Volvo Cars กล่าวว่าภายในต้นปี 2024 จะยุติการผลิตรุ่นดีเซล ขายรุ่นปัจจุบันเท่าที่เหลืออยู่ ในขณะที่กำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2030

บริษัทรถจากสวีเดนนี้ ระบุในแถลงการณ์ว่า “ในอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ รถยนต์วอลโว่ที่ขับเคลื่อนด้วยดีเซลคันสุดท้ายจะถูกสร้างขึ้น ส่งผลให้แบรนด์รถวอลโว่ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์เจ้าเก่ารายแรกๆ ที่ก้าวไปสู่การเป็น EV ล้วนนี้” 

ไม่ร่วมทุนกับ Geely ในจีน

Volvo ยังมี Geely เป็นเจ้าของหุ้นใหญ่ถึง 82% แต่ในส่วนกิจการ Volvo ในจีน ตั้งแต่โรงงานผลิต จนถึงโชว์รูม กลายเป็นของวอลโว่เต็มตัว ไม่ได้ร่วมทุนกันเหมือนแต่ก่อน นับว่าเป็นค่ายรถต่างชาติรายแรกในจีน ที่พลิกการร่วมทุนแบรนด์จีน กลับขึ้นมาคุมกิจการทั้งหมดในประเทศนั้น

ในขณะที่รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ Volvo ขายในยุโรปเป็นรถยนต์ดีเซลในปี 2019 แต่ในปี 2022 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 8.9% ของยอดขายของผู้ผลิตรถยนต์ในสวีเดน

ยอดขายของ Volvo ในเดือนสิงหาคม เป็นรุ่นไฟฟ้าหรือไฮบริดจำนวน 33% บริษัทไม่ได้แจกแจงว่าเครื่องยนต์สันดาปที่เหลืออีก 67% เป็นรุ่นดีเซลหรือเบนซินอย่างละกี่รุ่น

ยอดขายในยุโรปหดตัว

ยอดขายรุ่นดีเซลลดลงอย่างรวดเร็วในยุโรป นับตั้งแต่เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงการปล่อยมลพิษ และผู้ผลิตรถยนต์ค่อยๆ ลดจำนวนรุ่นดีเซลที่มีอยู่ในรุ่นต่างๆ ของตนลง จากเดิมในปี 2015 รถยนต์ดีเซลมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรป แต่ในเดือนกรกฎาคมปี 2023 นี้คิดเป็น 14% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปเท่านั้น

V60 คือรุ่นสุดท้าย

เครื่องดีเซลในรถยนต์นั่ง Volvo เป็นแบบ 4 สูบ 2.0 ลิตรติดเทอร์โบเดี่ยว 148 แรงม้า และเทอร์โบคู่ 232 แรงม้า โดยรถรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวพร้อมกับเครื่องบล็อคนี้ได้แก่รุ่น V60 ในปี 2018 และนี่จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้ใช้พลังดีเซลแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : Volvo ซื้อ Geely ทั้งโรงงาน-โชว์รูมทำขายเอง คุมกิจการจีนทั้งหมด ส่งมอบ XC40 ไฟฟ้าถึงไทยแล้ว