เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็สะดวก ไม่เว้นแม้แต่แท็กซี่ ที่ในสหรัฐอเมริกาเริ่มการให้บริการแบบไร้คนขับกันมาพักใหญ่แล้ว

แต่ล่าสุดกลุ่มรถยนต์ Waymo บริษัทแท็กซี่ไร้คนขับรายใหญ่กลับไปขวางถนนในเมือง San Francisco เนื่องจากหมอกลงหนัก ทำให้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานไม่ได้

งงเป็นเสือตาแตก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 11 ในช่วงเวลา 6 โมงเย็น เมื่อกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า Waymo 5 คันซึ่งเป็นรถ Jaguar I-Pace ไปเจอกับหมอกหนาในเมือง San Francisco

และได้มีการคำนวณว่าอันตรายเกินไปที่จะขับต่อ รถจำนวน 4 คันจอดชิดเลนขวาที่บริเวณ San Aleso Avenue ส่งนอีกคันก็ได้จอดนิ่งอยู่กลางถนนเพื่อรอให้หมอกจางลง

โชคดีที่ว่าหมอกนั้นเริ่มจางลงหลังจากผ่านไปประมาณ 6 นาที ตัวรถจึงสามารถทำการขับขี่ต่อไปได้ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนที่ขับตามมาต้องหลบกันเอาเอง

จากการรายงานของ Reuters ค่าย Waymo บริษัทลูกอีกแห่งของบริษัทแม่ของ Google คือ Alphabet ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า "เราได้มีแผนการอัพเดตซอฟต์แวร์ของพวกเราเพื่อพัฒนาด้านหมอกและการจอดเพื่อตอบโต้ถึงปัญหานี้ในอนาคต"

ตัวรถนั้นจะพึ่งพาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ซับซ้อน และเซ็นเซอร์ LiDAR, กล้อง แลเรดาร์เพื่อนำทาง ซึ่งก็บอกได้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังต้องพัฒนาอีกก่อนที่จะได้ใช้แพร่หลาย

แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถยนต์ไร้คนขับจากบริษัทอื่นก็ได้เจอปัญหาเช่นกัน เพราะทาง Cruise ที่ใช้รถ Chevrolet Bolt ็ได้ไปชนเข้ากับท้ายรถเมล์เองขณไม่มีผู้โดยสาร

San Francisco เอง เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่อนุญาตให้ Waymo และ Cruise ทดสอบยานยนต์ไร้คนขับได้ เมืองอื่น ๆ ได้แก่ Phoenix และ Austin