MG (เอ็มจี) สมัยอยู่ในการบริหารชาวอังกฤษ เคยมีความทะเยอทะยานถึงขั้นทำรถสปอร์ตกำลังแรงสูง แต่มันไม่ประสบความเร็จ เพราะต้นทุนสูง ราคาขายแพง คนไม่เข้าใจ จึงขายไม่ออก และมีส่วนทำให้บริษัทขาดทุนจนต้องขายกิจการทิ้งไป
โด่งดังจากรถสปอร์ต
MG (เอ็มจี) สมัยอยู่ในการบริหารชาวอังกฤษ เคยมีความทะเยอทะยานถึงขั้นทำรถสปอร์ตกำลังแรงสูง แต่มันไม่ประสบความเร็จ เพราะต้นทุนสูง ราคาขายแพง คนไม่เข้าใจ จึงขายไม่ออก และมีส่วนทำให้บริษัทขาดทุนจนต้องขายกิจการทิ้งไป
MG มีประวัติศาสตร์แรกเริ่มมาจากการทำรถสปอร์ตขนาดเล็ก ทำให้ชาวอังกฤษติดภาพกับรถเปิดประทุนหรือคูเป้แบบ 2 ที่นั่งทรงเตี้ย สืบสานต่อมาหลายเจเนเรชั่น จนถึงรุ่น XPower SV กับรุ่น SVR คือตัวอย่างความบ้าคลั่งในการทำรถยนต์โดยเน้นแค่ความสุดขีดทางวิศวกรรม โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของตลาด จึงกลายเป็นความล้มเหลวไป
หากจะสรุปไทม์ไลน์สั้น ๆ ของรถรุ่น MG XPower มันเปิดต้นแบบในปี 2001 เปิดตัวขายในปี 2003 และยุติการตลาดในปี 2005 ก่อนจะโดนขายกิจการบริษัทให้จีนในปีเดียวกันนั้นเอง และถ้าลงไปดูในรายละเอียดลึก ๆ จะพบว่า รถคันนี้มีข้อดีหลายอย่างทางวิศวกรรม ที่ไม่เข้ากับสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทสักเท่าไหร่
ย้อนกลับไป 2 ปีก่อนที่จะเกิด MG XPower ทางบริษัทรถสัญชาติอังกฤษในขณะนั้น MG ในปี 2000 ได้ถูกกลุ่ม BMW ขายกิจการออกมา เพราะทำให้กลุ่มบีเอ็มฯ เขาขาดทุนถึง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐในตอนนั้น และเมื่อ MG ตกมาอยู่ในกลุ่มนักลงทุนอิสระในอังกฤษ เอ็มจีก็ได้ลงทุนซื้อกิจการรถอิตาลีเล็ก ๆ เข้ามาอยู่ในมือนั่นคือ De Tomaso ซึ่งรถสปอร์ตรุ่น Bigua ที่ทำขายมาตั้งแต่ปี 1997 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
MG X80 คือรถต้นแบบที่เกิดจากการซื้อกิจการรถสปอร์ตอิตาลีที่ไม่ประสบความสำเร็จ มาเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกใหม่เป็นสไตล์อังกฤษ คงเอกลักษณ์กระจังหน้าสืบต่อจาก MGF มีหลังคาแข็งทรงโค้ง ออกแบบโดยมีวัสดุขึ้นรูปจากคาร์บอนไฟเบอร์ด้วย และต่อมาก็ถูกเปิดตัวในชื่อของ MG XPower ในปี 2003 นั่นเอง
นอกจากจะนำพื้นฐานรถสปอร์ตจากอิตาลีแล้ว ยังใช้เครื่องยนต์จากอเมริกันพันธุ์แรงด้วย โดยมันวางเครื่องเบนซิน V8 จากรถ Ford Mustang (ฟอร์ด มัสแตง) แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลัง 390 แรงม้า กับแรงบิด 510 นิวตันเมตร ซึ่งบริษัทนี้ขอลิขสิทธิ์การผลิตมาจากฟอร์ตอย่างถูกต้อง
ตัวถังอิตาลี ดีไซน์จากอังกฤษ ถูกนำไปประกอบที่โรงงาน Modena ในประเทศอิตาลี โดยใช้ชิ้นส่วนรถเก๋งรุ่นถูก ๆ เพื่อลดต้นทุน เช่น ไฟหน้าจาก Fiat Punto ไฟท้ายจาก Fiat coupe กระจกมองข้างจาก Rover 75 ทำให้หลายคนมองว่าจะต้องเป็นรถที่ราคาถูก เพราะใช้พื้นฐานจากรถสปอร์ตรุ่นเก่า และชิ้นส่วนจากรถราคาถูกหลายอย่าง แต่ปรากฎว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น
MG Xpower ถูกเปิดตัวที่ราคา £65,000 นับว่ามีราคาสูงมาก เทียบเท่าค่าตัวในระดับเดียวกับรถสปอร์ตชื่อดังอย่าง Ford Mustang ซึ่งต่างจากภาพจำของลูกค้าที่คิดว่า MG เป็นรถสปอร์ตราคาถูกมาก่อน ทำให้รถรุ่นนี้แทบขายไม่ออก มันถูกขายเพียง 82 คันเท่านั้น และทำให้บริษัท MG ขาดทุนถึง 1 พันล้านปอนด์ จนต้องขายกิจการให้กับ Nanjing จากจีนในปี 2005 และไม่เคยกลับไปมีเจ้าของเป็นคนอังกฤษอีกเลยนับจากนั้น
สาเหตุของความแพง มาจากการขนส่งชิ้นส่วนการประกอบ และการพัฒนาตัวถังใหม่ ที่ต้องนำเข้าจากสวีเดน อังกฤษ ส่งกลับไปยังโรงงานในอิตาลี จึงเกิดเป็นต้นทุนที่มองไม่เห็นดังกล่าว ดังนั้นการทำรถขายสักรุ่น นอกจากจะต้องคำนึงถึงสเปคที่ดีสุดขีด รูปทรงที่สวยทันสมัยแล้ว ยังต้องไม่ลืมควบคุมต้นทุนการพัฒนาตัวรถ เพื่อให้ขายแข่งขันกับเจ้าตลาดได้ด้วย
รถมือสอง MG ในไทย นอกจากรุ่นที่พัฒนาโดยจีนแล้วอย่างเช่น MG3, MG6 ก็ยังสามารถหาซื้อเอ็มจีรุ่นเก่าสมัยยังเป็นของอังกฤษได้ด้วย นั่นคือ MGF ซึ่งเป็นรถสปอร์ตเครื่องวางกลาง ที่เปิดขายไทยเมื่อปี 1993 โดยทำยอดขายได้เล็กน้อย ทำให้มีปริมาณรถมือสองน้อยตามไปด้วย ทำให้ราคาขายต่อยังค้างฟ้าอยู่ที่ 5-7 แสนบาทแล้วแต่สภาพ แต่ก็ต้องอาศัยโอกาสประจวบเหมาะที่เจ้าของรถเดิมอยากปล่อยขายด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ภาพสิทธิบัตร MG Cyberster การกลับมาของสปอร์ตแบบอังกฤษที่ราคาเอื้อมถึงได้