโลโก้ตัดสีแดงส้มนั้นลอยอยู่อย่างสง่างาม พร้อมด้วยฝาท้ายที่มีการปั้มชื่อ NAVARA ติดเอาไว้อย่างลงตัว ไฟท้ายนั้นออกแบบให้ดูเด่นและมีมิติของไฟมากขึ้น ด้านข้างก็เด่นด้วยกาบบันไดขนาดใหญ่ที่ดูบึกบึน
ถ้าความต้องการในการใช้งาน Nissan Navara ของคุณคือ อยากได้รถที่โดดเด่นบนท้องถนน ขับไปไหนมีแต่คนชมว่าหล่อแน่นอน Nisssan Navara Pro4X คงเป็นหนึ่งในคำตอบของคุณแน่นอน แต่การเลือกซื้อรถแต่ละคันคงไม่จบแค่นี้แน่นอน เพราะมันต้องมีรายละเอียดของการออกแบบภายในและเครื่องยนต์ว่าน่าใช้งานมากน้อยเพียงใดประกอบกันอีก
งานดีไซน์ภายใน Nissan Navara นั้นอาจจะไม่ได้ปรับมาอย่างหวือหวาเหมือนกับงานภายนอก เพราะยังไงพื้นฐานการพัฒนาก็ยังเป็นรถรุ่นเก่าอยู่ จะให้พวกเขาทุบทิ้งทั้งหมดแล้วออกแบบภายในให้หรูหราอลังการเลยก็คงยาก เพราะฉะนั้น แดชบอร์ดเดิม ๆ ที่ดูขัดใจหลาย ๆ คนก็ยังได้ไปต่อ แต่ทีมงานของนิสสันก็พยายามชดเชยความรู้สึกเรื่องนี้ให้มากเอาเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเบาะนั่งภายในใหม่หมดจด เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนัง มีการทำลายกราฟฟิกพร้อมติดตั้งโลโก้ที่ทีมงานเขาบอกว่าสวยและโดดเด่น ห้องโดยสารมีความเงียบในแบบของนาวาร่า และมาพร้อมเบาะหุ้มหนังตอนหน้าแบบ Zero Gravity ที่ว่ากันว่าช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและสะดวกสบายในการเดินทางโดยสารไปที่ต่าง ๆ
เบาะนั่งตอนหลังเหมือนมีการปรับตำแหน่งเล็กน้อย หรือว่าขนาดเบาะหนาขึ้นก็ไม่แน่ แต่ที่แน่ ๆ คือตำแหน่งการนั่งและการก้าวขึ้นไปนั่งนั้นเป็นธรรมชาติกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย และการหย่อนตัวลงไปนั่งก็ทำได้แบบไม่ต้องฝืน ๆ ก้มเยอะ บิดตัวหน่อยเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา แม้จะยังรู้สึกไม่ชอบลายกราฟฟิกแบบมีปุ่มนูนของรถอยู่เล็กน้อยก็ตาม
สิ่งที่ดีงามมากสำหรับงานออกแบบภายใน Nissan Navara ก็คือการติดตั้งที่เท้าแขนสำหรับห้องโดยสารตอนหลัง พร้อมด้วยที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง ซึ่งนิสสันรู้เสียทีว่าคนที่ซื้อรถแบบ 4 ที่นั่งบางทีเขาก็เอาไปขนคนเดินทางกัน แล้วการไม่มีที่วางแก้ว ก็ทำให้ผู้โดยสารไม่สะดวกสักเท่าไร ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้นล่ะ
เบาะที่นั่งตอนหน้าที่ดูสวยงามนั้น ถูกลดทอนเบาะไฟฟ้าแบบปรับ 8 ทิศ พร้อมที่ดันหลังแบบไฟฟ้าลงไปจากรุ่นวีแอล แต่ให้มาเพียงเบาะปรับมือได้ 6 ทิศทางที่ตำแหน่งของคนขับ พร้อมเบาะที่นั่งด้านข้างปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง อันนี้ก็ไม่เข้าใจว่านิสสันคิดว่าคนที่ขับโปร4เอ็กซ์ จะไม่มีอาการปวดหลังตอนขับรถคันนี้ลุยป่าหรือเปล่า เลยเอาออกซะงั้น
หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วระบบสัมผัสถูกติดตั้งมาให้ เป็นหน้าจอที่ให้ความคมชัด สว่างสดใสและไม่ค่อยเป็นรอยนิ้วมือเวลาสัมผัส มาพร้อมการรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งระบบหลังนั้นมีดอกจันทร์ตัวเล็ก ๆ แปะไว้ในโบรชัวร์ ว่าระบบนี้ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย ใครใช้มือถือแอนดรอยด์ก็จะได้ทำใจเอาไว้ก่อนล่วงหน้า
นอกจากนี้ ในรุ่นโปรทั้ง 2 รุ่น จะมีบริการพิเศษจาก Nissan Connect ซึ่งติดตั้งโดยบริษัทในเครือสยามกลการ และลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งหรือไม่ติดตั้ง ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการดูแล อาทิ การค้นหารถ การติดต่อเรื่องการนำรถเข้าใช้บริการ หรือแม้แต่การเรียกใช้งานการช่วยเหลือฉุกเฉิน ผ่านโทรศัพท์มือถือทั้งหมดอย่างง่ายดาย
นิสสันเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ รหัส YS23DDTT หัวฉีดคอมเมนเรลไดเรกต์อินเจคชั่น มาประจำการใน Nissan Navara Pro4X ตัวล่าสุด ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้ คนไทยนั้นคุ้นหูคุ้นมือกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่ประจำการอยู่ในพีพีวีรุ่นพี่อย่าง Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) ที่ทำตลาดมาได้สักพักแบบไม่ค่อยวิ่งกันสักเท่าไร
เหตุผลในการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ Nissan Navara รุ่นนี้ ทีมงานของนิสสันระบุว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จะใช้ความไหลลื่นและราบลื่นในการใช้งานมากกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่นเดิม โดยผู้ขับขี่จะสามารถรับรู้ได้ถึงการตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่พร้อมทำงานในการพาผู้ขับขี่และผู้โดยสารออกเดินไปทางไปบนถนนทุกสภาวะอย่างแท้จริง
เครื่องยนต์ Nissan Navara ดีเซลแบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรกระบอกสูบ 2,298 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดรุ่นใหม่ ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4
ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช็คอัพ เบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดรัมเบรก พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.3 เมตร ซึ่งออพชั่นเหล่านี้เป็นอออพชั่นมาตรฐานที่ใช้งานกันต่อเนื่องมายาว ๆ จากนาวาร่ารุ่นเดิม ๆ เลย
อ่านตัวเลขแล้วหลายคนอาจจะร้องเฮ้ยในใจ เพราะว่ามองไปที่คู่แข่งคนอื่น ๆ เขาก็ใช้เครื่องยนต์ระดับ 200 แรงม้า 500 นิวตันเมตรกันหมดแล้ว แล้วเครื่องเทอร์โบคู่ตัวนี้จะลากรถที่มีน้ำหนักตัวถังพร้อมชุดแต่งระดับ 2,083 กิโลกรัมไปได้สนุกสนานเพียงใด นั่นล่ะครับ คือสิ่งที่เรากำลังจะเล่าให้ฟังหลังได้ลองขับสั้น ๆ กันในวันนี้
รายละเอียดทางเทคนิค Nissan Navara Pro4X | ||
---|---|---|
เครื่องยนต์ | YS23DDTT | |
ประเภท | ดีเซล เทอร์โบคู่ | |
ความจุ | 2,298 ซีซี. | |
กำลังสูงสุด | 190 แรงม้า | |
แรงบิดสูงสุด | 450 นิวตันเมตร | |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ 7 สปีด | |
พวงมาลัย | แร็คแอนด์พีเนียน | |
วงเลี้ยวแคบสุด | 6.3 เมตร | |
ช่วงล่างหน้า | อิสระปีกนกคู่ | |
ช่วงล่างหลัง | แหนบซ้อนพร้อมโช็คอัพ | |
เบรกหน้า | ดิสก์เบรก | |
เบรกหลัง | ดรัมเบรก | |
น้ำหนักรถ | 2,083 กิโลกรัม | |
มาตรฐานไอเสีย | ยูโร 4 | |
ถังน้ำมัน | 80 ลิตร |
นิสสันนั้นได้ทำการเซตอัพสถานที่ทดสอบแบบคร่าว ๆ มีเส้นทางวิ่งที่ชัดเจนให้กับการทดสอบตามสถานีต่าง ๆ 6 สถานีเพื่อให้ได้ทดสอบถึงคุณลักษณะที่เปลี่ยนไปของรถอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการตอบสนองของเครื่องยนต์ ความนุ่มสบายของช่วงล่าง และความสามารถในการบุกตะลุยของรถ ที่เซตอัพมาเพื่อรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ
ใครที่เคยชินกับความเนิบ ๆ ของ Nissan Navara รุ่นก่อนหน้านี้อาจจะต้องแปลกใจ เพราะแม้เครื่องยนต์เทอร์โบคู่รุ่นใหม่จะไม่ได้มีตัวเลขของสเปคที่เหนือกว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมมากนัก แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อมาประจำการณ์ในนาวาร่านั้น กลับมีลูกกระฉับกระเฉงที่เหนือกว่า ให้อาการออกตัวที่จี๊ดจ๊าดขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน
แน่นอนล่ะว่ามันคงไม่อาจจะไปเปรี้ยวท้าทายตัวท็อปของค่ายอื่นได้ แต่หากมองแค่ในส่วนของนาวาร่าเองนั้น พวกเขาสอบผ่านในเรื่องของการพัฒนาสมรรถนะอย่างชัดเจน และเชื่อว่าผู้ขับขี่เองก็ต้องชื่นชอบในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะด้วยราคาที่ขยับไปมาไม่มาก แต่ได้รถที่มีสมรรถนะดีขึ้นจนเรียกว่าแข่งกับใครก็ไม่น่าเกลียดแล้ว
ช่วงล่างนั้น นิสสันระบุว่ามีการปรับแต่งและเซตอัพให้มีความนุ่มนวลขึ้น เพื่อให้เป็นรถที่เหมาะสำหรับการโดยสารออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เบาะคู่หน้านั้นให้การโอบกระชับที่มากขึ้นกว่ารุ่นเดิม การปรับนั้น แม้จะปรับด้วยมือแต่ก็ให้ทิศทางการนั่งและมุมองศาต่าง ๆ ที่ดี ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม มองเห็นรอบด้านได้อย่างไม่เกะกะสายตา
ความนุ่มนวลของช่วงล่างในแทร็คออฟโรดนั้นทำให้เราถึงกับตกใจ เพราะเมื่อลองรูดรถผ่านถนนหินลอยไปยาว ๆ ตัวรถ Nissan Navara ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์นั่งมากกว่ารถกระบะ และก็ยังให้ความหนึบนุ่มในแบบที่รถปิกอัพควรจะเป็นอยู่ เรียกว่าหากเจอถนนขรุขระเป็นหลุมบ่อ ก็น่าจะสามารถผ่านอุปสรรคทั้งหมดไปได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
นอกจากนี้ กรณีที่ใช้ระบบ 4L และมีความเร็วต่ำกว่า 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบออฟโรดจะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถระมัดระวังกับการขับขี่ได้มากขึ้น โดยจอจะแสดงผลถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบด้าน และเมื่อสามารถทำความเร็วได้มากกว่าที่กำหนดไว้ก็จะดับไปเอง ใช้งานได้อย่างสะดวกไม่เลวเลย
ต้องบอกก่อนว่าแทร็คในการทดสอบของนิสสันวันนี้ไม่ได้เน้นเรื่องการทำความเร็วหรือการตอบสนองของเครื่องยนต์มากมาย พวกเขาพยายามที่จะแสดงสมรรถนะของระบบออฟโรดต่าง ๆ ให้เห็น ผ่านการจัดสถานี ไม่ว่าจะเป็นเนินเอียง เนินขวาง หรือแม้แต่การขึ้นแรมพ์ความชัน 45 องศาและการหักหัวลงมาแบบหน้าทิ่มก็ทำได้
นอกเหนือจากการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่แอบลองกดช่วงสั้น ๆ มานิดหน่อย สิ่งที่สัมผัสได้อีกอย่างว่าดีขึ้นอย่างชัดเจนก็คือพวงมาลัยที่มีความคม กระชับและตอบสนองต่อการเลี้ยวและวงเลี้ยวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แม้แต่ในเส้นทางออฟโรด น้ำหนักพวงมาลัยก็มีความเหมาะสมกับการใช้งานแบบไม่ติดขัดอะไร เรียกว่าจัดมาได้อย่างเหมาะสม
Nissan Navara Pro4X คันจริงนั้นอาจจะดูเล็กกว่าตามรูปที่ถ่าย ๆ กันมาสักเล็กน้อย เพราะอย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มที่ยังใช้ก็ยังเป็นแพลตฟอร์มเดิม ที่มีข้อดีเรื่องความถึกบึกบึนแข็งแรง แต่ในแง่ของความกว้างขวางโอ่อ่านั้นอาจจะไม่ได้เป็นจุดขายหลัก แต่ขอบอกว่าเบาะที่นั่งใหม่และการเก็บเสียงในรถก็ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่หยอกเหมือนกัน
โดยรวมความขับอยู่คร่าว ๆ ประมาณ 7-8 นาที กับ 1 รอบสนามที่ทำความเร็วไม่ได้ และอยู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ความรู้สึกแรกคือรถมันดีขึ้นล่ะ แต่จะดีขึ้นแบบไหนรอบด้านหรือเปล่า รอขอขับแบบเต็ม ๆ อีกครั้งก่อนตัดสินใจ ซึ่งนิสสันนั้นเซตสนามเพื่อชูจุดเด่นของตัวเองอยู่แล้ว ใครที่อยากได้กระบะแนวสบาย นุ่มเด้ง น่าจะชื่นชอบเลยล่ะ
ความพยายามในการเดินทางหากลุ่มลูกค้าใหม่ของนิสสัน ประเทศไทย ที่เอาดีเอาเด่นในเรื่องของรถใช้งานในเชิงพาณิชย์มาตลอด และมีชื่อเสียงในเรื่องของความแข็งแกร่ง ทรหด บึกบึนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคกระบะช้างเหยีบบ มาวันนี้ การปรับตัวเพื่อเน้นกลุ่มลูกค้าที่นำกระบะออกไปใช้ชีวิตหลากรูปด้าน กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
การปล่อยให้คู่แข่งในระดับโลกนำหน้าในกลุ่มปิกอัพตัวท็อปมานาน และก้มหน้าก้มตาทำสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำได้ดีที่สุดมาโดยตลอด ทำให้นิสสันนั้นร่วงลงไปอยู่ที่ 5 ของตลาดปิกอัพในประเทศไทยมาสักพักใหญ่ ๆ แม้ทุกคนจะรับรู้ว่าทั้งสมรรถนะและของเล่นที่ติดตั้งมาให้ในรถทุกรุ่นของนิสสันนั้นไม่ธรรมดา และสามารถแข่งกับทุกคนได้สบาย
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาแบบแทบจะจำหน้าของเดิมไม่ได้แม้จะยังเป็นแพลตฟอร์มตัวเก่า นิสสันได้เอาใจลูกค้าด้วยการเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น ติดตั้งเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ ที่ช่วยเหลือด้านการขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยในเรื่องของความปลอดภัย ในราคาที่พยายามคุมให้แข่งขันได้แบบไม่ต้องลดราคา
ถ้าไม่นับ Nissan Navara Pro4X ที่เป็นรุ่นท็อป ในรุ่นถัด ๆ ลงไปทั้ง VL และ V ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ที่เรียกว่าทำให้รถน่าใช้งานมากขึ้น ต้องบอกว่านิสสันนั้นเลือกทำให้รถของพวกเขาน่าใช้งานมากขึ้นแล้ว ที่เหลือก็คือการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจให้ได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และรุ่นท็อปอย่างโปร ซีรี่ส์ คือการสื่อสารที่ดีว่าพวกเขานั้นเปลี่ยนไปเพียงใด
เป้าหมายการขึ้นจากอันดับ 5 ของ Nissan Navara นั้น มีคู่แข่งที่น่าสนใจอย่างมิตซูบิชิ ไทรทันและฟอร์ด เรนเจอร์ ขวางหน้าอยู่ หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าไม่น่าจะยากเย็นอะไรกับการก้าวข้ามคู่แข่งที่ไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ แต่นิสสันเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทั้งมิตซูบิชิและฟอร์ดนั้น คงไม่ใช่ค่ายที่จะยอมให้พวกเขาล้ำหน้าขึ้นไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน
ในตลาดรถประเทศไทยนั้น มีการพิสูจน์มาให้เห็นหลายต่อหลายรอบแล้ว ว่ารถที่ทำออกมาได้ดีที่สุดไม่ใช่รถที่ขายดีที่สุด และแม้ Nissan Navara จะพัฒนาขึ้นมาขนาดไหน พวกเขาก็คงต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร ในการสร้างยอดขายของตัวเอง เพื่อผลักดันให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และ Nissan Navara Pro4X ก็คือจุดเริ่มต้นของแผนงานในครั้งนี้
ก็ต้องขอเอาใจช่วยนิสสันอย่างมากสำหรับการจัดทัพเข้าสู่ตลาดปิกอัพที่ดุเดือดในครั้งนี้ แอบเชื่อลึก ๆ ว่าด้วยชื่อชั้นของพวกเขานั้น สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอนในตลาดปิกอัพ แต่จะทำได้ดีขนาดไหน หรือประสบความสำเร็จมากเพียงใด งานนี้ต้องวัดใจกันยาว ๆ ว่าจะออกมาในทิศทางไหน แต่ที่แน่ ๆ ลุยแล้วคงไม่ถอดใจกันแน่นอน!!!
ราคาจำหน่ายของ 2021 Nissan Navara |
|
---|---|
2021 Nissan Navara King Cab | 599,000 – 859,000 บาท |
2021 Nissan Navara Double Cab | 849,000 – 1,129,000 บาท |
2021 Nissan Navara Pro-2X | 999,000 บาท |
2021 Nissan Navara Pro-4X | 1,149,000 บาท |
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2024 Nissan Navara รุ่นใหม่ในไทยอยู่ที่ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรถึง 8.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและ ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.3 Calibre V 6MT อยู่ที่ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara Double Cab 2.3 Calibre V 6MT อยู่ที่ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara Double Cab 2.3 Calibre E 6MT อยู่ที่ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.5 E 6MT อยู่ที่ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.3 Calibre E 6MT อยู่ที่ 6.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.5 S 6MT อยู่ที่ 6.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.5 SL 6MT อยู่ที่ 6.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.3 Calibre E 7AT อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara King Cab 2.3 Calibre V 7AT อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara Double Cab 2.3 Calibre V 7AT อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara Double Cab 2.3 Calibre E 7AT อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, และ ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 Nissan Navara Double Cab 2.3 4WD VL 7AT อยู่ที่ 8.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร.
ประเภทเชื้อเพลิง | รูปแบบเกียร์ | ผู้ผลิตเรียกร้อง |
---|---|---|
Diesel(2298cc) | AT | - L/100km |
Diesel(2298cc) | AT | 8.1 L/100km |
4.1
Excellent
รีวิวสำหรับ 23
Nissan Navara แข่งขันกับ Toyota Hilux Revo, Isuzu D-Max, Mitsubishi Triton, Ford Ranger, Mazda BT-50.
1 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
7 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
มีช่องจ่ายไฟสำรองและรุ่นย่อยของNissan Navara ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.5 Nissan Navara Single Cab SL 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara Single Cab 4WD SL 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara Single Cab SWB 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara King Cab S 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara King Cab E 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara King Cab Calibre V 7AT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab S 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab Calibre E 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab Calibre EL 7AT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab Calibre V 7AT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab 4WD VL 7AT |
ช่องจ่ายไฟสำรอง | ใช่ | ใช่ | ใช่ | ใช่ | ใช่ | ใช่ | ใช่ | ไม่มี่ | ไม่มี่ | ไม่มี่ | ใช่ |
มีกระจกมองหลังแบบตัดแสงและรุ่นย่อยของNissan Navara ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab S 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab Calibre E 6MT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab Calibre EL 7AT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab Calibre V 7AT | 2020 2.5 Nissan Navara Double Cab 4WD VL 7AT |
กระจกมองหลังแบบตัดแสง | ใช่ | ไม่มี่ | ไม่มี่ | ไม่มี่ | ใช่ |