อีก 2 ปี Porsche (ปอร์เช่) ก็จะทำการเปิดตัวรถยนต์ตัวถัง Boxster และ Cayman ใหม่ในรูปแบบไฟฟ้าเพื่อมาคู่กับ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) ที่วางขายมาก่อนหน้า
แต่หากใครรอไม่ไหว มีคนได้ลองนำ Porsche 914 สุดคลาสสิคมาวางมอเตอร์ไฟฟ้าให้ดู แสดงให้เห็นว่าความคลาสสิคกับไฟฟ้านั้นไปด้วยกันได้
VW Porsche
ตัวรถนั้นคือ 1975 Porsche 914 รถสปอร์ตเครื่องวางกลางหลังคนขับที่เกิดจากการร่วมมือของ Porsche และโฟล์คสวาเกนรุ่นสุดท้ายที่พัฒนาร่วมกัน เพราะ Porsche ต้องการสร้างอะไรที่แปลกใหม่มากกว่า 912
มีการวางขายในช่วง 1968 ถึง 1977 ในฐานะรถสปอร์ตรุ่นเริ่มต้น (Entry level sport car) ด้วยการออกแบบแหวกแนวที่มีไฟหน้าป๊อปอัพ และหลังคาเปิดประทุนถอดได้
ในช่วงแรกของการวางขายมี 2 เครื่องยนต์ให้เลือกคือ เครื่อง 1.7 ลิตร 4 สูบนอนให้กำลัง 80 แรงม้าจากโฟล์ค และเครื่อง 2.0 ลิตร 6 สูบนอน 110 แรงม้าจาก Porsche 911 T
ตามมาด้วยเครื่อง 2.0 ลิตร 4 สูบ 100 แรงม้า ที่มีการขยายมาจากเครื่อง 1.7 ลิตรในปี 1973 และสุดท้ายกับเครื่อง 1.8 ลิตร 4 สูบ 85 แรงม้าในปี 1974
วางมอเตอร์แล้ว
แต่แน่นอนว่าในคันนี้นั้นจะไม่มีการวางเครื่องยนต์สันดาปอยู่ในห้องเครื่อง เพราะได้มีการอัพเกรดให้เป็นระบบไฟฟ้าจากอู่ชื่อดัง EV West ในแคลิฟอร์เนีย
ตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้า HPEVS AC-50 และแพคแบตเตอรี่ CALB LiFeP04 จำนวน 36 ตัว ให้กำลังอยู่ที่ประมาณ 96 แรงม้าตามที่เจ้าของเคลม แต่ยังมีการส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดเดิมอยู่
สภาพยังดี
ภายในส่วนมากจะยังคงสภาพเดิมอยู่ แต่ได้มีการเสริมด้วยหน้าปัดดิจิตอลจาก Andromeda Interfaces ที่จะมีข้อมูลของความเร็ว, อัตราการจ่ายไฟ, อุณหภูมิมอเตอร์, อุณหภูมิทั่วไป และอุณหภฒิสูงสุดในเซลล์
ภายนอกอาจจะมีรอยบ้างตามกาลเวลา แต่ก็ยังมีการทำสีใหม่ด้วยสีแดงแบบวินเทจเดิม พร้อมล้อ Fuch ขนาด 15 นิ้ว และเปลี่ยนกันชนหน้าเป็นไฟเบอร์กลาสใหม่แทนที่ของเดิม
ทำแค่ 3 แสน
ตอนนี้ตัวรถกำลังมีการประมูลกันอยู่ แต่ในโฆษณานั้นไม่ได้กล่าวว่า 914 คันนี้ไปได้ไกลแค่ไหน หรือใช้เวลากี่ชั่วโมงจนถึงชาร์จเต็ม
หรือหากคุณไม่อยากไปแย่งกันประมูลก็สามารถทำเองได้ ตามข้อมูลของเว็บไซต์ EV West ชุดแปลงนี้มีราคาการทำเพียงแค่ 8,734 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3 แสนบาท
หลายคนไม่ชอบ
หลังจากมีการเผยแพร่โพสต์ในการเปลี่ยนรถคลาสสิคคันนี้ไปเป็นไฟฟ้า ก็มีชาวโซเชี่ยลมากมายให้ความเห็นว่าเป็นการทำให้เสียมูลค่ารถ เพราะคนเลือกที่จะเก็บแบบเดิม ๆ มากกว่า หรืออยากได้เครื่องเดิมเพื่อให้ได้ความรู้สึกในการขับขี่แบบในสมัยก่อน
แต่เอาเข้าจริง เรามองว่าการเอารถคลาสสิคแบบนี้ไปแปลงเป็นไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรง เนื่องจากหากมองถึงอายุขัยของตัวรถที่ปัจจุบันก็ 40 ปีแล้ว อะไหล่หรือชิ้นส่วนเครื่องยนต์ก็น่าจะมีความหายากอยู่พอตัว
การยกเครื่องเปลี่ยนเป็นมอเตอร์ก็ยังเป็นการช่วยถนอมรถ และช่วยต่ออายุไปได้อีกประมาณหนึ่ง เพราะหากคุณเอาแต่เก็บรถอย่างเดียว ยังไงชิ้นส่วนก็มีการสึกหรอไปอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามนี่ก็อาจไม่ใช่ข้อดีทั้งหมด เพราะก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการทำแบบนี้ทำให้มูลค่ารถหายไปบ้าง เนื่องจากบางคนน่าจะอยากได้แบบเดิมจริง ๆ
แล้วทุกท่านล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?