• Tesla อาจทำ Cybertruck ขนาดกลาง
• ยังไม่มีการวางขายในปีนี้

Elon Musk เคยกล่าวว่าไว้ "มันน่าจะดีนะ ถ้ามี Cybertruck ขนาดเล็กกว่าออกมา" แต่เขาก็ไม่เคยได้นำไอเดียนี้ไปต่อยอดเลย อย่างน้อยก็ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ

เขากล่าวว่ามันสมเหตุสมผลที่จะเพิ่มการผลิต Cybertruck ที่เล็กกว่าในระยะยาว แต่นั่นก็ตั้งตอนพฤศจิกายน 2019 และไม่ได้มีข่าวสารออกมาอีกเลย แต่มันกำลังจะเปลี่ยนไป

มีข่าวออกมาว่า Tesla (เทสล่า) อาจจะทำการเปิดตัวกระบะทั้ง 2 ขนาดในงานอีเวนท์พิเศษที่คาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2022 

Trip Chowdhry นักวิเคราะห์จาก Global Equities Research กล่าวว่าจะไม่ได้มีเพียงการเปิดตัวอย่างเดียว แต่จะมีการ 'การปรับแต่งที่สำคัญ' เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นแรกที่ออกมาโชว์ตัวอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม Tesla ส่งมอบรถเกือบล้านคัน แต่ยังไร้วี่แวว Cybertrucks

เขาไม่ได้เปิดเผยว่าการเปลี่ยนแปลงจะมีอะไรบ้าง เพียงแต่กล่าวว่า Tesla Cybertruck ที่อาจเปิดตัวใหม่จะมีขนาดเล็กลง 15-20% ส่วนตัวถังภายนอกจะยังถูกสร้างโดยบริษัทเดิมคือ Steel Dynamics จาก Texas ที่อยู่ห่างจากโรงงาน Texas Gigafactory ไปประมาณ 160 กิโลเมตร

สำหรับการส่งมอบรถ ที่ปล่อยให้เปิดจองอย่างเดียวก็อาจจะยังไม่ได้เริ่มส่งมอบในปีนี้ หลังจาก Reuters กล่าวว่าจะวางขายได้ไวสุดก็ต้นปี 2023 จากการเริ่มผลิตปลายปีนี้

สาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เทสล่าต้องเลื่อนการขายไซเบอร์ทรัคออกไปอย่างยาวนาน เป็นเพราะการปรับเปลี่ยนการออกแบบ หลังจากที่ได้เห็นค่ายอื่น ๆ เปิดตัวไปก่อนหน้าดวยออพชั่นมากมาย อย่างใน GMC Hummer

และเชื่อว่าการทำรุ่นกลางมาขายก็เชื่อมั่นว่าจะต้องมีตลาดของมันอยู่แน่นอน

แต่จะทำมาขายใครล่ะ?

คำถามที่สำคัญที่เราคิดคือ จะทำไซเบอร์ทรัคมาขายใครในสหรัฐ? เนื่องจากตลาดกระบะขนาดกลางมีกลุ่มลูกค้าน้อยมาก ๆ เพราะชาวอเมริกันชอบใช้กระบะขนาดใหญ่ อย่าง For F-150 กระบะฟูลไซส์ยอดขายอันดับ 1

หากจะมองคู่แข่งจริง ๆ ก็เห็นจะเป็น Rivian R1T ที่เปิดตัวแซงหน้าไปก่อน เนื่องจากรถมีขนาดใหญ่กว่า Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์) เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงยังอยู่ในกลุ่มกระบะขนาดกลาง ไม่ถึงฟูลไซส์

ปัจจุบันกลุ่มกระบะขนาดกลางในสหรัฐถือว่าค่อย ๆ เงียบหายไป เนื่องจากคนหันมาใช้กระบะขนาดใหญ่กันหมด ด้วยความคุ้มค่า ความสะดวก และเครื่องที่แรงกว่า

พูดถึงว่า หากมีการทำ Cybertruck ขนาดกลางออกมาจริง แล้ววางขายในต่างประเทศแทน อย่างออสเตรเลีย, จีน หรือแม้แต่ไทยเองก็ตาม ก็คงยังพอขายได้ หากราคาสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้มา

แต่ชาวไทยอาจได้แค่ฝัน เพราะหากเอามาขายจริง ใครจะกล้านำรถไฟฟ้าราคาล้านกว่ามาขนของไประยะไกล ๆ ว่าไหมครับ