ปกติเราจะสามารถเห็นรูปแบบตัวถังของรถยนต์ไฟฟ้ากันอยู่ไม่กี่แบบ เช่น ซีดาน, SUV หรือแบบสปอร์ต แต่รถที่เป็นเปิดประทุนนั้นจะยังหาได้ยาก ซึ่งแบรนด์หรู Polestar ของ Volvo (วอลโว่) จะมาเปิดตัวกันเร็ว ๆ นี้
โดยใช้ต้นแบบจาก Polestar O2 คอนเซปท์ที่เปิดตัวมาก่อนหน้า แต่จะได้รบการเปลี่ยนชื่อเป็น Polestar 6 แทน พร้อมวางจำหน่ายในปี 2026
แรงสุดของ Polestar
ตัวรถจะใช้พื้นฐานเดียวกับ Polestar 5 ซึ่งเป็นรถแบบ Grand Tourer ไฟฟ้า แต่จะมีการลดระยะฐานล้อลงมาและยังคงที่นั่งแบบสปอร์ต 2+2 ไว้ พร้อมหลังคาแข็งแบบพับได้
ทางแบรนด์ได้มีการคอนเฟิร์มเกี่ยวกับสมรรถนะที่คาดหวังว่าจะทำกำลังได้สูงสุด 872 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่
สถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800V อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม
สำหรับระยะทางยังไม่มีการเปิดเผยออกมา หากดูจากระยะวิ่งของ Polestar 5 ที่อยู่ที่ประมาณ 480 กิโลเมตร ตัวสปอร์ตเปิดประทุนก็น่าจะไม่หางกันเท่าไรนัก
ราคาก็ยังไม่มีการประกาศเช่นกัน แต่ด้วยความที่ Polestar 6 จะออกมาในฐานะของซุปเปอร์คาร์ ทำให้เราคาดว่าก็ต้องมีราคาแรงไปด้วย อาจจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 ล้านบาทขึ้นไป
ค่าจองเกือบล้าน
ตัวรถในรุ่นเปิดตัวในปัจจุบันเปิดให้ผู้สนใจวางเกินจองกันแล้วที่ 20,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9 แสนบาท
มีจำนวนจำกัดเพียง 500 คันในชื่อ LA Concept Edition ที่จะมาพร้อมกับสีฟ้าแบบใน O2 คอนเซปท์, ภายในตกแต่งสีขาว และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว
ภายในของรถจะมีหน้าจอขนาด 15 นิ้วแนวตั้งกลางคอนโซล และจอมาตรวัดดิจิตอล มีดีไซน์โดยรวมแบบมินิมอล แต่ยังคงความหรูหราไว้
ใช้วัสดุการตกแต่งแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียกโดยรวมว่า “mono-material” โดยจะสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย น้ำหนักเบา และลดของเสียที่เกิดจากการผลิตอีกด้วย
โครงสร้างของรถทำจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการขับขี่ ลดการโคลงตัวให้น้อยลง
แม้จะเป็นอะลูมิเนียมจากกระบวนการรีไซเคิลแต่มีการคัดคุณภาพเพื่อนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ดีกว่า Tesla Roadster?
แน่นอนว่าตัวรถจะมาเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Tesla Roadster เจนเนอเรขั่นที่ 2 ที่เปิดตัวเป็นรถต้นแบบตั้งแต่ปี 2017 แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน่าใด ๆ
หากดูสเปคแล้วต้องยอมรับว่า Polestar 6 มีความแรงน้อย และระยะการวิ่งที่สั้นกว่า แต่นั่นก็จะช่วยให้ตัวรถมีราคาที่ถูกกว่าก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม กว่า Polestar 6 จะวางขายก็ยังมีเวลาอีก 4 ปี ทำให้ยังมีเวลาแข่งขันพัฒนากันอีกนาน และต้องคอยติดตามว่า ใครจะส่งมอบตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าเปิดประทุนได้ก่อนกัน