ORA 07 รถยนต์ไฟฟ้าหน้าเรโทรทรงซีดาน เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำตลาดทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ซึ่งจะให้เราเลือกระหว่างรุ่นที่วิ่งได้ไกลกว่าหรือรุ่นที่แรงกว่า

ราคาของ ORA 07 ในไทย มีดังนี้

• ORA 07 Performance ราคา 1,299,000 บาท
• ORA 07 Long Range ราคา 1,499,000 บาท

มิติตัวถังของ ORA 07

• ความยาว 4,871 มม.
• ความกว้าง 1,862 มม. 
• ความสูง 1,500 มม. 
• ระยะฐานล้อ 2,870 มม.

ขุมพลังที่ต้องเลือกระหว่างวิ่งไกลหรือวิ่งเร็ว

GWM ระบุว่า ORA 07 ที่จำหน่ายในไทยมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 204 แรงม้า 340 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้าในรุ่น Long Range ส่วนรุ่นท็อปอย่าง Performance จะมาพร้อมมอเตอร์คู่ 408 แรงม้า 680 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

จับคู่กับแบตเตอรี่ความจุ 83.5 kWh ทั้งสองรุ่น วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 600 กม.และ 495 กม. (มาตรฐาน WLTP) ตามลำดับ

หน้าตาแบบเรโทร ผสานเทคโนโลยีล้ำยุค

ORA 07 มาพร้อมตัวถังสไตล์ซีดานแบบท้ายลาด ทำให้ดูโฉบเฉี่ยว มีการออกแบบหน้าตาโดยรวมไปทางเรโทร ในทางเดียวกันกับ ORA Good Cat เน้นการออกแบบไปในแนวกว้างและแนวยาว พร้อมกดด้านหน้าของตัวรถลงต่ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดอากาศ พร้อมเสริมมัดกล้ามให้กับตัวรถรอบคัน

ไฟหน้าและไฟท้ายของรถมาในทรงรีเพื่อให้เข้ากันกับการออกแบบรอบคัน ไฟเดย์ไลท์แบบ LED ทรงกลม พร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชั่น Follow Me Home 

ตัวรถมาพร้อมหลังคากระจกขนาดใหญ่ ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ไฟฟ้าที่จะยกขึ้นอัตโนมัติเมื่อความเร็ว 70 กม./ชม. ด้านข้างเราจะเห็นล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์อุ้งแมว พร้อมยาง Michelin Pilot Sport ในรุ่น Performance ส่วนในรุ่น Long Range จะเป็นล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ภายในซ่อนเทคโนโลยีล้ำยุค

การออกแบบภายในเป็นสไตล์แบบย้อนยุค ผสานกับการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง ด้านหน้านั้นมาพร้อมหน้าจอ 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอแสดงผลการขับขี่ 10.25 นิ้วที่ถูกแบ่งเป็น 3 จอเล็ก พร้อมกับมี Head-up Display มาให้ด้วย ด้านหลังมีความกว้างขวางลักษณะการนั่งเหมือนอยู่บนโซฟา 

เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง แผงควบคุมทรงท่อตรงกลางรถ มาพร้อมช่องวางแก้วแบบซ่อนตัว พร้อมเปลี่ยนตำแหน่งของเกียร์ไปไว้ที่คอพวงมาลัย ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม กระหึ่มด้วยเครื่องเสียง Infinity ลำโพง 11 ตำแหน่ง

07 มาพร้อมโหมดการขับขี่ถึง 6 โหมดด้วยกัน สามารถเลือกได้ผ่านการหมุนปุ่มกลางคอนโซล ประกอบด้วย โหมด Eco, โหมด WELL BEING (ปรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบปรับอากาศ เป็นต้น) Normal, Sport, Sport Plus และ Individual ที่เราสามารถปรับได้เอง

ตัวรถยังมาพร้อมออพชั่นที่น่าสนใจ เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมกรองฝุ่น PM2.5 เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 และระบบเข้าตัวรถแบบกดปุ่มที่มือจับที่ซ่อนเรียบไปกับตัวรถ ซึ่งน่าเสียดายที่ให้มาแค่ด้านคนขับเท่านั้น

ORA 07 เปิดราคาในไทยแล้ว ราคานี้จะต่อกรกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง BYD Seal ไปจนถึงรถ D-Segment ในตลาดรุ่นอื่น ๆ อย่าง Honda Accord หรือ Toyota Camry ได้หรือเปล่านะ

อ่านเพิ่มเติม: ลองขับ ORA 07 เค้นความแรงจากโหมด Sport Plus จุดลงตัวของความซิ่งและนิ่มนวลครบถ้วน